The Indonesian government’s economi

The Indonesian government’s economic policy package to be released this week should focus on prompt solutions to boost sluggish purchasing power, economists and industry groups have said.

Institute for Development of Economics and Finance (INDEF) director Enny Sri Hartati said that restoring purchasing power would aid domestic demand, which constituted 55 per cent of the country’s economy but had not been sufficiently addressed in the first and second economic packages released in September.

The September packages focused primarily on boosting investment and cutting red tape.

“If there is no increase in purchasing power, then there will not be an increase in investment and production,” she told The Jakarta Post on Saturday. “The intervention should be immediate because purchasing power has been dropping very fast.”

Central Statistics Agency (BPS) data showed that consumer spending grew 4.99 per cent by the end of the first half of the year, the lowest figure since 2011, while economic growth slowed to a six-year low of 4.7 per cent.

Enny also said that the deflation figure released recently had also shown alarming signs of weakening purchasing power, as the consumer price index (CPI) deflated by 0.05 per cent month-to-month in September, triggered by a decline in food prices and other sectors such as transportation and communications.

“The decrease in food prices could mean either that there is decreasing demand or an improvement in supply. But with the current prolonged drought, it is not rational to attribute it to productivity,” Enny said.

According to Enny, the government could boost purchasing power by stabilising food prices and lowering oil prices, as was proposed by President Joko “Jokowi” Widodo last week.

“So, people can save on transportation and buy other things, even though the lower oil price does not necessarily mean that other prices will also go down,” she said.

INDEF economist Imaduddin Abdullah said that the government also needed to take short term actions to quickly boost purchasing power.

“They could intensify various cash transfers. Even though it is more short term, they immediately need additional income,” Imaduddin said.

Direct cash transfers (BLT) had been implemented in previous administrations to aid the poor in times of need. In 2008, after skyrocketing global oil prices caused a significant hike in fuel prices, the government earmarked 41.1 trillion rupiah ($2.78 billion) for distribution to the poor, during which 19.1 million families received monthly cash assistance payments of 100,000 rupiah plus cooking oil and sugar handouts from June 2008 to February 2009.

“In conditions of economic slowdowns such as the one at present, where we cannot expect much from a global economy still racked with uncertainty, quick action is required,” wrote Destry Damayanti, chief economist and executive director of Bank Mandiri’s Mandiri Institute.

Destry also said that direct cash transfers or developing rural facilities and infrastructure would benefit low-income communities with high ratios of consumption to income levels.

“This means that however much money they receive will be spent, as their needs are of a primary nature. In this way, additional demand would be generated which, in turn, would bolster domestic production,” argued Destry.

The government attempted to boost consumer spending in the first policy package by providing incentives to low income people such as accelerating village fund disbursement through cash-for-work programmes as well as providing more rice to the poor and providing fuel converter kits for fishermen.

Meanwhile, the second economic policy package focused more on simplifying licensing procedures and providing a speedier process for business permit issuance, as well as encouraging exporters to park their funds in domestic banks.

The Indonesian Young Entrepreneurs Association (HIPMI) also hoped that the third batch of economic policy would address the demand-side of the economy by increasing purchasing power and employment, such as speeding up labour intensive projects in a number of regions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แพคเกจของนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลอินโดนีเซียที่จะออกสัปดาห์นี้ควรเน้นโซลูชั่นพร้อมท์เพื่อเพิ่มกำลังซื้อชะลอตัว นักเศรษฐศาสตร์และกลุ่มอุตสาหกรรมได้กล่าวว่าสถาบันพัฒนาเศรษฐกิจและการเงิน (INDEF) กรรมการฮารตาติศรีเอ็นนี่กล่าวว่า กำลังซื้อคืนจะช่วยความต้องการภายในประเทศ ซึ่งทะลักร้อยละ 55 ของเศรษฐกิจของประเทศ แต่ไม่ได้เพียงพออยู่ในหนึ่ง และสองเศรษฐกิจแพคเกจที่นำออกใช้ในเดือนกันยายนแพคเกจกันยายนเน้นหลักในการส่งเสริมการลงทุนและเทปตัดสีแดงเธอ "ถ้ามีกำลังซื้อเพิ่ม แล้วจะไม่มีการลงทุนและการผลิตเพิ่มขึ้น บอกเดอะจาการ์ตาโพสต์ในวันเสาร์ "แทรกแซงควรได้ทันทีเนื่องจากมีการวางกำลังซื้ออย่างรวดเร็ว"ข้อมูลสำนักงานสถิติกลาง (BPS) แสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคที่ใช้จ่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.99 โดยครึ่งแรกของปี ตัวเลขที่ต่ำสุดตั้งแต่ 2011 ในขณะที่เศรษฐกิจชะลอตัวต่ำ 6 ปีของร้อยละ 4.7เอ็นนี่ยังกล่าวว่า ภาวะเงินฝืดภาพออกเมื่อเร็ว ๆ นี้มียังแสดงอาการที่น่าเป็นห่วงของลดลงกำลังซื้อ เป็นดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) deflated โดยร้อยละ 0.05 เดือนกับเดือนในเดือนกันยายน ทริกเกอร์ โดยลดลงราคาอาหารและภาคอื่น ๆ เช่นการขนส่งและการสื่อสาร"ลดราคาอาหารอาจหมายถึง อย่างใดอย่างหนึ่งที่ มีความต้องการลด หรือการปรับปรุงในการจัดหาได้ แต่กับฤดูแล้งปัจจุบันนาน ไม่เชือดแอตทริบิวต์เพื่อประสิทธิผล เอ็นนี่กล่าวตามเอ็นนี่ รัฐบาลสามารถเพิ่มกำลังซื้อ โดยสำหรับราคาอาหาร และการลดราคาน้ำมัน ตามที่เสนอ โดยประธาน Joko " Jokowi " Widodo สัปดาห์สุดท้าย"ดังนั้น ผู้คนสามารถบันทึกบนขนส่ง และซื้อสิ่งอื่น ๆ ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันที่ต่ำกว่าไม่ได้หมายความว่า ที่ อื่นราคาจะยังลงไป, " เธอกล่าวนักเศรษฐศาสตร์ INDEF Imaduddin อับดุลลอฮกล่าวว่า รัฐบาลยังจำเป็นในการดำเนินการระยะสั้นเพื่อกระตุ้นกำลังซื้ออย่างรวดเร็ว"พวกเขาสามารถกระชับโอนเงินต่าง ๆ แม้จะระยะสั้นมากขึ้น พวกเขาทันทีต้องการรายได้เพิ่มเติม Imaduddin กล่าวโอนเงินโดยตรง (บีแอลที) ได้ถูกนำมาใช้ในจัดการก่อนหน้านี้เพื่อช่วยคนจนในเวลาที่ต้องการ ใน 2008 หลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลก skyrocketing เกิดธุดงค์ที่สำคัญราคาน้ำมัน รัฐบาล earmarked rupiah 41.1 ล้านล้าน ($2.78 ล้าน) สำหรับการกระจายให้คนจน ที่ 19.1 ล้านครอบครัวรับชำระเงินช่วยเหลือเงินสดรายเดือน rupiah 100000 บวกอาหารเอกสารประกอบน้ำมันและน้ำตาลคำบรรยายจาก 2551 มิถุนายนกุมภาพันธ์ 2552"ในเงื่อนไขของเทร์เศรษฐกิจเช่นในปัจจุบัน เราไม่คาดหวังมากจากเศรษฐกิจโลกที่ยังคง racked กับความไม่แน่นอน กระทำที่รวดเร็วถูกต้อง เขียน Destry Damayanti หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์และกรรมการบริหารสถาบัน Mandiri Bank MandiriDestry กล่าวว่า โอนเงินโดยตรง หรือสิ่งพัฒนาชนบท และโครงสร้างพื้นฐานจะได้รับประโยชน์ชุมชนแนซ์ มีอัตราส่วนการใช้รายได้ระดับสูง"หมายความ ว่า อย่างไรเงินที่ได้รับจะใช้เวลา เป็นความต้องการของธรรมชาติเป็นหลัก ด้วยวิธีนี้ ความต้องการเพิ่มเติมจะสร้างซึ่ง จะ จะส่งเสริมการผลิตภายในประเทศ, "โต้เถียง Destryรัฐบาลพยายามกระตุ้นผู้บริโภคที่ใช้ในแพคเกจนโยบายแรก โดยแรงจูงใจให้คนรายได้ต่ำเช่นเร่งจ่ายเงินให้แก่กองทุนหมู่บ้านผ่านโปรแกรมเงินสดสำหรับการทำงานตลอดจนการเพิ่มเติมข้าวให้คนจน และให้ชุดแปลงเชื้อเพลิงสำหรับชาวประมงในขณะเดียวกัน แพคเกจที่สองนโยบายเศรษฐกิจเน้นขึ้นให้กระบวนการอนุญาตให้ใช้สิทธิ์ และให้กระบวนการตามปกติธุรกิจอนุญาตออก เช่นเดียวกับผู้ส่งออกรอบจอดเงินในธนาคารในประเทศของตนอินโดนีเซียยังผู้ประกอบการสมาคม (HIPMI) หวังว่า ชุดที่สามของนโยบายเศรษฐกิจจะอยู่ด้านความต้องการของเศรษฐกิจ โดยการเพิ่มกำลังซื้อและการจ้างงาน เช่นเร่งโครงการเร่งรัดแรงงานในภูมิภาค

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แพคเกจนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลอินโดนีเซียที่จะถูกปล่อยออกมาในสัปดาห์นี้ควรให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาพร้อมที่จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อซบเซานักเศรษฐศาสตร์และกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้กล่าว. สถาบันเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและการเงิน (INDEF) ผู้อำนวยการ Enny ศรี Hartati กล่าวว่าการเรียกคืนอำนาจซื้อจะช่วย อุปสงค์ในประเทศซึ่งประกอบด้วยร้อยละ 55 ของเศรษฐกิจของประเทศ แต่ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเพียงพอในแพคเกจทางเศรษฐกิจเป็นครั้งแรกและครั้งที่สองได้รับการปล่อยตัวในเดือนกันยายน. แพคเกจกันยายนเน้นหลักในการส่งเสริมการลงทุนและการตัดเทปสีแดง. "ถ้ามีการเพิ่มขึ้นในการจัดซื้อไม่มี อำนาจแล้วจะไม่มีการเพิ่มขึ้นของการลงทุนและการผลิต "เธอบอกจาการ์ตาโพสต์เมื่อวันเสาร์ที่ "การแทรกแซงควรจะทันทีเพราะกำลังซื้อที่ได้รับการลดลงอย่างรวดเร็ว." สำนักงานสถิติกลาง (BPS) ข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 4.99 เปอร์เซ็นต์ในตอนท้ายของครึ่งแรกของปีที่ตัวเลขต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2011 ขณะที่เศรษฐกิจ การเจริญเติบโตที่ชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดหกปีร้อยละ 4.7. Enny ยังกล่าวว่าตัวเลขภาวะเงินฝืดที่ปล่อยออกมาเมื่อเร็ว ๆ นี้นอกจากนี้ยังได้แสดงให้เห็นสัญญาณที่น่ากลัวของการลดลงกำลังซื้อในขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) กิ่วร้อยละ 0.05 เดือนถึงเดือน ในเดือนกันยายนที่เกิดจากการลดลงของราคาอาหารและภาคอื่น ๆ เช่นการขนส่งและการสื่อสาร. "ลดลงของราคาอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งอาจหมายถึงว่ามีความต้องการที่ลดลงหรือการปรับปรุงในการจัดหา แต่ด้วยความแห้งแล้งเป็นเวลานานในปัจจุบันก็ไม่ได้เป็นเหตุผลที่จะระบุว่าการผลิต "Enny กล่าว. ตาม Enny รัฐบาลสามารถเพิ่มกำลังซื้อโดยการรักษาเสถียรภาพของราคาอาหารและการลดราคาน้ำมันในขณะที่ถูกเสนอโดยประธานาธิบดี Joko" Jokowi "Widodo สัปดาห์ที่ผ่านมา. "ดังนั้นคนที่สามารถบันทึกเกี่ยวกับการขนส่งและซื้อสิ่งอื่น ๆ แม้ว่าราคาน้ำมันที่ลดลงไม่ได้หมายความว่าราคาที่อื่น ๆ ก็จะลงไป" เธอกล่าว. INDEF เศรษฐศาสตร์ Imaduddin อับดุลลาห์กล่าวว่ารัฐบาลยังจำเป็นในการใช้ การกระทำสั้นได้อย่างรวดเร็วเพิ่มกำลังซื้อ. "พวกเขาจะกระชับการโอนเงินสดต่างๆ ถึงแม้ว่ามันจะสั้นมากขึ้นพวกเขาทันทีต้องการรายได้เพิ่ม "Imaduddin กล่าว. โอนเงินสดโดยตรง (เบคอน) ได้ถูกนำมาใช้ในการบริหารงานก่อนหน้านี้ที่จะช่วยให้คนยากจนในเวลาที่ต้องการ ในปี 2008 หลังจากที่พุ่งสูงขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เกิดจากการปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่รัฐบาลจัดสรร 41100000000000 รูเปียห์ ($ 2780000000) เพื่อแจกจ่ายให้กับคนยากจนในระหว่างที่ 19,100,000 ครอบครัวที่ได้รับชำระเงินรายเดือนช่วยเหลือเป็นเงินสด 100,000 รูเปียห์บวกน้ำมันปรุงอาหารและน้ำตาล เอกสารประกอบคำบรรยายตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2008 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2009 "ในเงื่อนไขของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจดังกล่าวเป็นหนึ่งในปัจจุบันที่เราไม่สามารถคาดหวังมากจากเศรษฐกิจโลก racked ยังคงมีความไม่แน่นอนดำเนินการอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งจำเป็น" Destry Damayanti หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์และผู้อำนวยการบริหารเขียน ธนาคาร Mandiri ของ Mandiri สถาบัน. Destry ยังกล่าวว่าการโอนเงินสดโดยตรงหรือการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกในชนบทและโครงสร้างพื้นฐานที่จะได้รับประโยชน์ในชุมชนมีรายได้ต่ำที่มีอัตราส่วนสูงของการบริโภคให้อยู่ในระดับรายได้. "ซึ่งหมายความว่าเงินมาก แต่พวกเขาได้รับจะต้องใช้เวลาเป็นความต้องการของตน มีลักษณะหลัก ด้วยวิธีนี้ความต้องการที่เพิ่มขึ้นจะได้รับการสร้างขึ้นซึ่งในที่สุดก็จะหนุนการผลิตในประเทศ "ที่ถกเถียงกันอยู่ Destry. รัฐบาลพยายามที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคในแพคเกจนโยบายเป็นครั้งแรกโดยการให้แรงจูงใจให้กับผู้มีรายได้น้อยเช่นการเร่งเบิกจ่ายเงินกองทุนหมู่บ้านผ่านเงินสด เผื่อการทำงานของโปรแกรมรวมทั้งให้ข้าวมากขึ้นเพื่อคนยากจนและให้ชุดแปลงเชื้อเพลิงสำหรับชาวประมง. ในขณะที่แพคเกจนโยบายเศรษฐกิจที่สองเน้นการลดความซับซ้อนของขั้นตอนการออกใบอนุญาตและให้กระบวนการที่รวดเร็วในการออกใบอนุญาตธุรกิจเช่นเดียวกับการส่งเสริมให้ผู้ส่งออก ที่จอดเงินของพวกเขาในธนาคารในประเทศ. อินโดนีเซียหนุ่มผู้ประกอบการสมาคม (HIPMI) นอกจากนี้ยังหวังว่าชุดที่สามของนโยบายทางเศรษฐกิจจะอยู่ที่ด้านอุปสงค์ของเศรษฐกิจโดยการเพิ่มกำลังซื้อและการจ้างงานเช่นการเร่งโครงการแรงงานเข้มข้นใน จำนวนของภูมิภาค

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลอินโดนีเซียแพคเกจที่จะออกสัปดาห์นี้ ควรมุ่งเน้นไปที่โซลูชั่นเพื่อเพิ่มอำนาจการซื้อให้ซบเซา นักเศรษฐศาสตร์ และกลุ่มอุตสาหกรรมได้กล่าวว่า

สถาบันพัฒนาเศรษฐกิจและการเงิน ( อินแดฟ ) ผู้อำนวยการ enny ศรี hartati บอกว่าคืนอำนาจการซื้อ จะช่วยความต้องการภายในประเทศซึ่งคือ ร้อยละ 55 ของเศรษฐกิจของประเทศ แต่ก็ไม่เพียงพอ อยู่ในที่แรกและแพคเกจทางเศรษฐกิจที่สองออกในเดือนกันยายน

วันที่แพคเกจที่เน้นหลักในการส่งเสริมการลงทุนและการตัดเทปสีแดง

" ถ้าไม่มีการเพิ่มอำนาจการซื้อ แล้วจะไม่มีการเพิ่มขึ้นของการลงทุนและ การผลิต" เขาบอกว่า จาการ์ตา โพสต์ ในวันเสาร์ที่ " การแทรกแซงควรจะทันทีเพราะกำลังซื้อได้ลดลงอย่างรวดเร็วมาก "

กลางหน่วยงานสถิติ ( BPS ) ข้อมูล พบว่า การใช้จ่ายผู้บริโภคขยายตัวร้อยละ 10 โดยจบครึ่งแรกของปีนี้ ตัวเลขต่ำสุดตั้งแต่ปี 2554 ในขณะที่การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวไปหกปีต่ำ 4.7 เปอร์เซ็นต์ .