Gobi has relied on its strong brand

Gobi has relied on its strong brand and relationship with traditional nomadic herders to weather many dramatic changes through its thirty-year history and become the world’s fifth largest cashmere producer and the largest in Mongolia. Since the Mongolian-Japanese JV took majority control of the company, it has seen its sales continually rise. For example, in 2008 the company had sales of approximately US$15 million, but thanks to new equipment, branding strategies, and certification marks, sales rose to nearly US$27 million in 2011.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีอาศัยโกบีของแบรนด์ที่แข็งแกร่งและความสัมพันธ์กับ herders แบบ nomadic สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างมากทางประวัติศาสตร์ของสามสิบปี และเป็น ผู้ผลิตแคสเมียร์ห้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกและใหญ่ที่สุดในประเทศมองโกเลีย เนื่องจาก JV มองโกเลียญี่ปุ่นเอาตัวควบคุมส่วนใหญ่ของบริษัท มันได้เห็นยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่าง ในปี 2008 บริษัทได้ขายของประมาณ $15 ล้านสหรัฐ แต่ ด้วย อุปกรณ์ใหม่ ตราสินค้ากลยุทธ์ และเครื่องหมายรับรอง ขายกุหลาบไปเกือบล้านเหรียญสหรัฐ 27 ในปี 2554

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โกบีได้อาศัยในแบรนด์ที่แข็งแกร่งและมีความสัมพันธ์กับเร่ร่อนเลี้ยงแบบดั้งเดิมที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างมากหลายคนผ่านทางประวัติศาสตร์สามสิบปีและกลายเป็นผู้ผลิตผ้าขนสัตว์ชนิดหนึ่งห้าที่ใหญ่ที่สุดของโลกและใหญ่ที่สุดในประเทศมองโกเลีย นับตั้งแต่การร่วมทุนมองโกเลียญี่ปุ่นเข้าควบคุมส่วนใหญ่ของ บริษัท จะได้เห็นยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่นในปี 2008 บริษัท มียอดขายประมาณ US $ 15,000,000 แต่ต้องขอบคุณเครื่องมืออุปกรณ์ใหม่, กลยุทธ์การสร้างตราสินค้าและเครื่องหมายรับรองยอดขายเพิ่มขึ้นถึงเกือบสหรัฐ $ 27,000,000 ในปี 2011

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปลาบู่ได้อาศัยในแบรนด์ที่แข็งแกร่งและความสัมพันธ์กับผู้เลี้ยงแบบเร่ร่อน อากาศเปลี่ยนแปลงอย่างมากหลายผ่านประวัติศาสตร์ 30 ปีและเป็นผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดของโลกและผ้าขนสัตว์ที่ห้าที่ใหญ่ที่สุดในมองโกเลีย ตั้งแต่มองโกเลียญี่ปุ่นร่วมทุนจึงควบคุมเสียงส่วนใหญ่ของ บริษัท มันได้เห็นยอดขายยังคงเพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่นในปี 2008 บริษัท มียอดขายประมาณ US $ 15 ล้านบาท แต่ด้วยอุปกรณ์ ใหม่ กลยุทธ์ และเครื่องหมายรับรอง ยอดขายเพิ่มขึ้นเกือบ US $ 27 ล้านบาทในปี 2554