The resting metabolic rate did not

The resting metabolic rate did not change significantly over time in either group. The mean energy expenditure (not including energy expended in producing milk) was similar between the groups at base line, differed by 281 kcal per day (1.2 MJ per day) (P = 0.09) at the midpoint of the study because of the exercise program, but did not differ significantly at the end of the study even though the exercising women continued to expend about 400 kcal per day (1.7 MJ per day) in exercise. The data on energy expenditure in the active range indicate that the women in the exercise group cut back on other activities during the second half of the study. There was no change in the amount of time spent sleeping by either group.

The intake of breast milk by the infants was slightly lower in the exercise group than in the control group at all three study points when expressed in terms of grams per day (because the infants of the exercising mothers were smaller initially and thus consumed less milk), but not when expressed in terms of grams per kilogram of body weight per day. The breast-milk composition (lipid, protein, and lactose concentrations, and energy density) did not differ between the two groups except for the concentration of protein, which was significantly higher in the exercise group than in the control group at the final measurement. However, the change in the protein concentration did not differ between the groups (P = 0.80); both declined significantly over time (P

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อัตราการเผาผลาญที่พักได้ไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญเวลาในกลุ่มใด รายจ่ายหมายถึงพลังงานที่ (ไม่รวมพลังงานที่ใช้ในการผลิตน้ำนม) คล้ายคลึงกันระหว่างกลุ่มที่ฐานบรรทัด แตกต่าง โดย 281 กิโลแคลอรีต่อวัน (วันละ 1.2 MJ) (P = 0.09) ที่จุดกึ่งกลางของการศึกษาเนื่องจากโปรแกรมออกกำลังกาย แต่ได้ไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญที่สุดของการศึกษาแม้ผู้หญิง exercising ต่อการจับจ่ายใช้สอยประมาณ 400 กิโลแคลอรีต่อวัน (วันละ 1.7 MJ) ในการออกกำลังกาย ข้อมูลรายจ่ายพลังงานในช่วงใช้งานระบุว่า ผู้หญิงในกลุ่มออกกำลังกายตัดกลับมาในกิจกรรมอื่น ๆ ในช่วงครึ่งหลังของการศึกษา ไม่เปลี่ยนแปลงเวลาที่ใช้ในการนอนหลับทั้งกลุ่มได้การบริโภคน้ำนมโดยทารกได้ต่ำกว่าเล็กน้อยในกลุ่มออกกำลังกายมากกว่าเรียนในกลุ่มควบคุมในทั้งหมดสามจุดเมื่อแสดงในรูปของกรัมต่อวัน (เนื่องจากทารกของมารดา exercising มีขนาดเล็กครั้งแรก และดังนั้นจึงใช้นมน้อย), แต่ไม่เมื่อแสดงในรูปของกรัมต่อกิโลกรัมของน้ำหนักตัวต่อวัน ส่วนประกอบนม (ความเข้มข้นของไขมัน โปรตีน และแล็กโทส และความหนาแน่นของพลังงาน) ได้ไม่แตกต่างกันระหว่างสองกลุ่มยกเว้นความเข้มข้นของโปรตีน ซึ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มออกกำลังกายมากกว่าในกลุ่มควบคุมในการประเมินขั้นสุดท้าย อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของโปรตีนได้ไม่แตกต่างระหว่างกลุ่ม (P = 0.80); ทั้งปฏิเสธมากช่วงเวลา (P < 0.001 โดยผลต่างของการวิเคราะห์มาตรการซ้ำ) สำหรับปริมาณน้ำนม ผลลัพธ์ของพลังงานในนมค่อนข้างต่ำในกลุ่มออกกำลังกายมากกว่าในกลุ่มควบคุมที่ประเมินทั้งหมดเมื่อแสดงใน kilocalories ต่อวัน แต่ไม่ได้ เมื่อการปรับปรุงสำหรับน้ำหนักตัวของทารก (kilocalories /กิโลกรัมต่อวัน) มีไม่แตกต่างกันระหว่างสองกลุ่มในการเปลี่ยนแปลงในปริมาณน้ำนมแม่โดยทารก ผลผลิตพลังงานในนม น้ำหนักตัวของทารกในระหว่างการศึกษา (รูป 1Figure 1Percent เพิ่มปริมาณน้ำนมแม่ และผล ผลิตพลังงาน) และแน่นอนเพิ่มน้ำหนักของทารกการออกกำลังกายและกลุ่มควบคุมในระหว่างการศึกษา 12 สัปดาห์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อัตราการเผาผลาญพักผ่อนไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเวลาที่อยู่ในกลุ่มอย่างใดอย่างหนึ่ง ค่าเฉลี่ยการใช้พลังงาน (ไม่รวมพลังงานที่ใช้จ่ายในการผลิตนม) เป็นที่คล้ายกันระหว่างกลุ่มที่เส้นฐานที่แตกต่างไปจาก 281 กิโลแคลอรีต่อวัน (1.2 MJ ต่อวัน) (p = 0.09) ที่จุดกึ่งกลางของการศึกษาเพราะโปรแกรมการออกกำลังกาย แต่ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญในตอนท้ายของการศึกษาแม้ว่าผู้หญิงออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องเพื่อใช้จ่ายประมาณ 400 กิโลแคลอรีต่อวัน (1.7 MJ ต่อวัน) ในการออกกำลังกาย ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้พลังงานในช่วงที่ใช้งานระบุว่าผู้หญิงในกลุ่มออกกำลังกายลดกิจกรรมอื่น ๆ ในช่วงครึ่งหลังของการศึกษา ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในระยะเวลาที่ใช้ในการนอนหลับโดยทั้งสองกลุ่ม. การหดตัวของเต้านมโดยทารกลดลงเล็กน้อยในกลุ่มออกกำลังกายกว่ากลุ่มควบคุมที่ทั้งสามจุดศึกษาเมื่อแสดงในรูปของกรัมต่อวัน (เพราะ ทารกของมารดาที่ออกกำลังกายในตอนแรกมีขนาดเล็กและบริโภคจึงนมน้อยกว่า) แต่ไม่ได้เมื่อแสดงในรูปของกรัมต่อกิโลกรัมของน้ำหนักตัวต่อวัน องค์ประกอบนมเต้านม (ไขมันโปรตีนและความเข้มข้นของแลคโตสและความหนาแน่นของพลังงาน) ไม่แตกต่างกันระหว่างสองกลุ่มยกเว้นสำหรับความเข้มข้นของโปรตีนซึ่งเป็นที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มออกกำลังกายกว่ากลุ่มควบคุมที่วัดสุดท้าย อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงในความเข้มข้นของโปรตีนที่ไม่แตกต่างกันระหว่างกลุ่ม (p = 0.80); ทั้งสองปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเวลา (p <0.001 โดยการวิเคราะห์มาตรการซ้ำแปรปรวน) สำหรับปริมาณของเต้านม, การส่งออกของพลังงานในนมค่อนข้างต่ำในกลุ่มออกกำลังกายกว่าในกลุ่มควบคุมที่วัดทั้งหมดเมื่อแสดงในรูปของกิโลแคลอรีต่อวัน แต่ไม่เมื่อปรับน้ำหนักตัวของทารก ( กิโลแคลอรีต่อกิโลกรัมต่อวัน) ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างทั้งสองกลุ่มในการเปลี่ยนแปลงในการบริโภคนมนมทารกโดยการส่งออกพลังงานในนมหรือน้ำหนักตัวของทารกในช่วงการศึกษา (รูป 1Figure 1Percent เพิ่มขึ้นของปริมาณนมนมและเอาท์พุทพลังงานและ Absolute ได้ เพิ่มขึ้นในทารกน้ำหนักในการออกกำลังกายและการควบคุมกลุ่มในระหว่างการศึกษา 12 สัปดาห์.)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อัตราเมตาบอลิสมไม่ได้เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทั้งในกลุ่ม ค่าเฉลี่ยของพลังงาน ( ไม่รวมพลังงานที่ใช้ในการผลิตน้ำนม ) ที่คล้ายคลึงกันระหว่างกลุ่มที่เส้นฐานแตกต่างจาก 281 กิโลแคลอรีต่อวัน ( 1.2 เมกะจูลต่อวัน ) ( p = 0.09 ) ที่จุดกึ่งกลางของการศึกษาเพราะของโปรแกรมการออกกำลังกายแต่ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติผลการศึกษา แม้ว่าการออกกำลังกายหญิงยังคงใช้จ่ายประมาณ 400 กิโลแคลอรี่ต่อวัน ( 1.7 เมกะจูลต่อวัน ) ในการออกกำลังกาย ข้อมูลการใช้พลังงานในช่วงที่ใช้งาน พบว่า ผู้หญิงในกลุ่มออกกำลังกาย ตัดกลับมาในกิจกรรมอื่น ๆ ในช่วงครึ่งหลังของการศึกษาไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเวลาหลับ โดยทั้งสองกลุ่ม

การบริโภคนม โดยทารกได้ลดลงเล็กน้อยในกลุ่มออกกำลังกาย มากกว่าในกลุ่มควบคุมที่ศึกษาทั้งหมดสามจุดเมื่อแสดงออกในแง่ของกรัมต่อวัน ( เพราะทารกของมารดาที่มีขนาดเล็กเริ่มต้นออกกำลังกายและดังนั้นจึงใช้ นมน้อยลง )แต่เมื่อแสดงออกในแง่ของกรัมต่อกิโลกรัมของน้ำหนักร่างกายต่อวัน เต้านมนมองค์ประกอบ ( ไขมัน โปรตีน และ แลคโตส ความเข้มข้น และความหนาแน่นของพลังงาน ) ไม่มีความแตกต่างกันระหว่างสองกลุ่ม ยกเว้นความเข้มข้นของโปรตีน ซึ่งสูงกว่าในกลุ่มออกกำลังกาย มากกว่าในกลุ่มควบคุมวัดสุดท้าย อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงในระดับโปรตีนไม่แตกต่างกันระหว่างกลุ่ม ( P = 0.80 ) ; ทั้งสองลดลงอย่างมากตลอดเวลา ( P < 0.001 โดยการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวชนิดวัดซ้ำ ) สำหรับปริมาณของนมที่ผลิตพลังงานในน้ำนมค่อนข้างต่ำในกลุ่มออกกำลังกาย มากกว่าในกลุ่มควบคุมวัดทั้งหมด เมื่อแสดงออกในแง่ของกิโลแคลอรี่ต่อวันแต่เมื่อปรับน้ำหนักตัวของทารก ( กิโลแคลอรี่ต่อกิโลกรัมต่อวัน ) พบความแตกต่างระหว่างสองกลุ่มในการเปลี่ยนแปลงในการบริโภคนม โดยทารก ผลผลิตพลังงานในน้ำนมหรือ ทารกน้ำหนักตัวระหว่างศึกษา ( รูป 1percent 1figure เพิ่มปริมาณนม และพลังงานและเพิ่มผลผลิตที่แน่นอนในทารกน้ำหนักในการออกกำลังกายและกลุ่มควบคุมในช่วง 12 สัปดาห์การศึกษา )