INTRODUCTION Artemisinin-derived dr

INTRODUCTION
Artemisinin-derived drugs have been shown to be effective against a variety of parasites that affect the health of humans and animals, such as Plasmodium spp. (1), Coccidia spp. (2), Babesia spp. (3), Leishmania spp. (4), Neospora caninum (5), and Schistosoma spp. (6, 7), the latter living in the circulatory system of the host. By affecting either animals or humans, these parasites hinder economic development and often kill the parasitized species. Artemisinin-derived drugs have also been successfully used for the treatment of cancer (8, 9) and, if approved by the Food and Drug Administration, will lead to an increased demand for artemisinin worldwide. Artemisia annua L. (Asteraceae), subsequently referred to as artemisia, is the only source of artemisinin but has also been tested as a valuable herbal tea in the control of malaria (10). When studied as a component of meat goat diet in vitro, artemisia did not affect the digestive microflora (11), suggesting its potential use as an alternative forage for small ruminants, and on the basis of its reported effects against Schistosoma spp., it could work as a natural means of controlling gastrointestinal parasites in small ruminants. Currently, however, the most important benefit for global health and economics is the agricultural expansion of artemisia cultivation areas to produce artemisinin to treat multidrug-resistant Plasmodium falciparum. Falciparum malaria afflicts over 300 million people and kills over 1 million children, under the age of five, yearly. Malaria-inflicted economic losses in Africa involve loss of labor, agricultural losses due to the debilitating disease, and poverty. These losses are estimated to be $12 billion a year in lost gross domestic product (12). Administration of artemisinin with other antimalarial drugs (artemisinin-based combination therapy, ACT) has been recommended by the World Health Organization (WHO) since 2001 wherever resistance to conventional antimalarial drugs has been observed (13). From 2001 to 2005, 53 countries in Africa, Asia, and South America have adopted ACT as the first- or secondline antimalarial where chloroquine is no longer effective (13). This recommendation caused the demand for artemisinin to increase, leading to supply shortages up to 2004 (14), although the situation has been recently reported as being under control (13).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำ Artemisinin-derived drugs have been shown to be effective against a variety of parasites that affect the health of humans and animals, such as Plasmodium spp. (1), Coccidia spp. (2), Babesia spp. (3), Leishmania spp. (4), Neospora caninum (5), and Schistosoma spp. (6, 7), the latter living in the circulatory system of the host. By affecting either animals or humans, these parasites hinder economic development and often kill the parasitized species. Artemisinin-derived drugs have also been successfully used for the treatment of cancer (8, 9) and, if approved by the Food and Drug Administration, will lead to an increased demand for artemisinin worldwide. Artemisia annua L. (Asteraceae), subsequently referred to as artemisia, is the only source of artemisinin but has also been tested as a valuable herbal tea in the control of malaria (10). When studied as a component of meat goat diet in vitro, artemisia did not affect the digestive microflora (11), suggesting its potential use as an alternative forage for small ruminants, and on the basis of its reported effects against Schistosoma spp., it could work as a natural means of controlling gastrointestinal parasites in small ruminants. Currently, however, the most important benefit for global health and economics is the agricultural expansion of artemisia cultivation areas to produce artemisinin to treat multidrug-resistant Plasmodium falciparum. Falciparum malaria afflicts over 300 million people and kills over 1 million children, under the age of five, yearly. Malaria-inflicted economic losses in Africa involve loss of labor, agricultural losses due to the debilitating disease, and poverty. These losses are estimated to be $12 billion a year in lost gross domestic product (12). Administration of artemisinin with other antimalarial drugs (artemisinin-based combination therapy, ACT) has been recommended by the World Health Organization (WHO) since 2001 wherever resistance to conventional antimalarial drugs has been observed (13). From 2001 to 2005, 53 countries in Africa, Asia, and South America have adopted ACT as the first- or secondline antimalarial where chloroquine is no longer effective (13). This recommendation caused the demand for artemisinin to increase, leading to supply shortages up to 2004 (14), although the situation has been recently reported as being under control (13).

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำ
ยาเสพติด Artemisinin มาได้รับการแสดงที่จะมีประสิทธิภาพกับความหลากหลายของปรสิตที่มีผลต่อสุขภาพของมนุษย์และสัตว์เช่น Plasmodium spp (1), เอสพีพี Coccidia (2), เอสพีพี Babesia (3), เอสพีพี Leishmania (4), Neospora caninum (5) และเอสพีพี Schistosoma (6, 7), ที่อยู่อาศัยหลังในระบบไหลเวียนของโฮสต์ โดยมีผลกระทบต่อทั้งสัตว์หรือมนุษย์ปรสิตเหล่านี้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและมักจะฆ่าสายพันธุ์เบียน ยา artemisinin มาได้ถูกนำมาใช้ประสบความสำเร็จในการรักษาโรคมะเร็ง (8, 9) และหากได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการอาหารและยาจะนำไปสู่ความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับ artemisinin ทั่วโลก Artemisia ประจำปีลิตร (แอสเทอ) ต่อมาเรียกว่า Artemisia เป็นแหล่งเดียวของ artemisinin แต่ยังได้รับการทดสอบเป็นชาสมุนไพรที่มีคุณค่าในการควบคุมโรคมาลาเรีย (10) เมื่อศึกษาเป็นส่วนประกอบของอาหารเนื้อแพะในหลอดทดลอง, Artemisia ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อจุลินทรีย์ย่อยอาหาร (11) ชี้ให้เห็นการใช้งานที่มีศักยภาพในฐานะที่เป็นทางเลือกสำหรับอาหารสัตว์เคี้ยวเอื้องขนาดเล็กและอยู่บนพื้นฐานของผลกระทบต่อการรายงาน Schistosoma spp. ก็สามารถทำได้ ทำงานเป็นวิธีธรรมชาติในการควบคุมพยาธิในทางเดินอาหารในสัตว์เคี้ยวเอื้องขนาดเล็ก ปัจจุบัน แต่ผลประโยชน์ที่สำคัญที่สุดสำหรับสุขภาพระดับโลกและเศรษฐกิจคือการขยายตัวทางการเกษตรของพื้นที่เพาะปลูก Artemisia การผลิต artemisinin การรักษา Plasmodium ดื้อยาหลาย falciparum มาลาเรีย falciparum afflicts มากกว่า 300 ล้านคนและฆ่ากว่า 1 ล้านเด็กที่มีอายุต่ำกว่าห้ารายปี มาลาเรียบาดแผลความเสียหายทางเศรษฐกิจในแอฟริกาเกี่ยวข้องกับการสูญเสียของการใช้แรงงาน, การสูญเสียทางการเกษตรเนื่องจากโรครุมเร้าและความยากจน สูญเสียเหล่านี้คาดว่าจะ $ 12000000000 ปีในผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่หายไป (12) การบริหารงานของ artemisinin กับยาเสพติดมาลาเรียอื่น ๆ (การรักษาด้วยการรวมกันของ artemisinin-based, ACT) ได้รับการแนะนำโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ตั้งแต่ปี 2001 ที่ใดก็ตามที่ความต้านทานต่อยาต้านมาลาเรียเดิมได้รับการสังเกต (13) จากปี 2001 ถึงปี 2005 53 ประเทศในทวีปแอฟริกาเอเชียและอเมริกาใต้ได้นำทำหน้าที่เป็นครั้งแรกมาลาเรียหรือมาลาเรีย secondline ที่ไม่ได้อยู่ที่มีประสิทธิภาพ (13) ข้อเสนอแนะเรื่องนี้ทำให้เกิดความต้องการที่จะเพิ่ม artemisinin ที่นำไปสู่การขาดแคลนอุปทานถึง 2004 (14) แม้ว่าสถานการณ์ได้รับการรายงานเมื่อเร็ว ๆ นี้อยู่ภายใต้การควบคุม (13)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทนำ
ินได้มายาได้รับการแสดงที่จะมีประสิทธิภาพกับความหลากหลายของปรสิตที่มีผลต่อสุขภาพของมนุษย์และสัตว์ เช่น การใช้ ( 1 ) เลี้ยง spp . ( 2 ) ( 3 ) babesia spp . , โรคลิชมาเนีย ( 4 ) , นีโอ าเคไนนุม ( 5 ) และ ( 6 , 7 schistosoma spp . ) , ชีวิตหลังในระบบไหลเวียนโลหิตของโฮสต์ โดยส่งผลกระทบต่อทั้งสัตว์หรือมนุษย์ปรสิตเหล่านี้ขัดขวางการพัฒนาเศรษฐกิจและมักจะฆ่าเป็นปรสิตชนิด ยาอาร์ทีมิซินิน ซึ่งยังได้รับการใช้ประสบความสำเร็จในการรักษามะเร็ง ( 8 , 9 ) และถ้าได้รับการอนุมัติโดยองค์การอาหารและยา จะนำไปสู่ความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับยาทั่วโลก อาร์เทมิเซีย annua ลิตร ( Asteraceae ) ต่อมาเรียกว่าอาร์ ,เป็นแหล่งเดียวของอาร์ทีมิซินิน แต่ยังถูกใช้เป็นชาสมุนไพรที่มีคุณค่าในการควบคุมโรคมาลาเรีย ( 10 ) เมื่อใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารแพะเนื้อในหลอดทดลอง , อาร์ไม่มีผลต่อจุลินทรีย์ย่อยอาหาร ( 11 ) แนะนำใช้ศักยภาพของมันเป็นพืชอาหารสัตว์ทางเลือกสำหรับสัตว์เคี้ยวเอื้องขนาดเล็ก และบนพื้นฐานของรายงานผลต่อ schistosoma spp .มันสามารถทำงานเป็นแบบธรรมชาติ วิธีควบคุมปรสิตในทางเดินอาหารในสัตว์เคี้ยวเอื้องขนาดเล็ก ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ที่สำคัญที่สุดสำหรับเศรษฐกิจโลกในด้านสุขภาพ และการขยายพื้นที่การปลูกเพื่อผลิตการเกษตรของอาร์วินรักษารวมถึงประเทศไทย พลาสโมเดียม ฟัลซิปารัม . พลาสโมเดียมมาลาเรีย afflicts กว่า 300 ล้านคนและฆ่ามากกว่า 1 ล้านคนอายุต่ำกว่า 5 ปี มาลาเรียสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจในแอฟริกาที่เกี่ยวข้องกับการสูญเสียของการสูญเสียแรงงาน การเกษตร เนื่องจากโรค debilitating และความยากจน ความสูญเสียเหล่านี้คาดว่าจะเป็น $ 12 พันล้านปีในสูญเสียผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ( 12 ) การบริหารยาต้านมาลาเรีย artemisinin กับอื่น ๆรวมกัน ( artemisinin การบำบัดตามพระราชบัญญัติ ) ได้รับการแนะนำโดยองค์การอนามัยโลก ( WHO ) ตั้งแต่ปี 2001 ที่ต้านทานต่อยาต้านมาลาเรียปกติได้รับการตรวจสอบ ( 13 ) จากปี 2001 ถึง 2005 53 ประเทศในทวีปแอฟริกา เอเชีย และอเมริกาใต้ ได้ประกาศใช้เป็นครั้งแรก หรือเซคันท์ ไลน์ที่ครุฑและไม่มีผลอีกต่อไปแล้ว ( 13 ) คำแนะนำนี้เกิดจากความต้องการยาเพิ่มขึ้นนำไปสู่การขาดแคลนอุปทานถึง 2004 ( 14 ) แม้ว่าสถานการณ์ที่ได้รับเมื่อเร็ว ๆนี้รายงานที่ถูกควบคุม ( 13 ) .