experience is a better predictor of

experience is a better predictor of psychological well-being of caregivers than kn. Various studies have also pointed that culture plays burden an important role in the appraisal of caregivers' experience; hence, findings from one culture cannot be generalised to anotherlo. reflect and whatever the experience that the caregivers have, it will manifest through the attitude and behavior towards the patients. Generally, the patients will perceive social support toward them. Social support is a general term which is divided into three types: perceived support, received (enacted support) and social integration. Each type of social support displays its own unique pattern of correlation with other constructs and variables, indicating that each type is a distinct con- struct''. Perceived support is the subjective judgment that family and friends would provide quality assistance with future stressors. People with high perceived-support believe that they rely on their family and friends to provide quality assistance during times of trouble. Perceived social support, with its distinct cognitive component, has been found to be more important for mental health than other dimensions of social support The aim of this study is to investigate the relationship between the caregiving experience in schizophrenia, perceived social support and the outcomes of the illness. We hypothesised that any caregiving experience will influence the social support given to the patients. If the caregivers have positive a caregiving experience, it will influence the patient's well-being by providing good social support, while if the caregivers have a negative caregiving experience, it will eventually impair the health outcome of the patients.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประสบการณ์เป็น predictor ดีของจิตใจความเป็นอยู่ของผู้ดูแลมากกว่า kn. ศึกษาต่าง ๆ ยังมีชี้ที่วัฒนธรรมภาระเล่นบทบาทสำคัญในการประเมินผู้ที่ดูแลประสบการณ์ ดังนั้น ผลจากวัฒนธรรมหนึ่งไม่ generalised เพื่อ anotherlo สะท้อน และประสบการณ์สิ่งที่ผู้ดูแลมี มันจะแสดงถึงทัศนคติและพฤติกรรมต่อผู้ป่วย โดยทั่วไป ผู้ป่วยจะรับรู้การสนับสนุนทางสังคมต่อไป สนับสนุนทางสังคมเป็นคำทั่วไปซึ่งแบ่งออกเป็นสามประเภท: สนับสนุน รับ (บังคับสนับสนุน) และทางสังคมที่รับรู้ แต่ละชนิดของการสนับสนุนทางสังคมแสดงลายของความสัมพันธ์กับโครงสร้างและตัวแปร ระบุว่า แต่ละชนิดเป็น struct ปรับความแตกต่าง '' รับรู้มีวิจารณญาณเรื่องที่ครอบครัว และเพื่อนจะให้ความช่วยเหลือของคุณภาพกับความเครียดในอนาคต คนสูงรับรู้สนับสนุนเชื่อว่า พวกเขาพาครอบครัวและเพื่อนของพวกเขาให้มีคุณภาพในช่วงเวลาของปัญหา รับรู้ทางสังคมสนับสนุน ส่วนองค์ความรู้แตกต่าง พบสำคัญสำหรับสุขภาพจิตกว่ามิติอื่น ๆ ของสังคมสนับสนุนจุดมุ่งหมายของการศึกษานี้เป็นการ ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างประสบการณ์ caregiving ในการรับรู้การสนับสนุนทางสังคมและผลของการเจ็บป่วย โรคจิตเภท เรา hypothesised ที่มีประสบการณ์ caregiving จะมีผลสนับสนุนทางสังคมที่ให้ผู้ป่วย ถ้าผู้ดูแลมีบวกประสบการณ์ caregiving มันจะมีอิทธิพลต่อผู้ป่วยเป็นอยู่ โดยการให้การสนับสนุนทางสังคม ในขณะที่ถ้าผู้ดูแลมีประสบการณ์ caregiving ลบ ในที่สุดมันจะเสียหายผลสุขภาพของผู้ป่วย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประสบการณ์เป็นปัจจัยบ่งชี้ที่ดีของจิตใจความเป็นอยู่ของผู้ดูแลผู้ป่วยกว่า KN การศึกษาต่างๆได้ชี้ให้เห็นว่าวัฒนธรรมยังเล่นภาระบทบาทสำคัญในการประเมินผลของประสบการณ์ของผู้ดูแลนั้น ดังนั้นผลการวิจัยจากวัฒนธรรมหนึ่งไม่สามารถทั่วไปจะ anotherlo สะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่และประสบการณ์ที่ผู้ดูแลผู้ป่วยมีก็จะประจักษ์ผ่านทัศนคติและพฤติกรรมที่มีต่อผู้ป่วย โดยทั่วไปผู้ป่วยจะรับรู้การสนับสนุนทางสังคมต่อพวกเขา การสนับสนุนทางสังคมเป็นคำทั่วไปซึ่งจะแบ่งออกเป็นสามประเภทคือการรับรู้การสนับสนุนที่ได้รับ (สนับสนุนตรา) และบูรณาการทางสังคม ประเภทของการสนับสนุนทางสังคมในแต่ละรูปแบบการแสดงที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองของความสัมพันธ์กับโครงสร้างอื่น ๆ และตัวแปรที่แสดงให้เห็นว่าแต่ละประเภทเป็น struct งที่แตกต่างกัน '' การสนับสนุนการรับรู้เป็นอัตนัยตัดสินว่าครอบครัวและเพื่อน ๆ จะให้ความช่วยเหลือที่มีคุณภาพให้เกิดความเครียดในอนาคต คนที่มีความสูงรับรู้การสนับสนุนเชื่อว่าพวกเขาต้องพึ่งพาครอบครัวและเพื่อน ๆ ของพวกเขาจะให้ความช่วยเหลือที่มีคุณภาพในช่วงเวลาของปัญหา การรับรู้การสนับสนุนทางสังคมที่มีส่วนประกอบขององค์ความรู้ที่แตกต่างได้รับพบว่ามีความสำคัญมากขึ้นสำหรับสุขภาพจิตกว่ามิติอื่น ๆ การสนับสนุนทางสังคมจุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้คือการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างประสบการณ์การดูแลในโรคจิตเภทการรับรู้การสนับสนุนทางสังคมและผลของ การเจ็บป่วย เราสมมุติฐานว่าประสบการณ์การดูแลใด ๆ ที่จะมีผลต่อการได้รับการสนับสนุนทางสังคมให้แก่ผู้ป่วย หากผู้ดูแลผู้ป่วยมีบวกประสบการณ์การดูแลก็จะมีผลต่อผู้ป่วยเป็นอยู่ที่ดีโดยให้การสนับสนุนทางสังคมที่ดีในขณะที่ถ้าผู้ดูแลมีประสบการณ์การดูแลเชิงลบก็จะทำให้เสียผลต่อสุขภาพของผู้ป่วย