Meyers and Nulty (2009) suggest tha

Meyers and Nulty (2009) suggest that for maximum a student-learning outcome, academicians need to
develop courses in such ways that offer students teaching and learning materials, experiences and tasks that are
relevant in the real world.

Additionally, the tasks need to be constructive and interlinked and provide a challenge
to the students while also acting as a motivation factor.

Adopting of effective teaching to match the personal
strengths of the students ensures that a student’s learning outcome is achieved (Meyers & Nulty, 2009).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Meyers และ Nulty (2009) แนะนำว่า สำหรับผลการเรียนรู้นักเรียนมากที่สุด academicians ต้องพัฒนาหลักสูตรในลักษณะดังกล่าวที่มีการเรียนการสอน และการเรียนรู้วัสดุ ประสบการณ์ และงานที่เกี่ยวข้องในโลกจริง นอกจากนี้ งานต้อง interlinked และสร้างสรรค์ และมีความท้าทายนักเรียนในขณะที่ยัง ทำหน้าที่เป็นปัจจัยแรงจูงใจ ใช้การสอนให้ตรงกับบุคคลมีประสิทธิภาพจุดแข็งของนักศึกษาให้แน่ใจว่า นักเรียนของเรียนผลที่ได้จะทำได้ (Meyers & Nulty, 2009)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมเยอร์สและ Nulty (2009)
แสดงให้เห็นว่าไม่เกินผลที่นักเรียนเรียนรู้ที่นักวิชาการต้องพัฒนาหลักสูตรในรูปแบบดังกล่าวที่ให้นักเรียนเรียนการสอนและสื่อการเรียนรู้ประสบการณ์และงานที่เกี่ยวข้องในโลกจริง. นอกจากนี้งานที่จำเป็นต้องมี สร้างสรรค์และเชื่อมโยงกันและให้ความท้าทายให้กับนักเรียนในขณะที่ยังทำหน้าที่เป็นปัจจัยแรงจูงใจ. การนำที่มีประสิทธิภาพของการเรียนการสอนเพื่อให้ตรงกับบุคคลจุดแข็งของนักเรียนเพื่อให้แน่ใจว่าผลการเรียนรู้ของนักเรียนจะประสบความสำเร็จ (เมเยอร์สและ Nulty 2009)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมเยอร์ส และ nulty ( 2009 ) ได้แนะนำว่า สำหรับนักเรียนที่ผลการเรียนสูงสุด นักวิชาการต้อง
พัฒนาหลักสูตรวิธีสอนที่ให้นักเรียนและสื่อการเรียนรู้ ประสบการณ์ และงานที่มี
ที่เกี่ยวข้องในโลกจริง

นอกจากนี้ งานที่ต้องสร้างสรรค์และเชื่อมโยงกันและให้ความท้าทาย
กับนักเรียนในขณะที่ยังทำหน้าที่เป็นปัจจัยแรงจูงใจ

การสอนที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้ตรงกับบุคคล
จุดแข็งของนักเรียนเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นนักเรียนผลการเรียนได้ ( เมเยอร์& nulty , 2009 )