MastaniFrom Wikipedia, the free enc

Mastani
From Wikipedia, the free encyclopedia
Mastani
An artist's impression of Mastani
A painting said to be of Mastani
Born Mau Sahaniya, Bundelkhand
Died 1740
Pabal
Spouse(s) Baji Rao I
Children 1
Parent(s) Chhatrasal, Ruhanibai
Mastani was the second wife of the Maratha Peshwa Bajirao I. She is said to have been a beautiful and brave woman, skilled in arts, literature, and warfare.[1] She had been dearly loved by Peshwa Bajirao but always neglected by his mother and his brother.

Contents [hide]
1 Early life
2 Biography
3 Death
4 Descendants
5 Mastani in popular culture
6 References
7 Further reading
Early life[edit]
Mastani was born to bundelkhand Rajput clan Maharaja Chhatrasal. She was born in MauSahaniya, now a village in the Chhatarpur district of Madhya Pradesh. There is a Mastani Mahal in Dhubela where Mastani lived.[2]

Biography[edit]

Peshwa Bajirao I--0
There are many legends associated with Mastani. One of the most well-known is that Mastani was the daughter of Bundela Rajput leader Maharaja Chhatrasal (1649–1731), the founder of Panna State in Bundelkhand province,.[3] When a Mughal officer from Allahabad, the Pathan Mohammad Khan Bangash, invaded Chhattrasal’s kingdom during 1727-28, Chhattrasal sent a secret message, seeking help, from Bajirao I, who happened to be on a military campaign in the vicinity of Bundelkhand. Bajirao came to the rescue of Chhatrasal. In gratitude, Chattrasal gave Bajirao his daughter Mastani, and a third of his kingdom, including Jhansi, Sagar and Kalpi. He gave 33 lakh Gold coins to Bajirao. He also gifted a Diamond mine to Bajirao in marriage to Mastani along with handful of villages.

However, sources vary on this context. According to the second view of Chhatrasal, she was the daughter of Nizam of Hyderabad. The Nizam, defeated by Chhatrasal in 1698, was advised by his wife to marry his daughter to Chhatrasal to foster friendly relations with the Bundelas who had become the most dominant power in Central India.[4]

However, the most accepted and conclusive version is that she was the daughter of Chhatrasal with his Persian-Muslim wife Ruhaani Bai. Mastani is often referred to as Bajirao's concubine or mistress. However, she was his lawfully wedded wife.[5]

Mastani was skilled in horse-riding, spear-throwing and swordsmanship and a talented dancer and singer. She accompanied Bajirao on his military campaigns. Mastani and Bajirao's first wife, Kashibai, bore sons to Bajirao within a few months of each other. Kashibai's child named Raghunathrao Mastani's child was named Shamsher Bahadur.

Bajirao bestowed the Jagir of Banda on Shamsher (Peshwa). The son fought on the side of the Marathas in the third Battle of Panipat in a.d. 1761 against Ahmed Shah Abdali and is said to have been killed in the battle.[6]

Bajirao's love for his half-Muslim wife Mastani, and neglect of Kashibai angered his mother, Radhabai. In deference to Radhabai, Bajirao's brother, Chimnaji Appa, tried to send Mastani into exile. Bajirao's son, Balaji, also tried to coerce Mastani into leaving his father, but she refused. Enraged by her growing influence on Bajirao, and Bajirao's neglect of Kashibai, Balaji had Mastani placed under house arrest for a time, while Bajirao was on military campaign.

Mastani lived for some time with Bajirao at his palace of Shaniwar Wada in the city of Pune. The palace's north-east corner held Mastani Mahal and had its own external doorway called Mastani Darwaza. Because of his family's intolerance of Mastani, Bajirao later built a separate residence for Mastani at Kothrud in 1734,[3] some distance away from Shaniwar Wada. The site still exists at the Mrutyunjay temple on Karve road. The palace at Kothrud was dismantled and parts of this are displayed at a special section of Raja Kelkar Museum.[1][3] Court records (Bakhars) during Bajirao's regime specifically never included any reference to her.[citation needed] Historians have determined that the paintings of Mastani in both Raja Kelkar Museum and Wai museum are not authentic.[citation needed]

Mastani is believed to be a skilled horse-rider and a warrior. She also assisted Bajirao Peshwa in running the day to day course of courts.[citation needed]

According to a local folklore, the lake near Dive Village, on Pune-Saswad Road, Mastani funded the construction of the lake to fulfill water requirements of nearby villages.[citation needed]

Death[edit]
In April 1740, while Bajirao was inspecting his lands at Khargon, he suddenly became ill from fever (possibly heat stroke) and died. Kashibai, Chimnaji Appa and Balaji (Nanasaheb) came to Khargon. Bajirao's mortal remains were consigned to flames on 28 April 1740, at Raver Khed on the banks of the Narmada River. Mastani died at Pabal Village near Pune, soon afterwards.

Mastani died within a few days of Baji Rao's death. It is unknown if she committed suicide or died of shock after hearing the news about her husband's death. One folk tradition claims that she co

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Mastaniจากวิกิพีเดีย วิกิพีเดียMastaniความประทับใจของศิลปินของ Mastaniภาพวาดที่กล่าวจะเป็นของ Mastaniเกิด Mau Sahaniya, Bundelkhandเสียชีวิตปีค.ศ. 1740PabalSpouse(s) Baji Rao ฉันเด็ก 1ผู้ใหญ่และ Chhatrasal, RuhanibaiMastani ถูกภรรยาของ Bajirao เพชวามราฐาฉัน เธอกล่าวได้สวยงาม และกล้าหาญผู้หญิง มีทักษะในศิลปะ วรรณกรรม และสงคราม [1] แต่ได้รับลองรักเพชวา Bajirao มักจะละเลย โดยมารดาและพี่ชายของเขาเนื้อหา [ซ่อน] ชีวิตช่วงที่ 1ประวัติ 2ตาย 3ลูกหลาน 4Mastani 5 ในวัฒนธรรมสมัยนิยม6 อ้างอิง7 ที่อ่านเพิ่มเติมชีวิตช่วงแรก [แก้]Mastani เกิดกองทัพบัท bundelkhand Chhatrasal ราชา เธอเกิดใน MauSahaniya ตอนนี้หมู่บ้านในคาอำเภอของมัธยประเทศ มี Mastani มาใน Dhubela ที่อาศัยอยู่ใน Mastani [2]ประวัติ [แก้]Bajirao เพชวาฉัน--0มีตำนานมากมายที่เกี่ยวข้องกับ Mastani หนึ่งรู้จักมากที่สุดคือว่า Mastani เป็นลูกสาวของผู้นำจิตบัท Chhatrasal ราชา (ค.ศ. 1649-1731), ผู้ก่อตั้งรัฐนาในจังหวัด Bundelkhand [3] เมื่อมีเจ้าหน้าที่ของ Mughal จาก Allahabad, Pathan Mohammad คาน Bangash บุกอาณาจักรของ Chhattrasal ในระหว่างค.ศ. 1727-28, Chhattrasal ส่งข้อความลับ ความช่วยเหลือ จาก Bajirao ฉันที่เกิดขึ้นกับแคมเปญทางทหารอีก Bundelkhand Bajirao มาช่วยเหลือของ Chhatrasal ในความกตัญญู Chattrasal ให้ Bajirao ลูกสาว Mastani และหนึ่งในสามของอาณาจักร Jhansi ซาการ์ และ Kalpi เขาให้ 33 lakh เหรียญทองเพื่อ Bajirao นอกจากนี้เขายังมีพรสวรรค์เหมืองเพชรเพื่อ Bajirao ในแต่งงาน Mastani พร้อมกับกำมือของหมู่บ้านอย่างไรก็ตาม แหล่งที่มาแตกต่างกันในบริบทนี้ ตามมุมมองสองของ Chhatrasal เธอเป็นลูกสาวของ Nizam ไฮเดอราบัด Nizam พ่ายแพ้ Chhatrasal ใน 1698 ถูกแนะนำ โดยภรรยาของเขาแต่งงานกับลูกสาวของเขา Chhatrasal เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์มิตรกับ Bundelas ผู้ที่เป็นพลังงานที่โดดเด่นที่สุดในอินเดียกลาง [4]อย่างไรก็ตาม รุ่นข้อสรุป และยอมรับได้ว่า เธอเป็นลูกสาวของ Chhatrasal กับภรรยามุสลิมเปอร์เซีย Ruhaani Bai Mastani มักจะเรียกว่าเป็นนางสนมหรือผู้เป็นที่รักของ Bajirao อย่างไรก็ตาม เธอเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย wedded [5]Mastani เป็นผู้เชี่ยวชาญในการ ขี่ม้า ขว้างหอก และ swordsmanship และมีความสามารถเต้น และร้อง เธอมาพร้อมกับ Bajirao บนแคมเปญทางทหารของเขา Mastani และ Bajirao ของเมียคนแรก Kashibai กระบอกสูบบุตรให้ Bajirao ภายในกี่เดือนของแต่ละอื่น ๆ ลูกของ Kashibai ที่ชื่อ Raghunathrao Mastani เด็กชื่อ Shamsher บาฮาดูร์Bajirao สมควรนำ Jagir บันดาบน Shamsher (เพชวา) ลูกชายต่อสู้ด้านข้างของ Marathas ในสามรบเกม Panipat ในค.ศ. 1761 กับ Ahmed Shah Abdali และกล่าวว่า จะถูกฆ่าตายในการรบ [6]ความรักของ Bajirao ภรรยาครึ่งมุสลิม Mastani และ Kashibai จนบรรดาแม่ของเขา Radhabai พี่ชายของ Bajirao, Chimnaji Appa, in deference to Radhabai พยายามส่ง Mastani พลัดถิ่น บุตรของ Bajirao บา พยายามบังคับ Mastani เข้าออกจากบิดาของเขา แต่เธอปฏิเสธ โกรธแล้ว ด้วยอิทธิพลของเธอเติบโตใน Bajirao และของ Bajirao จน Kashibai บา Mastani อยู่ภายใต้การจับกุมบ้านเวลา ในขณะที่ Bajirao บนแคมเปญทางทหารอย่างMastani อยู่บางครั้ง Bajirao ที่เขาวังของชานิวาร์วาดาในเมืองปูเน มุมตะวันออกเฉียงเหนือของพระตำหนักจัดมา Mastani และมีประตูสู่ภายนอกของตัวเองเรียกว่า Mastani Darwaza เนื่องจากครอบครัวของเขาแพ้ของ Mastani, Bajirao สร้างที่อยู่อาศัยแยกสำหรับ Mastani ที่ Kothrud ใน 1734, [3] ชานิวาร์วาดาห่างบาง เว็บไซต์ยังคงอยู่ที่วัด Mrutyunjay ถนน Karve พระราชวังที่ Kothrud ถูกถอดออก และส่วนนี้จะแสดงที่ส่วนพิเศษของราชาสถานพิพิธภัณฑ์ [1] [3] ศาลระเบียน (Bakhars) ระหว่างระบอบการปกครองของ Bajirao โดยเฉพาะไม่รวมการอ้างอิงใด ๆ ของเธอ [อ้างจำเป็น] นักประวัติศาสตร์ได้กำหนดว่า ภาพวาดของ Mastani ในพิพิธภัณฑ์พิพิธภัณฑ์สถานราชาและหวายจะไม่แท้ [อ้างจำเป็น]Mastani เชื่อว่าเป็นนักรบและม้าไรเดอร์มีทักษะ นอกจากนี้เธอยังช่วยเพชวา Bajirao ในการทำงานหลักสูตรประจำวันของศาล [อ้างจำเป็น]ตามพื้นบ้านในท้องถิ่น ทะเลสาบใกล้หมู่บ้านดำน้ำบนถนนเน Saswad, Mastani ทุนการก่อสร้างของทะเลสาบเพื่อตอบสนองความต้องการน้ำของหมู่บ้านใกล้เคียง [อ้างจำเป็น][แก้]ในเมษายนปีค.ศ. 1740 ในขณะที่ Bajirao ถูกตรวจสอบที่ดินของเขาใน Khargon เขาก็กลายเป็นป่วยจากไข้ (อาจจะจังหวะความร้อน) และเสียชีวิต Kashibai, Chimnaji Appa และบาลา (Nanasaheb) มาที่ Khargon ลำเนาของ Bajirao ถูกส่งมอบไปยังเปลวไฟบน 28 เมษายนปีค.ศ. 1740 ที่ Khed เรเวอร์บนแม่น้ำนาร์มาด้า Mastani เสียชีวิตที่หมู่บ้าน Pabal ใกล้เน มิช้ามินานMastani died within a few days of Baji Rao's death. It is unknown if she committed suicide or died of shock after hearing the news about her husband's death. One folk tradition claims that she co

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

mastaniจากวิกิพีเดีย , สารานุกรมฟรีmastaniศิลปินที่ประทับใจของ mastaniภาพวาดพูดได้ mastaniเกิดเมา sahaniya เดิลค์แฮนด์ ,ตาย 1740พาบัลคู่สมรส ( s ) baji ราวฉันเด็ก 1ผู้ปกครอง ( s ) chhatrasal ruhanibai ,mastani เป็นภรรยาคนที่สองของมารัทธา Myotis Bajirao . เธอเคยเป็นผู้หญิงที่สวยงามและกล้าหาญ มีทักษะในศิลปะ วรรณกรรม และสงคราม [ 1 ] เธอได้รับฉันรักเธอโดย Myotis Bajirao แต่มักจะละเลยโดยแม่ของเขาและพี่ชายของเขาเนื้อหา [ ซ่อน ]1 ชีวิตในวัยเด็ก2 ประวัติ3 ตาย4 ลูก5 mastani เป็นที่นิยมในวัฒนธรรม6 อ้างอิงอ่านต่อ 7ชีวิตในวัยเด็ก [ แก้ไข ]mastani เกิดเดิลค์แฮนด์ตระกูล Rajput มหาราชา chhatrasal . เธอเกิดใน mausahaniya ตอนนี้เป็นหมู่บ้านในจังหวัด ชาทาพูร์ของรัฐมัธยประเทศ มี mastani ทัชมาฮาลใน dhubela mastani [ 2 ] ที่อาศัยอยู่ชีวประวัติ [ แก้ไข ]Myotis Bajirao ฉัน . . 0มีตำนานมากมายที่เกี่ยวข้องกับ mastani . หนึ่งในที่รู้จักกันดีที่สุดคือ mastani เป็นลูกสาวของหัวหน้า bundela Rajput มหาราชา chhatrasal ( 968 ( 1731 ) , ผู้ก่อตั้งของรัฐในจังหวัดสิบสองปันนาเดิลค์แฮนด์ . [ 3 ] เมื่อโมกุล เจ้าหน้าที่จากบังคาลอร์ , ปาทาน โมฮัมหมัด ข่าน บังแอช , รุกรานอาณาจักร chhattrasal ในระหว่าง 1727-28 chhattrasal , ส่งข้อความลับหาช่วย จาก Bajirao ผมที่เกิดขึ้นจะอยู่ในแคมเปญทางทหารในบริเวณเดิลค์แฮนด์ . Bajirao มาให้ความช่วยเหลือของ chhatrasal . ขอขอบคุณ chattrasal ให้ mastani Bajirao ลูกสาวของเขาและสามของอาณาจักรของเขา รวมทั้ง Jhansi Sagar และ kalpi , . เขาให้ 33 แสนเหรียญทองใน Bajirao . เขามีพรสวรรค์เป็นเหมืองเพชรใน Bajirao แต่งงานกับ mastani พร้อมกับหยิบของหมู่บ้านอย่างไรก็ตาม , แหล่งที่มาแตกต่างกันในบริบทนี้ ตามมุมมองที่สองของ chhatrasal หล่อนคือลูกสาวของ Nizam ของไฮเดอราบัด วันนิแซม แพ้ chhatrasal ใน 1540 , แนะนำโดยภรรยาของเขาที่จะแต่งงานกับลูกสาวของเขาเพื่อ chhatrasal เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรกับ Bundelas คนที่ได้กลายเป็นพลังเด่นที่สุดในภาคกลางของอินเดีย [ 5 ]อย่างไรก็ตาม ได้รับการยอมรับมากที่สุดและข้อสรุปรุ่นที่เธอเป็นลูกสาวของภรรยาของเขา chhatrasal กับเปอร์เซียมุสลิม ruhaani ไป๋ mastani มักจะเรียกว่า Bajirao สนม หรือ นายหญิง อย่างไรก็ตาม เธอเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย [ 5 ]mastani เก่งในการขี่ม้า หอกปาและฟันดาบและเต้นเก่ง และนักร้อง เธอมาพร้อมกับ Bajirao ในแคมเปญทหารของเขา และ mastani Bajirao เป็นภรรยาคนแรก kashibai าบุตร Bajirao ภายในไม่กี่เดือนของแต่ละอื่น ๆ เด็ก kashibai เป็นชื่อของเด็ก raghunathrao mastani ชื่อซัมเชอร์ กฤษณาjagir ของแพนด้าใน Bajirao ให้ซัมเชอร์ ( Myotis ) ลูกชายต่อสู้บนด้านข้างของมาราธา ในรอบสามของ Panipat ในปี ค.ศ. 1761 กับ Ahmed Shah abdali และบอกว่าจะต้องถูกฆ่าตายในการต่อสู้ [ 6 ]ความรักของภรรยาของเขาครึ่งหนึ่ง Bajirao มุสลิม mastani และละเลยของ kashibai โกรธแม่ของเขา radhabai . ความเคารพใน radhabai Bajirao , น้องชาย chimnaji อัปป้า พยายามส่ง mastani ในการเนรเทศ Bajirao ลูกชาย Balaji ยังบีบบังคับ mastani ออกจากบิดาของเขา แต่เธอปฏิเสธ โกรธโดยเธอเติบโตอิทธิพลใน Bajirao และ Bajirao ก็ละเลย kashibai Balaji ได้ , mastani อยู่ภายใต้การจับกุมบ้านสำหรับเวลาในขณะที่ Bajirao ในแคมเปญทางทหารmastani อาศัยอยู่ด้วยกันกับ Bajirao ที่พระราชวังของชานิวาร์ Wada ในเมืองปูเน พระราชวังของมุมทัชมาฮาล และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัด mastani ของตัวเองภายนอกประตูเรียก mastani Darwaza . เพราะความใจแคบของ mastani ของครอบครัวของเขา ต่อมาสร้างที่อยู่อาศัย Bajirao แยก mastani ที่ kothrud ในปี 1951 , [ 3 ] บางระยะทางห่างจากชานิวาร์ Wada . เว็บไซต์ยังอยู่ใน mrutyunjay karve วัดบนถนน พระราชวังที่ kothrud ถูกรื้อถอนและส่วนนี้จะถูกแสดงในส่วนพิเศษของพิพิธภัณฑ์ kelkar ราชา [ 1 ] [ 2 ] ศาลระเบียน ( bakhars ) ใน Bajirao ระบอบการปกครองโดยเฉพาะไม่รวมการอ้างอิงใด ๆ กับเธอ [ อ้างอิงที่จำเป็น ] นักประวัติศาสตร์ได้กำหนดว่า ภาพวาดของ mastani ทั้งราชา kelkar Museum และพิพิธภัณฑ์ไว ไม่ได้จริง . [ อ้างอิงที่จำเป็น ]mastani เชื่อกันว่าเป็นผู้ขับขี่ม้าที่มีทักษะและนักรบ เธอยังช่วย Bajirao Myotis วิ่งวันแน่นอนของศาล . [ อ้างอิงที่จำเป็น ]ตามความเชื่อท้องถิ่น ทะเลสาบใกล้หมู่บ้าน , ดำน้ำใน Pune SASWAD ถนน mastani ให้การสนับสนุนการก่อสร้างของทะเลสาบเพื่อตอบสนองความต้องการน้ำของหมู่บ้านใกล้เคียง . [ อ้างอิงที่จำเป็น ]ความตาย [ แก้ไข ]ในเดือนเมษายน 1740 , ในขณะที่ Bajirao ถูกตรวจสอบที่ดินของเขาที่ khargon เขาป่วยกระทันหันจากไข้ ( อาจจะร้อน stroke ) และตาย kashibai chimnaji อัปปา , และ ( nanasaheb Balaji ) มา khargon . Bajirao มนุษย์ซากศพส่งมอบให้เปลวไฟบน 28 เมษายน 1740 , เรเวอร์ Khed บนธนาคารของ Narmada แม่น้ำ mastani ตายที่พาบัลหมู่บ้านใกล้ Pune , หลังจากนั้นmastani ตายภายในไม่กี่วันของ baji เราตาย แต่ไม่รู้ว่าฆ่าตัวตายหรือตายด้วยความตกใจ หลังจากได้ยินข่าวเรื่องการตายของสามีเธอ หนึ่งในประเพณีที่ชาวบ้านอ้างว่าเธอ