Chera and Chola dynasties.Of the se

Chera and Chola dynasties.

Of the seven specially mentioned temples of Kongu Nad, the one in Karur ranks first. Dedicated to Kalyana Pasupatheeswarar, the temple is centrally located in the city, with the river Amaravathy flowing in close proximity.

In ancient times Karur had trade links with the Romans as evidenced by numismatic findings. It can be easily reached both by road and rail from Tiruchi (76 km), Salem (100 km) and Coimbatore (113 km). Karur also goes by the names Karur Anilai and Vanjimanagaram. It used to be called Vanji since it was the capital of the Chera kings for a long time before it was shifted to Cranganoor in Kerala. The epithet, ‘Karur Anilai’ connotes that the celestial cow, Kamadhenu worshipped Siva at this place, which was a dense forest. The name Karur is also supposed to mean ‘embryo village,’ and according to legend, Brahma started his creation at this place, and as such the place goes by the name, Brahmagiri. There are a few more names by which this place is known.

A two-kilometre ride from the railway station by auto or taxi takes one to the temple, which faces east, with an arresting seven-tier rajagopuram. On its façade a beautiful picture of a cow with a swirl in its body and emptying its milk over the lingam presages the name of the main deity inside the temple. The rajagopuram is said to have been built by Pugazh Chola, a king, with his seat of rule at Woraiyur.

On entering the rajagopuram, one would step into a vast expanse in the centre of which is the lamp post in granite at the base of which are stone idols of Vinayaka, Kamadhenu with lingam and an armed person riding an elephant in the east-west direction. Anterior to the lamp post is a square portico bearing a small gopuram of five storeys. Through this portico one can gain entry into the kalyana mantapam of the temple. On the northern side of the vast expanse is a 100-pillared mantapam in memory of Pugazh Chola. On the southern side is the ‘magizham poo’ tree. Worshipping this tree is said to bestow peace of mind and wealth as ‘magizham’ is the personification of Goddess Mahalakshmi.

Fine piece of architecture

The sprawling kalyana mantapam is a fine piece of architecture. Its supporting pillars impart a sense of rhythm and symmetry. The original floor must have been replaced with dark spark tiles at some point of time during the kumbabishekam, the last of which was held in 2006. The floor has been divided into three segments. The lower-most has the dwajasthambam, bali peetam and Nandi of a moderate size. The top-most segment leads to maha mantapam, ardha mantapam and garbagriha. The ceiling is splashed with paintings of puranic lore. The lingam, which is said to be swayambu, is five-ft tall. The highlight is the lingam is found tilted to the north. It is said that in order to enable Karuvur Thevar, one of the 18 siddhars, merge with the effulgence of Siva, the Lord tilted himself. At the south-west corner of the outermost prakaram, there is a sannidhi for him with an extended mantapam in front. His image in panchaloka is in ‘padmasana’ posture. Another phenomenon about this temple is that the sunlight falls on the lingam on the 14th, 15th and 16th day in the month of Panguni. In the small prakaram around the garba griha the walls are adorned with the images of Vigneswara, Ardhanareeswara, Brahma and Durga.

Interesting episode

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

และราชวงศ์ Chera โชลา. ทั้งเจ็ดของวัดที่กล่าวถึงเป็นพิเศษของ Kongu Nad หนึ่งใน Karur อันดับแรก ทุ่มเทให้กับการ Kalyana Pasupatheeswarar วัดตั้งอยู่ในใจกลางเมืองที่มีแม่น้ำไหล Amaravathy ในบริเวณใกล้เคียง. ในสมัยโบราณ Karur มีการเชื่อมโยงการค้ากับชาวโรมันเป็นหลักฐานโดยผลการวิจัยเกี่ยวกับเหรียญ มันสามารถเข้าถึงได้ง่ายทั้งถนนและทางรถไฟจาก Tiruchi (76 กม.), เซเลม (100 กิโลเมตร) และโค (113 กิโลเมตร) Karur ยังไปโดยชื่อ Karur Anilai และ Vanjimanagaram มันเคยถูกเรียกว่า Vanji เพราะมันเป็นเมืองหลวงของ Chera กษัตริย์มาเป็นเวลานานก่อนที่จะถูกย้ายไป Cranganoor ในเกรละ ฉายา 'Karur Anilai' ความหมายว่าวัวท้องฟ้า Kamadhenu บูชาพระศิวะที่สถานที่แห่งนี้ซึ่งเป็นป่าทึบ ชื่อ Karur ก็ควรจะหมายถึง 'หมู่บ้านตัวอ่อน' และตามตำนานพระพรหมเริ่มต้นการสร้างของเขาที่สถานที่นี้และสถานที่ดังกล่าวเป็นไปตามชื่อที่ Brahmagiri มีชื่ออีกไม่กี่ที่สถานที่แห่งนี้เป็นที่รู้จักกัน. มีนั่งสองกิโลเมตรจากสถานีรถไฟโดยรถยนต์หรือรถแท็กซี่จะใช้เวลาหนึ่งถึงพระวิหารซึ่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออกมีการจับกุมrajagopuram เจ็ดชั้น ในด้านหน้าของภาพที่สวยงามของวัวที่มีการหมุนในร่างกายและตะกอนนมของตนเหนือองคชาติเป็น presages ชื่อของเทพที่สำคัญภายในวัด rajagopuram กล่าวจะถูกสร้างขึ้นโดย Pugazh โชลาพระมหากษัตริย์ที่มีที่นั่งของเขาของการปกครองที่ Woraiyur. ในการป้อน rajagopuram หนึ่งจะก้าวเข้าสู่พื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลในใจกลางของซึ่งเป็นโพสต์หลอดไฟในหินแกรนิตที่ฐานของ ซึ่งเป็นไอดอลของหิน Vinayaka, Kamadhenu กับองคชาติและคนที่ติดอาวุธขี่ช้างในทิศทางตะวันตกตะวันออก ก่อนที่โพสต์หลอดไฟเป็นระเบียงตารางแบก gopuram เล็ก ๆ ของห้าชั้น ผ่านระเบียงนี้สามารถได้รับการเข้าสู่ Kalyana mantapam ของวัด ทางด้านทิศเหนือของพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลเป็น mantapam 100 เสาในความทรงจำของโชลา Pugazh ในด้านภาคใต้เป็นต้นไม้ 'magizham ปู' บูชาต้นไม้นี้มีการกล่าวที่จะมอบความสงบของจิตใจและความมั่งคั่งเป็น 'magizham' เป็นตัวตนของเทพธิดา Mahalakshmi ได้. ชิ้นวิจิตรของสถาปัตยกรรมmantapam Kalyana แผ่กิ่งก้านสาขาเป็นชิ้นที่ดีของสถาปัตยกรรม เสาหลักที่สนับสนุนมันบอกความรู้สึกของจังหวะและสมมาตร ชั้นเดิมต้องได้รับการแทนที่ด้วยกระเบื้องสีเข้มประกายที่จุดบางช่วงเวลา kumbabishekam สุดท้ายที่จัดขึ้นในปี 2006 ที่ชั้นได้ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน ที่ต่ำกว่ามากที่สุดมี dwajasthambam ที่ Peetam บาหลีและโคอุศุภราชที่มีขนาดปานกลาง ส่วนบนสุดจะนำไปสู่มหา mantapam, mantapam Ardha และ garbagriha เพดานสาดด้วยภาพวาดของตำนานแรนิค องคชาติซึ่งบอกว่าจะ swayambu เป็นห้าฟุตสูง ไฮไลท์คือองคชาติจะพบเอียงไปทางทิศเหนือ มันก็บอกว่าเพื่อให้ Karuvur Thevar ซึ่งเป็นหนึ่งใน 18 Siddhars ผสานกับความสว่างไสวของพระศิวะลอร์ดเอียงตัวเอง ที่มุมทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ prakaram นอกสุดมี sannidhi สำหรับเขากับ mantapam ขยายในด้านหน้า ภาพของเขาใน panchaloka อยู่ใน 'padmasana' ท่า ปรากฏการณ์เกี่ยวกับวัดนี้ก็คือว่าแสงแดดตรงกับองคชาติในวันที่ 14, 15 และ 16 วันในเดือน Panguni ใน prakaram ขนาดเล็กรอบ garba Griha ผนังจะประดับด้วยภาพของ Vigneswara, Ardhanareeswara พรหมและ Durga. ตอนที่น่าสนใจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เจระ และราชวงศ์โจฬะ

ของเจ็ดเป็นพิเศษกล่าวถึงวัด kongu NAD , หนึ่งใน karur อันดับแรก โดยเฉพาะ kalyana pasupatheeswarar พระวิหาร ตั้งอยู่ในเมืองที่มีแม่น้ำไหล amaravathy ใกล้กับ

ใน karur สมัยโบราณมีการเชื่อมโยงการค้ากับโรมันเป็น evidenced โดยอย่างหนึ่งที่พบมันสามารถเข้าถึงได้ง่ายทั้งทางถนนและรถไฟจาก tiruchi ( 76 km ) , Salem ( 100 กม. ) และ Coimbatore ( 113 km ) karur ยังไปโดยชื่อและ karur anilai vanjimanagaram . มันเคยถูกเรียก vanji ตั้งแต่มันเป็นเมืองหลวงของเจระกษัตริย์เป็นเวลานานก่อนที่จะถูกย้ายไป cranganoor ในเกรละ ส่วนฉายา ' ' karur anilai connotes สวรรค์ที่วัว ,Kamadhenu บูชาพระศิวะในสถานที่นี้ซึ่งเป็นป่าหนาแน่น ชื่อ karur ยังหมายถึงตัวอ่อน ' หมู่บ้าน ' ตามตำนานพระพรหม เริ่มการสร้างของเขาที่สถานที่นี้ , และเป็นเช่นสถานที่ที่ไปโดยชื่อ พรหมคีรี . มีไม่กี่ชื่อเพิ่มเติม ซึ่งสถานที่นี้เป็นที่รู้จักกัน

2 กิโลเมตร เดินทางจากสถานีรถไฟโดยรถยนต์หรือรถแท็กซี่จะใช้เวลาหนึ่งที่จะวัดที่หันหน้าไปทางตะวันออก กับจับเจ็ดชั้นที่ rajagopuram . ในเอฟเอ ADE 5 ภาพที่สวยงามของวัวกับหมุนในตัวของมันและตะกอนนมของตนมากกว่าลึงค์ presages ชื่อของหลักพระภายในวัด การ rajagopuram กล่าวจะได้รับการสร้างขึ้นโดย pugazh โจฬะ กษัตริย์ของเขากับที่นั่งของกฎที่ woraiyur

เข้า rajagopuram บน ,หนึ่งจะก้าวเข้าสู่พื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล ใน ศูนย์ ซึ่งเป็นเสาไฟในหินแกรนิตที่ฐานของหิน ซึ่งเป็นไอดอลของ vinayaka Kamadhenu กับลึงค์และอาวุธ , คนขี่ช้างในทิศทางตะวันออก - ตะวันตก ของเสาไฟเป็นตารางสามารถนำ gopuram ขนาดเล็กของห้าชั้น ผ่านบริเวณนี้หนึ่งสามารถได้รับรายการใน kalyana mantapam ของวัดทางด้านเหนือของพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล เป็น 100 mantapam pillared ในหน่วยความจำของ pugazh โจฬะ . ทางด้านใต้เป็น magizham ' ปู ' ต้นไม้ บูชาต้นไม้นี้ว่า ให้ความสงบของจิตใจและความมั่งคั่งเป็น ' magizham ' เป็นบุคลาธิษฐานของเทพธิดามหาลักษมี

ชิ้นปรับสถาปัตยกรรม

แผ่กิ่งก้านสาขา kalyana mantapam เป็นชิ้นปรับของสถาปัตยกรรมมันสนับสนุนเสาถ่ายทอดความรู้สึกของจังหวะและสมมาตร ชั้นเดิมจะถูกแทนที่ด้วยกระเบื้องสีเข้มประกายที่จุดของเวลาบางช่วง kumbabishekam สุดท้ายที่ถูกจัดขึ้นในปี 2006 ชั้นถูกแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม ล่างสุดมี dwajasthambam บาหลี peetam Nandi , และมีขนาดปานกลาง ด้านบนมากที่สุด ส่วนจะนำไปสู่ mantapam เสด็จ ,และ ardha mantapam garbagriha . เพดานถูกสาดด้วยภาพวาดของ puranic ตำนาน . การแต่งผม , ซึ่งกล่าวกันว่าเป็น swayambu เป็นห้าฟุตสูง จุดเด่นคือ ลึงค์พบเอียงไปทางทิศเหนือ จะกล่าวว่าเพื่อให้ karuvur thevar , หนึ่งใน 18 siddhars ผสานกับความสว่างไสวของพระศิวะ , องค์เอียงเอง ที่มุมตะวันตกเฉียงใต้ของ prakaram ด้านนอกสุด ,มี sannidhi สำหรับเขาด้วยการขยาย mantapam ในด้านหน้า ภาพของเขาใน panchaloka อยู่ใน ' ' padmasana ท่า ปรากฏการณ์อื่น วัดนี้ก็คือแสงแดดตกบนลึงค์ที่ 14 , 15 และ 16 วันในเดือน panguni . ใน prakaram ขนาดเล็กรอบ garba griha ผนังจะประดับด้วยภาพ vigneswara ardhanareeswara , พระพรหมและ Durga .


ตอนที่น่าสนใจ