Vulnerability can be experienced in

Vulnerability can be experienced in practice
when interpersonal and professional
relationships with colleagues, patients and
their families present difficult challenges
and the practitioner may feel disempowered
due to a perceived lack of control over
evolving situations (Xyrichis & Ream 2008).
Austin (2005) purports that humans are
vulnerable beings possessing an intrinsic
need to trust in order to survive in life,
while Sellman (2006) warns that betrayal
of trust leads to vulnerability. A ‘thinking
tank’ session with perioperative colleagues,
prior to the literature analysis, generated
their perception of perioperative patient
vulnerability, as outlined in Figure 2.
Figure 2 Vulnerability: Concept descriptors
(highlight by colleagues)
Paradoxically, within nursing literature the
concept of vulnerability has been defined in
specific populations, for example patients
with HIV/AIDS, neonates, the homeless,
older people, and women and children.
Purdy (2004) described vulnerable
populations as: unprotected, exposed,
undefended, sensitive or immature.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีช่องโหว่ในทางปฏิบัติ
เมื่อมนุษยสัมพันธ์ และเป็นมืออาชีพ
ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ผู้ป่วย และ
ครอบครัวนำเสนอความท้าทายยาก
และแพทย์อาจรู้สึก disempowered
ไม่รับรู้การควบคุม
พัฒนาสถานการณ์ (Xyrichis & Ream 2008) .
บุคลิก Austin (2005) ที่มนุษย์
สิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอมีการ intrinsic
จำเป็นต้องไว้วางใจเพื่อความอยู่รอดในชีวิต,
ขณะ Sellman (2006) เตือนว่า ทรยศ
ของความน่าเชื่อถือที่นำไปสู่ความเสี่ยง A ' คิด
ถัง ' เซสชันกับเพื่อนร่วมงานของ perioperative,
ก่อนวิเคราะห์วรรณกรรม สร้าง
ความรับรู้ของผู้ป่วย perioperative
ช่องโหว่ ตามที่ระบุไว้ในรูปที่ 2.
โหว่ 2 รูป: ตัวบอกแนวคิด
(highlight by colleagues)
Paradoxically พยาบาลภายในวรรณคดี
ได้กำหนดแนวคิดของช่องโหว่ใน
เฉพาะประชากร ตัวอย่างผู้ป่วย
เอชไอวี/เอดส์ neonates ไร้ที่ อยู่,
คนสูงอายุ ผู้หญิง และเด็กด้วย
Purdy (2004) อธิบายความเสี่ยงต่อ
ประชากรเป็น: ป้องกัน สัมผัส,
undefended สำคัญ หรือ immature

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ช่องโหว่สามารถมีประสบการณ์ในการปฏิบัติ
เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและเป็นมืออาชีพ
ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานของผู้ป่วยและ
ครอบครัวของพวกเขานำเสนอความท้าทายที่ยาก
และผู้ประกอบการอาจจะรู้สึก disempowered
เนื่องจากการขาดการรับรู้ในการควบคุม
สถานการณ์การพัฒนา (Xyrichis & รีม 2008)
ออสติน (2005) กล่าวอ้างว่า มนุษย์เป็น
สิ่งมีชีวิตที่มีความเสี่ยงที่แท้จริง
ต้องให้ความไว้วางใจเพื่อให้อยู่รอดในชีวิต
ในขณะที่ Sellman (2006) เตือนว่าการทรยศ
ของความไว้วางใจนำไปสู่ความเสี่ยง 'คิด
ถัง 'เซสชั่นกับเพื่อนร่วมห้องผ่าตัด
ก่อนที่จะมีการวิเคราะห์วรรณกรรมที่สร้าง
การรับรู้ของผู้ป่วยผ่าตัด
ช่องโหว่ดังที่ระบุไว้ในรูปที่ 2
รูปที่ 2 ช่องโหว่: อธิบายแนวคิด
(ไฮไลท์จากเพื่อนร่วมงาน)
ขัดแย้งภายในวรรณกรรมพยาบาล
แนวคิดของช่องโหว่ ได้รับการกำหนดไว้ใน
ประชากรที่เฉพาะเจาะจงสำหรับผู้ป่วยเช่น
เอชไอวี / เอดส์ทารกแรกเกิดไม่มีที่อยู่อาศัยของ
ผู้สูงอายุและผู้หญิงและเด็ก
จัง (2004) อธิบายความเสี่ยง
ประชากรเป็น: ไม่มีการป้องกันสัมผัส
คุ้มกัน, ที่สำคัญหรือที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ช่องโหว่ที่สามารถมีประสบการณ์ในการปฏิบัติ

เมื่อบุคคลและความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน และครอบครัวของผู้ป่วย

ความท้าทายยากในปัจจุบันและ practitioner ( แพทย์ ) อาจจะรู้สึก disempowered
เนื่องจากมีการขาดการควบคุม
พัฒนาสถานการณ์ ( xyrichis &เรียม 2008 ) .
ออสติน ( 2005 ) กล่าวอ้างว่า มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ครอบครอง
เปราะบาง แท้จริง
ต้องไว้ใจ เพื่อความอยู่รอดในชีวิต ในขณะที่ sellman

( 2006 ) เตือนว่า การทรยศความไว้วางใจจะนำไปสู่ความอ่อนแอ เซสชัน ' รถถัง ' กับเพื่อนร่วมงานคิด

ก่อนผ่าตัด การวิเคราะห์วรรณกรรม สร้างการรับรู้ความเสี่ยงของผู้ป่วย

ผ่าตัดตามที่อธิบายไว้ในรูปที่ 2 รูปที่ 2 ช่องโหว่ :

( เน้นแนวคิดในเพื่อนร่วมงาน )
ขัดแย้งกันในพยาบาลวรรณกรรมแนวคิดของความเสี่ยงได้ถูกกำหนดไว้ใน
ประชากรที่เฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่นผู้ป่วย
กับเอชไอวี / เอดส์ , ทารกแรกเกิด , จรจัด
คนแก่ ผู้หญิงและเด็ก
Purdy ( 2004 ) อธิบายประชากร
: การป้องกัน , สัมผัส ,
ต้าน อ่อนแอ หรืออ่อน