Painter to Queen Marie-Antoinette,

Painter to Queen Marie-Antoinette, Elisabeth Vigée-Lebrun was obliged to live a great part of her life in exile after the Revolution because of her links with the court. She is one of the greatest portraitists of the end of the 18th century. Vigée-Lebrun painted this work on wood following a trip to the Netherlands. It is a form of homage to the Dutch School. The figure is holding a score for the opera by Gluck, the German musician, Echo and Narcissus. This is one of the most perfect portraits of the period. Here, Vigée-Lebrun reaches a refinement close to the masterpieces of David, with her harmonies of reds, blacks and greys and her scumble technique.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จิตรกรการสำนัก Elisabeth Vigée-Lebrun รับหน้าที่อยู่ส่วนมากชีวิตของเธอพลัดถิ่นหลังจากการปฏิวัติ เพราะเธอเชื่อมโยงกับศาล เธอเป็นหนึ่งเปลี่ยนมากที่สุดของปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 Vigée Lebrun ทาสีงานนี้บนไม้ตามการเดินทางไปประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นรูปแบบของการแสดงความเคารพต่อโรงเรียนดัตช์ รูปถือคะแนนสำหรับอุปรากรโดย Gluck นักดนตรีเยอรมัน Echo และซุย นี้เป็นภาพสมบูรณ์แบบที่สุดของรอบระยะเวลาอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่นี่ Vigée-Lebrun ถึงปรับแต่งใกล้กับผลงานชิ้นเอกของดาวิด กับท่วงทำนองของเธอสีแดง ดำ และสี และเทคนิคของเธอ scumble

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จิตรกรพระราชินีมารีอองตัวเนต, อลิซาเบVigée-Lebrun ถูกบังคับให้อาศัยอยู่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอในการเนรเทศหลังการปฏิวัติเพราะการเชื่อมโยงเธอกับศาล เธอเป็นหนึ่งใน portraitists ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการสิ้นสุดของศตวรรษที่ 18 Vigée-Lebrun ทาสีงานนี้บนไม้ต่อไปนี้การเดินทางไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์ มันเป็นรูปแบบของการแสดงความเคารพต่อโรงเรียนดัตช์ รูปที่มีการถือครองคะแนนสำหรับโอเปร่าโดยกลุคนักดนตรีเยอรมัน, Echo และ Narcissus นี้เป็นหนึ่งในการถ่ายภาพบุคคลที่สมบูรณ์แบบที่สุดของรอบระยะเวลา นี่Vigée-Lebrun ถึงการปรับแต่งใกล้กับผลงานชิ้นเอกของดาวิดกับพุทธศาสนาของเธอสีแดง, สีดำและสีเทาและเทคนิค scumble เธอ