Abstract. Online social networks su

Abstract. Online social networks such as Friendster, MySpace, or the Facebook have experienced
exponential growth in membership in recent years. These networks offer attractive means for interaction and communication, but also raise privacy and security concerns. In this study we survey a representative sample of the members of the Facebook (a social network for colleges and high schools) at a US academic institution, and compare the survey data to information retrieved from the network itself. We look for underlying demographic or behavioral differences between the communities of the network’s members and non-members; we analyze the impact of privacy concerns on members’behavior; we compare members’ stated attitudes with actual behavior; and we document the changes in behavior subsequent to privacy-related information exposure. We find that an individual’s privacy concerns are only a weak predictor of his membership to the network. Also privacy concerned individuals join the network and reveal great amounts of personal information. Some manage their privacy concerns by trusting their ability to control the information they provide and the external access to it.
However, we also find evidence of members’ misconceptions about the online community’s actual size and composition, and about the visibility of members’ profiles.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อ เครือข่ายสังคมออนไลน์เช่น Friendster มายสเปซ หรือ Facebook มีประสบการณ์เรขาในสมาชิกในปีที่ผ่านมา เครือข่ายเหล่านี้มีวิธีที่น่าสนใจสำหรับการโต้ตอบและการสื่อสาร แต่ยัง เพิ่มความกังวล ในการศึกษานี้ เราสำรวจตัวอย่างพนักงานของ Facebook (เครือข่ายสังคมสำหรับวิทยาลัยและโรงเรียนสูง) ที่สถาบันการศึกษาประเทศสหรัฐอเมริกา และเปรียบเทียบข้อมูลแบบสำรวจข้อมูลที่ดึงมาจากเครือข่ายตัวเอง เราค้นหาอยู่ภายใต้ประชากร หรือพฤติกรรมความแตกต่างระหว่างชุมชนของสมาชิกของเครือข่ายไม่ใช่สมาชิก เราวิเคราะห์ผลกระทบของความกังวลส่วนตัวบน members'behavior เราเปรียบเทียบสมาชิกระบุทัศนคติกับพฤติกรรมจริง และเราเอกสารเปลี่ยนแปลงลักษณะการทำงาน subsequent to เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว เราค้นหาเกี่ยวข้องความเป็นส่วนตัวของแต่ละเฉพาะ predictor อ่อนแอเขาเป็นสมาชิกเครือข่าย นอกจากนี้ ความเป็นส่วนตัวเกี่ยวข้องบุคคลเข้าร่วมเครือข่ายและค่อย ๆ ดีจำนวนข้อมูลส่วนบุคคล บางจัดการข้อสงสัยส่วนตัวของพวกเขา โดยความเชื่อถือความสามารถในการควบคุมที่มีแหล่งข้อมูลและการเข้าถึงภายนอกจะอย่างไรก็ตาม เรายังค้นหาหลักฐานของสมาชิกความเข้าใจผิด เกี่ยวกับขนาดจริงของชุมชนออนไลน์และส่วนประกอบ และการมองเห็นได้ของสมาชิก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นามธรรม. เครือข่ายสังคมออนไลน์เช่นเฟรนด์, MySpace, Facebook
หรือมีประสบการณ์การเจริญเติบโตในการเป็นสมาชิกในปีที่ผ่านมา เครือข่ายเหล่านี้มีวิธีการที่น่าสนใจสำหรับการทำงานร่วมกันและการสื่อสาร แต่ยังเพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย ในการศึกษานี้เราสำรวจตัวอย่างที่เป็นตัวแทนของสมาชิกของเฟซบุ๊ก (เครือข่ายสังคมสำหรับวิทยาลัยและโรงเรียนมัธยม) ที่สหรัฐสถาบันการศึกษาและเปรียบเทียบข้อมูลการสำรวจข้อมูลที่ดึงมาจากเครือข่ายของตัวเอง เรามองความแตกต่างทางด้านประชากรศาสตร์หรือพฤติกรรมพื้นฐานระหว่างชุมชนของสมาชิกในเครือข่ายและสมาชิกที่ไม่ได้นั้น เราจะวิเคราะห์ผลกระทบของความเป็นส่วนตัวบน members'behavior; เราเปรียบเทียบสมาชิกทัศนคติที่มีพฤติกรรมดังกล่าวจริง และเราเอกสารการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมภายหลังการเปิดรับข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัว เราพบว่าการละเมิดความเป็นส่วนตัวของแต่ละบุคคลเป็นเพียงการทำนายที่อ่อนแอของเขาที่จะเป็นสมาชิกเครือข่าย นอกจากนี้ยังมีความเป็นส่วนตัวของบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเครือข่ายและเปิดเผยจำนวนเงินที่ดีของข้อมูลส่วนบุคคล บางส่วนในการจัดการความเป็นส่วนตัวของพวกเขาโดยไว้วางใจความสามารถในการควบคุมข้อมูลที่พวกเขาให้และภายนอกไป.
แต่เรายังพบหลักฐานของสมาชิกความเข้าใจผิดเกี่ยวกับขนาดที่แท้จริงของชุมชนออนไลน์และองค์ประกอบและเกี่ยวกับการมองเห็นของสมาชิกโปรไฟล์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นามธรรม สังคมออนไลน์ เครือข่ายเช่น Friendster MySpace หรือ Facebook มีประสบการณ์
การเจริญเติบโตในสมาชิกในปีล่าสุด เครือข่ายเหล่านี้ให้หมายความว่าที่น่าสนใจสำหรับการปฏิสัมพันธ์และการสื่อสาร แต่ยังเพิ่มความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในการศึกษานี้เราสำรวจตัวอย่างที่เป็นตัวแทนของสมาชิกของ Facebook ( เครือข่ายทางสังคมสำหรับวิทยาลัยและโรงเรียนมัธยมที่เราสถาบันการศึกษาและเปรียบเทียบข้อมูลการสำรวจข้อมูลที่ดึงมาจากเครือข่ายตัวเอง เราดูถึงความแตกต่างระหว่างประชากร หรือพฤติกรรมของชุมชน สมาชิกของเครือข่าย และสมาชิกที่ไม่ ;เราวิเคราะห์ผลกระทบของความเป็นส่วนตัวบน members'behavior ; เราเปรียบเทียบทัศนคติกับพฤติกรรมของสมาชิกที่ระบุไว้จริง และเอกสารในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ตามมาเพื่อความเป็นส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับการเปิดรับข้อมูล เราพบว่า ความเป็นส่วนตัวของแต่ละคนเป็นเพียงคนอ่อนแอทำนายการเป็นสมาชิกในเครือข่ายนอกจากนี้ ส่วนตัวกังวลบุคคลเข้าร่วมเครือข่ายและเปิดเผยมากปริมาณของข้อมูลส่วนบุคคล บางจัดการความเป็นส่วนตัวของพวกเขาโดยเชื่อใจความสามารถในการควบคุมข้อมูลที่พวกเขาให้บริการและการเข้าถึงภายนอกมัน .
แต่เรายังหาหลักฐานของสมาชิกความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสังคมออนไลน์จริง ขนาด และองค์ประกอบและเกี่ยวกับการมองเห็นของโปรไฟล์ของสมาชิก