LaserDisc did not have high market

LaserDisc did not have high market penetration in North America due to the high cost of the players and discs, which were far more expensive than VHS players and tapes, and due to marketplace confusion with the technologically inferior CED, which also went by the name Videodisc. While the format was not widely adopted by North American consumers, it was well received among videophiles due to the superior audio and video quality compared to VHS and Betamax tapes, finding a place in nearly one million American homes by the end of 1990.[26] The format was more popular in Japan than in North America because prices were kept low to ensure adoption, resulting in minimal price differences between VHS tapes and the higher quality LaserDiscs, helping ensure that it quickly became the dominant consumer video format in Japan. Anime collectors in every country the LD format was released, which includes both North America and Japan, also quickly became familiar with this format, and sought the higher video and sound quality of LaserDisc and the availability of numerous titles not available on VHS. LaserDiscs were also popular alternatives to videocassettes among movie enthusiasts in the more affluent regions of South East Asia, such as Singapore, due to their high integration with the Japanese export market and the disc-based media's superior longevity compared to videocassette, especially in the humid conditions endemic to that area of the world.

The format also became quite popular in Hong Kong during the 1990s before the introduction of VCDs and DVD; although people rarely bought the discs (because each LD was priced around USD100), high rental activity helped the video rental business in the city grow larger than it had ever been previously. Due to integration with the Japanese export market, NTSC LaserDiscs were used in the Hong Kong market, in contrast to the PAL standard used for broadcast (This anomaly also exists for DVD). This created a market for multi-system TVs and multi-system VCRs which could display or play both PAL and NTSC materials in addition to SECAM materials (which were never popular in Hong Kong). Some LD players could convert NTSC signals to PAL so that most TVs used in Hong Kong could display the LD materials.

Despite the mild popularity, manufacturers refused to market recordable LaserDisc devices on the consumer market, even though the competing VCR devices could record onto cassette, which hurt sales worldwide. The inconvenient disc size, the high cost of both the players and the media and the inability to record onto the discs combined to take a serious toll on sales, and contributed to the format's poor adoption figures.

Although the LaserDisc format was supplanted by DVD by the late 1990s, many LD titles are still highly coveted by movie enthusiasts (for example, Disney's Song of the South which is unavailable in the US in any format, but was issued in Japan on LD). This is largely because there are many films that are still only available on LD and many other LD releases contain supplemental material not available on subsequent DVD versions of those films. Until the end of 2001, many titles were released on VHS, LD, and DVD in Japan.

LD players are also sometimes still found in contemporary North American high school and college physics classrooms, in order to play a disc of the Physics: Cinema Classics series of mid-20th century Encyclopædia Britannica films reproducing classic experiments in the field which are difficult or impossible to replicate in the laboratories in educational settings.[27] These films have now been released on DVD.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เลเซอร์ดิสค์ไม่มีสูงบุกตลาดในอเมริกาเหนือเนื่อง จากต้นทุนที่สูงของผู้เล่นและดิสก์ ซึ่งมีราคาแพงมากขึ้นกว่าเครื่องเล่น VHS และเทป และเนื่อง จากตลาดสับสนกับ CED เทคโนโลยีน้อย ซึ่งยัง ได้ชื่อว่า Videodisc ในขณะที่รูปแบบไม่ทั่วถึงผู้บริโภคอเมริกันเหนือ มันดีระหว่าง videophiles เหนือกว่าเสียงและคุณภาพของวิดีโอเปรียบเทียบกับเทป VHS และเบตาแม็กซ์ทู หาที่ในเกือบหนึ่งล้านบ้านชาวอเมริกัน โดยปลายปี 1990 รับ [26] รูปแบบเป็นที่นิยมมากในญี่ปุ่นกว่าในอเมริกาเหนือเนื่องจากราคาถูกเก็บไว้ที่ต่ำสุดเพื่อให้ยอมรับ ในราคาที่น้อยที่สุดความแตกต่างระหว่างเทป VHS และคุณภาพสูง LaserDiscs ช่วยให้แน่ใจว่า มันอย่างรวดเร็วกลายเป็นรูปแบบวิดีโอผู้บริโภคหลักในญี่ปุ่น การ์ตูนสะสมในประเทศทุกรูปแบบ LD ออก ซึ่งรวมถึงอเมริกาเหนือและญี่ปุ่น ยังอย่างรวดเร็วกลายเป็นคุ้นเคยกับรูปแบบนี้ แล้วค้นหาวิดีโอ และเสียงคุณภาพสูงของเลเซอร์ดิสค์และมีอยู่หลายชื่อที่ไม่มีใน VHS LaserDiscs ยังถูกนิยมแทน videocassettes ในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์ในภูมิภาคมากขึ้นแต่ละของ South East Asia เช่นสิงคโปร์ เนื่องจากความสูงรวมกันของตลาดส่งออกญี่ปุ่นและใช้ดิสก์สื่อของห้องอัดเมื่อเทียบกับ videocassette โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชื้นยุงพื้นที่นั้นของโลกรูปแบบยังเป็นที่ค่อนข้างนิยมใน Hong Kong ในปี 1990 ก่อนที่จะแนะนำวีซีดีและดีวีดี แม้ว่าคนซื้อดิสก์ให้น้อยมาก (เนื่องจาก LD แต่ละที่ราคารอบ USD100) ให้เช่าสูงกิจกรรมช่วยธุรกิจเช่าวิดีโอในเมืองเติบโตใหญ่กว่าที่มันเคยได้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากรวมกับตลาดส่งออกญี่ปุ่น NTSC LaserDiscs ถูกใช้ในตลาด Hong Kong ตรงข้ามมาตรฐาน PAL ที่ใช้ในการออกอากาศ (ช่วยยังมีดีวีดี) นี้สร้างตลาดสำหรับทีวีระบบมัลติและระบบมัลติ Vcr ที่สามารถแสดง หรือเล่นวัสดุทั้ง PAL และ NTSC นอกจากวัสดุ SECAM (ที่เคยนิยมใน Hong Kong) บางเครื่องเล่น LD สามารถแปลงสัญญาณ NTSC ไปเป็น PAL เพื่อให้ทีวีส่วนใหญ่ใช้ใน Hong Kong สามารถแสดงวัสดุ LDแม้ มีความนิยมไม่รุนแรง ผู้ผลิตปฏิเสธตลาดอุปกรณ์เลเซอร์ดิสค์บันทึกในตลาดผู้บริโภค แม้ว่าอุปกรณ์ VCR แข่งขันสามารถบันทึกลงบนเทป ที่ทำร้ายขายทั่วโลก ดิสก์ถูกละเลยขนาด ค่าใช้จ่ายสูงของทั้งผู้เล่น และสื่อมวลชน และไม่สามารถบันทึกลงบนดิสก์รวมจะโทรอย่างจริงจังในการขาย และส่วนของรูปแบบตัวเลขไม่ดียอมรับแม้ว่ารูปแบบเลเซอร์ดิสค์ถูก supplanted โดยดีวีดี โดยปลายปี 1990, LD มากชื่อจะยังคงสูง coveted โดยผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์ (เช่น ดิสนีย์เพลงของภาคใต้ที่ไม่พร้อมใช้งานในสหรัฐอเมริกาในรูปแบบใด ๆ แต่ออกในญี่ปุ่นใน LD) นี้เป็นส่วนใหญ่เนื่องจากมีภาพยนตร์มากมายที่ยังคงมีเฉพาะบน LD และหลาย ๆ รุ่น LD อื่น ๆ ประกอบด้วยวัสดุเพิ่มเติมไม่พร้อมใช้งานในภายหลังรุ่นดีวีดีภาพยนตร์เหล่านั้น จนถึงสิ้นปีค.ศ. 2001 ชื่อมากถูกปล่อยออกมาใน VHS, LD และดีวีดีในญี่ปุ่นเครื่องเล่น LD นอกจากนี้บางครั้งยังพบในอเมริกาเหนือร่วมสมัยมัธยม และวิทยาลัยฟิสิกส์ห้องเรียน การเล่นดิสก์ของฟิสิกส์: ชุดภาพยนตร์คลาสสิกของศตวรรษที่ 20 กลาง Encyclopædia Britannica ภาพยนตร์ราคาทำคลาสสิกทดลองในฟิลด์ซึ่งจะยาก หรือไม่สามารถจำลองในห้องปฏิบัติการในการตั้งค่าที่ศึกษา [27] ฟิล์มเหล่านี้ขณะนี้มีการเปิดตัวดีวีดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เลเซอร์ดิสก์ไม่ได้มีส่วนแบ่งการตลาดสูงในทวีปอเมริกาเหนือเนื่องจากค่าใช้จ่ายสูงของผู้เล่นและแผ่นซึ่งมีราคาแพงกว่าผู้เล่นวีดิทัศน์และเทปและเนื่องจากความสับสนตลาดกับ CED ด้อยกว่าเทคโนโลยีซึ่งยังเดินตามชื่อ videodisc . ในขณะที่รูปแบบไม่ได้ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายโดยผู้บริโภคชาวอเมริกันเหนือมันก็ตอบรับอย่างดีในหมู่ videophiles เนื่องจากการเสียงที่เหนือกว่าและคุณภาพของวิดีโอเมื่อเทียบกับวีดิทัศน์และเทป Betamax หาสถานที่ในเกือบหนึ่งล้านบ้านอเมริกันโดยสิ้นปี 1990 [26 ] รูปแบบเป็นที่นิยมมากขึ้นในประเทศญี่ปุ่นกว่าในอเมริกาเหนือเพราะราคาจะถูกเก็บไว้ในระดับต่ำเพื่อให้แน่ใจว่าการยอมรับความแตกต่างที่เกิดขึ้นในราคาที่น้อยที่สุดระหว่างเทป VHS และมีคุณภาพสูงขึ้น Laserdiscs ช่วยให้แน่ใจว่ารูปแบบอย่างรวดเร็วกลายเป็นวิดีโอที่โดดเด่นของผู้บริโภคในประเทศญี่ปุ่น นักสะสมอะนิเมะในทุกประเทศรูปแบบ LD ได้รับการปล่อยตัวซึ่งรวมทั้งอเมริกาเหนือและญี่ปุ่นนอกจากนี้ยังกลายเป็นที่คุ้นเคยกับรูปแบบนี้และขอวิดีโอที่สูงขึ้นและคุณภาพเสียงของเลเซอร์ดิสก์และความพร้อมของหลายชื่อไม่สามารถใช้ได้ในวีดิทัศน์ Laserdiscs ยังเป็นทางเลือกที่นิยมในตลับในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์ในภูมิภาคที่ร่ำรวยมากขึ้นของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่นสิงคโปร์เนื่องจากการรวมกลุ่มของพวกเขาสูงที่มีตลาดส่งออกญี่ปุ่นและแผ่นดิสก์ตามอายุการใช้งานที่เหนือกว่าสื่อเมื่อเทียบกับตลับโดยเฉพาะอย่างยิ่งในชื้น . เงื่อนไขถิ่นไปยังพื้นที่ของโลกที่รูปแบบก็กลายเป็นที่นิยมมากในฮ่องกงในช่วงปี1990 ก่อนที่จะนำวีซีดีและดีวีดี; แม้ว่าจะไม่ค่อยมีคนซื้อแผ่น (เพราะแต่ละ LD ถูกราคาประมาณ USD100) กิจกรรมเช่าสูงช่วยให้ธุรกิจให้เช่าวิดีโอในเมืองขนาดใหญ่ขึ้นกว่าที่เคยเป็นก่อนหน้านี้เคยได้รับ เนื่องจากการทำงานร่วมกับตลาดส่งออกญี่ปุ่น Laserdiscs NTSC ถูกนำมาใช้ในตลาดฮ่องกงในทางตรงกันข้ามกับมาตรฐาน PAL ที่ใช้สำหรับการออกอากาศ (ความผิดปกตินอกจากนี้ยังมีอยู่สำหรับ DVD) นี้สร้างตลาดสำหรับทีวีหลายระบบและ VCR หลายระบบที่สามารถแสดงหรือเล่นได้ทั้งระบบ PAL NTSC และวัสดุที่นอกเหนือไปจากวัสดุ SECAM (ซึ่งไม่เคยได้รับความนิยมในฮ่องกง) ผู้เล่นบางคน LD สามารถแปลงสัญญาณ NTSC เพื่อ PAL เพื่อให้ทีวีที่ใช้มากที่สุดในฮ่องกงสามารถแสดงวัสดุ LD. แม้จะมีความนิยมอ่อน, ผู้ผลิตปฏิเสธที่จะทำตลาดอุปกรณ์เลเซอร์ดิสก์ที่บันทึกได้ในตลาดผู้บริโภคแม้ว่าการแข่งขันอุปกรณ์เครื่องเล่นวิดีโอสามารถบันทึกลงบนเทป ซึ่งทำร้ายยอดขายทั่วโลก ขนาดแผ่นดิสก์ที่ไม่สะดวกค่าใช้จ่ายสูงทั้งผู้เล่นและสื่อและไม่สามารถที่จะบันทึกลงบนแผ่นมารวมกันเพื่อใช้โทรอย่างจริงจังเกี่ยวกับการขายและการมีส่วนทำให้รูปแบบของตัวเลขการยอมรับยากจน. แม้ว่ารูปแบบเลเซอร์ดิสก์ถูกแทนที่ด้วยดีวีดีด้วย ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 ชื่อ LD จำนวนมากยังคงโลภอย่างสูงจากผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์ (เช่นเพลงของดิสนีย์ของภาคใต้ที่ไม่สามารถใช้งานในสหรัฐอเมริกาในรูปแบบใด ๆ แต่ออกมาในประเทศญี่ปุ่นในวัน LD) นี้เป็นส่วนใหญ่เพราะมีจำนวนมากภาพยนตร์ที่ยังคงใช้ได้เฉพาะใน LD และรุ่น LD อื่น ๆ อีกมากมายมีวัสดุเสริมไม่สามารถใช้ได้ในดีวีดีรุ่นต่อมาของภาพยนตร์เหล่านั้น จนถึงสิ้นปี 2001 หลายชื่อได้รับการปล่อยตัวในวีดิทัศน์, LD และดีวีดีในญี่ปุ่น. ผู้เล่น LD นอกจากนี้ยังมีบางครั้งพบว่ายังคงอยู่ในนอร์ทอเมริกันโรงเรียนมัธยมและห้องเรียนวิทยาลัยฟิสิกส์เพื่อที่จะเล่นแผ่นดิสก์ของฟิสิกส์: ภาพยนตร์คลาสสิก ชุดของกลางศตวรรษที่ 20 ภาพยนตร์Encyclopædiaสารานุกรมทำซ้ำการทดลองคลาสสิกในสนามซึ่งเป็นเรื่องยากหรือเป็นไปไม่ได้ที่จะทำซ้ำในห้องปฏิบัติการในการตั้งค่าการศึกษา. [27] เรื่องเหล่านี้ได้รับการปล่อยตัวในดีวีดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เลเซอร์ดิสก์ไม่ได้มีสูงในการเจาะตลาดในทวีปอเมริกาเหนือเนื่องจากค่าใช้จ่ายสูงของผู้เล่นและแผ่นซึ่งอยู่ไกลมีราคาแพงกว่าเครื่องเล่น VHS และเทป และเนื่องจากตลาดสับสนกับเทคโนโลยีด้อยกว่า CED ซึ่งยังไปโดยใช้ชื่อวิดีโอดิ ์ . ในขณะที่รูปแบบไม่ได้ถูกใช้อย่างกว้างขวางโดยผู้บริโภคในอเมริกาเหนือมันเป็นอย่างดีในหมู่ videophiles เนื่องจากคุณภาพเสียงและวิดีโอคุณภาพเทียบกับ Betamax VHS เทปและการหาสถานที่ในเกือบหนึ่งล้านบ้านอเมริกันโดยการสิ้นสุดของปี 1990 [ 26 ] รูปแบบเป็นที่นิยมมากในประเทศญี่ปุ่นกว่าในอเมริกาเหนือเนื่องจากราคาไว้ต่ำเพื่อให้ยอมรับ ส่งผลให้ส่วนต่างราคาน้อยที่สุด ระหว่าง VHS เทปและ laserdiscs คุณภาพสูงช่วยให้มันได้อย่างรวดเร็วกลายเป็นรูปแบบวิดีโอผู้บริโภคเด่นในญี่ปุ่น นักสะสมการ์ตูนในประเทศทุกรูปแบบ ld ถูกปล่อยออกมาซึ่งมีทั้งอเมริกาเหนือและญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังได้อย่างรวดเร็วกลายเป็นที่คุ้นเคยกับรูปแบบนี้ และขอสูงวิดีโอและคุณภาพเสียงของเลเซอร์ดิสก์และความพร้อมของหลายชื่อที่ไม่สามารถใช้ได้บน VHSlaserdiscs ยังเป็นทางเลือกที่นิยมในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบ videocassettes ภาพยนตร์ในภูมิภาคที่ร่ำรวยมากขึ้นของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น สิงคโปร์ เนื่องจากการรวมของพวกเขาสูงกับ ญี่ปุ่น ตลาดส่งออกและดิสก์สื่อที่เหนือกว่าตามอายุการใช้งานเทียบกับ videocassette โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชื้นถิ่นที่พื้นที่ของโลก

รูปแบบยังกลายเป็นที่นิยมในฮ่องกงในช่วงปี 1990 ก่อนที่การแนะนำของวีซีดีและดีวีดี แม้ว่าคนไม่ค่อยซื้อแผ่น ( เพราะแต่ละ LD คือราคาประมาณ USD100 ) กิจกรรมเช่าสูงช่วยให้ธุรกิจเช่าวิดีโอในเมืองเติบโตขนาดใหญ่กว่าที่เคยเป็นก่อนหน้านี้ เนื่องจากการส่งออกตลาดญี่ปุ่นlaserdiscs NTSC ใช้ในตลาดฮ่องกง ในทางตรงกันข้ามกับ PAL มาตรฐานใช้ในการออกอากาศ ( เราก็มีอยู่ในดีวีดี ) นี้สร้างตลาดสำหรับทีวีและกล้องรุ่นเก่าหลายระบบหลายระบบที่สามารถแสดงได้ทั้ง NTSC และ PAL หรือเล่นวัสดุนอกเหนือจากวัสดุ SECAM ( ซึ่งเคยเป็นที่นิยมในฮ่องกง )เครื่องเล่น LD บางคนสามารถแปลงสัญญาณ NTSC กับ PAL ดังนั้นส่วนใหญ่ทีวีที่ใช้ในฮ่องกงสามารถแสดง LD วัสดุ

แม้จะมีความนิยมอ่อน , ผู้ผลิตไม่ยอมตลาดอุปกรณ์เลเซอร์ดิสก์ที่บันทึกในตลาดผู้บริโภค แม้ว่าการแข่งขัน VCR อุปกรณ์สามารถบันทึกลงบนเทป ซึ่งทำให้การขายทั่วโลก แผ่นดิสก์ไม่สะดวกขนาดค่าใช้จ่ายสูงของทั้งผู้เล่น และสื่อและการบันทึกลงบนแผ่นดิสก์รวมที่จะใช้หมายเลขโทรที่ร้ายแรง การขาย และส่วนของการจัดรูปแบบที่ยากจนตัวเลข

ถึงแม้ว่าเลเซอร์ดิสก์รูปแบบถูกแทนที่โดย DVD โดยปลายปี 1990 , ชื่อ LD จำนวนมากยังคงโลภสูงโดยผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์ ( สำหรับ ตัวอย่างดิสนีย์เพลงใต้ซึ่งไม่มีในเรา ในรูปแบบใด แต่ที่ออกในญี่ปุ่นใน LD ) นี้เป็นส่วนใหญ่เนื่องจากมีภาพยนตร์มากมายที่ยังคงใช้ได้กับหลายรุ่น LD LD และอื่น ๆ ประกอบด้วยวัสดุเสริม ไม่สามารถใช้ได้ในรุ่นต่อมา ดีวีดีของภาพยนตร์เหล่านั้น จนกว่าจะสิ้นสุดของปี 2001 หลายชื่อที่ถูกปล่อยออกมาบน VHS , LD และ DVD ในญี่ปุ่น

เครื่องเล่น LD นอกจากนี้บางครั้งยังพบได้ในโรงเรียนมัธยมและวิทยาลัยนอร์ทอเมริกันร่วมสมัยเรียนฟิสิกส์ ในการเล่นแผ่นดิสก์ของฟิสิกส์ : ชุดหนังคลาสสิกของศตวรรษที่ 20 - กลางสารานุกรมบริตานิกาภาพยนตร์คลาสสิกทำซ้ำการทดลองในสนามที่ยากหรือเป็นไปไม่ได้ที่จะทำซ้ำในห้องปฏิบัติการในสถานศึกษา[ 27 ] ภาพยนตร์เหล่านี้ได้ถูกปล่อยออกมาในดีวีดี