Building on this intuition, our pur

Building on this intuition, our purpose in the present paper is to investigate the
relationship (if any) between inventory management practices and company
performance. Inventory turnover ratio will serve as our proxy for the implementation
of inventory management practices whereas two profitability accounting ratios will be
interchangeably used for the evaluation of corporate performance.
In general, efficient or inefficient management of inventories is only one factor that
may influence firm performance. A range of other macroeconomic, industry and
firm-level factors are also important. Historically, economists have focused on industry
level variables using the structure- conduct-performance (SCP) framework. This
stresses the role of industry concentration and a firm’s market share, since higher
levels of both could be (theoretically) linked to higher profitability. Empirical studies
also investigate other possible determinants, for example, ownership structure of the
firm (Himmelberg et al., 1999), strategic direction (Bart and Baetz, 1998), size of board
(Eisenberg et al., 1998), innovation (Hall, 1993) etc. In this study however, in an attempt
to isolate the impact of inventory policies we do not consider other possible predictors
of performance.
Nearly all the literature on optimal inventory management uses criteria of cost
minimization or profit maximization. An inventory managers’ goal for example, is
modelled as minimizing cost or maximizing profit while satisfying customers’
demands. If inventory decisions do not affect the revenue stream, these two criteria
result in the same optimal replenishment policy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สร้างสัญชาตญาณนี้ จุดประสงค์ในกระดาษปัจจุบันคือการ ตรวจสอบการความสัมพันธ์ (ถ้ามี) วิธีการบริหารจัดการสินค้าคงคลังระหว่างบริษัทประสิทธิภาพการทำงาน อัตราส่วนหมุนเวียนสินค้าคงคลังจะเป็นพร็อกซีสำหรับการดำเนินการของเราสินค้าคงคลัง การจัดการวิธีปฏิบัติในขณะที่อัตราส่วนทางบัญชีกำไรสองจะสลับกันใช้เพื่อประเมินประสิทธิภาพขององค์กรในการจัดการทั่วไป มีประสิทธิภาพ หรือขาด สินค้าคงเหลือ เป็นเพียงหนึ่งปัจจัยที่อาจมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานที่บริษัท ช่วงอื่นของเศรษฐกิจมหภาค อุตสาหกรรม และปัจจัยระดับบริษัทเป็นจุดสำคัญด้วย ในอดีต นักเศรษฐศาสตร์มุ่งเน้นที่อุตสาหกรรมตัวแปรระดับที่ใช้กรอบโครงสร้างการดำเนินประสิทธิภาพ (SCP) นี้ความเครียดในบทบาทของอุตสาหกรรมเข้มข้นและส่วนแบ่งการตลาดของบริษัท ตั้งแต่สูงระดับทั้งสองสามารถเชื่อมโยงกับผลกำไรที่สูงขึ้น (ทางทฤษฎี) การศึกษาเชิงประจักษ์ตรวจอื่น ๆ ดีเทอร์มิแนนต์เป็นไปได้ เช่น โครงสร้างความเป็นเจ้าของบริษัท (Himmelberg et al. 1999), ทิศทางกลยุทธ์ (Bart และ Baetz, 1998), ขนาดของคณะกรรมการ(ไอเซนเบิร์กและ al. 1998), นวัตกรรม (หอ 1993) เป็นต้น ในการศึกษาอย่างไรก็ตาม ในความพยายามการแยกผลกระทบของนโยบายการคลัง เราไม่ควรทำนายอื่น ๆ ได้ของประสิทธิภาพการทำงานวรรณกรรมเกือบทั้งหมดในการจัดการสินค้าคงคลังที่เหมาะสมใช้เกณฑ์ต้นทุนไดลดหรือกำไร เป้าหมายของการจัดการสินค้าคงคลัง อย่างจำลองแบบมาเป็นการลดต้นทุน หรือเพิ่มกำไรในขณะที่ความพึงพอใจของลูกค้าความต้องการ หากสินค้าคงคลังการตัดสินใจต่อรายได้ เงื่อนไขเหล่านี้สองส่งผลให้นโยบายที่เหมาะสมเติมเดียวกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อาคารในสัญชาตญาณนี้จุดประสงค์ของเราในบทความปัจจุบันคือการตรวจสอบ
ความสัมพันธ์ (ถ้ามี) ระหว่างแนวทางการบริหารจัดการสินค้าคงคลังและ บริษัท
ประสิทธิภาพ อัตราส่วนหมุนเวียนสินค้าคงคลังจะทำหน้าที่เป็นพร็อกซี่ของเราสำหรับการดำเนินการ
ของการปฏิบัติการจัดการสินค้าคงคลังในขณะที่อัตราส่วนทั้งสองบัญชีการทำกำไรจะถูก
ใช้แทนกันได้สำหรับการประเมินผลการดำเนินงานขององค์กร.
โดยทั่วไปมีประสิทธิภาพหรือไม่มีประสิทธิภาพการจัดการสินค้าคงเหลือเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่
อาจมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของ บริษัท ช่วงของเศรษฐกิจมหภาคอื่น ๆ อุตสาหกรรมและ
ปัจจัยในระดับ บริษัท ยังมีความสำคัญ อดีตนักเศรษฐศาสตร์ได้มุ่งเน้นอุตสาหกรรม
ตัวแปรระดับการใช้โครงสรการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพ (SCP) กรอบ นี้
เน้นบทบาทของความเข้มข้นของอุตสาหกรรมและส่วนแบ่งการตลาดของ บริษัท เนื่องจากสูงกว่า
ระดับของทั้งสองอาจจะ (ในทางทฤษฎี) ที่เชื่อมโยงกับการทำกำไรที่สูงขึ้น การศึกษาเชิงประจักษ์
นอกจากนี้ยังตรวจสอบปัจจัยที่เป็นไปได้อื่น ๆ เช่นโครงสร้างความเป็นเจ้าของของ
บริษัท (Himmelberg et al., 1999) ทิศทางกลยุทธ์ (บาร์ตและ Baetz, 1998) ขนาดของคณะกรรมการ
(Eisenberg et al., 1998) นวัตกรรม (ฮอลล์ 1993) เป็นต้นในการศึกษานี้อย่างไรก็ดีในความพยายามที่
จะแยกผลกระทบของนโยบายสินค้าคงคลังที่เราไม่ได้พิจารณาทำนายไปได้อื่น ๆ
ของประสิทธิภาพการทำงาน.
เกือบทั้งหมดหนังสือที่เกี่ยวกับการจัดการสินค้าคงคลังที่เหมาะสมจะใช้เกณฑ์ของค่าใช้จ่าย
ลดหรือกำไรสูงสุด ผู้จัดการสินค้าคงคลังเป้าหมายเช่นเป็น
จำลองเป็นการลดค่าใช้จ่ายหรือการเพิ่มผลกำไรในขณะที่ความพึงพอใจของลูกค้า
ความต้องการ หากการตัดสินใจของสินค้าคงคลังที่ไม่ส่งผลกระทบต่อกระแสรายได้ทั้งสองเกณฑ์
ส่งผลในการเติมเต็มนโยบายที่ดีที่สุดเหมือนกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อาคารปรีชานี้ จุดประสงค์ของเราในกระดาษปัจจุบัน คือ ศึกษาความสัมพันธ์ ( ถ้ามี ) ระหว่างการปฏิบัติและ บริษัท การจัดการสินค้าคงคลังผลการปฏิบัติงาน อัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงคลังจะทำหน้าที่เป็นพร็อกซี่สำหรับการดำเนินงานของเราแนวทางปฏิบัติในการจัดการสินค้าคงคลังในขณะที่สองอัตราส่วนทางบัญชีและผลตอบแทนจะนั้นใช้สำหรับประเมินผลการปฏิบัติงานขององค์กรในทั่วไป , การจัดการสินค้าคงคลังที่มีประสิทธิภาพหรือผลเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่อาจมีผลต่อประสิทธิภาพของบริษัท ช่วงอื่น ๆ เศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และปัจจัยระดับองค์กรก็สำคัญ ในอดีต นักเศรษฐศาสตร์ได้เน้นอุตสาหกรรมปัจจัยระดับการใช้โครงสร้าง - การแสดงความประพฤติ ( SCP ) กรอบ นี้เน้นบทบาทของความเข้มข้นและอุตสาหกรรมของตลาดหุ้น เพราะสูงกว่าระดับของทั้งสองอาจจะ ( ทุกคน ) ที่เชื่อมโยงกับผลตอบแทนที่สูงขึ้น . การศึกษาเชิงประจักษ์นอกจากนี้ยังศึกษาปัจจัยที่เป็นไปได้อื่น ๆ ตัวอย่างเช่น โครงสร้างความเป็นเจ้าของของบริษัท ( himmelberg et al . , 1999 ) , ทิศทางเชิงกลยุทธ์ ( บาร์ตและ baetz , 1998 ) , ขนาดของคณะกรรมการ( ไอเซนเบิร์ก et al . , 1998 ) , นวัตกรรม ( Hall , 1993 ) เป็นต้น ในการศึกษานี้ อย่างไรก็ตาม ในความพยายามที่จะแยกผลกระทบของนโยบายสินค้าคงคลังเราไม่พิจารณาตัวแปรที่เป็นไปได้อื่น ๆของการปฏิบัติงานเกือบทั้งหมดเป็นวรรณกรรมในการจัดการสินค้าคงคลังที่เหมาะสมใช้เกณฑ์ต้นทุนการลดหรือการทำกำไรสูงสุด . เป้าหมายสินค้าคงคลังผู้จัดการเช่นซึ่งเป็นการลดต้นทุนหรือเพิ่มกำไรในขณะที่ความพึงพอใจของลูกค้าความต้องการ ถ้าไม่มีผลต่อการตัดสินใจของกระแสรายได้ทั้งสองเกณฑ์ผลเดียวกันเติมนโยบายที่เหมาะสม