Chapter SevenFrom One Income To Ano

Chapter SevenFrom One Income To AnotherLet us take a look at the different types of income. They are:1. Earned Income -2. Passive Income -3. Portfolio Income -Earned Income comes from having a job in a company or in someone else’sobtained from working for someone or a company. income generated from business.income generated from investments in paper assets.business. You get paid for your time and services rendered. In the previous section, we mentioned that workers work just hard enough not to get fired and employers pay just enough for workers not to quit. This indicates that the income an employee can generate from working for an employer is limited. There is the possibility that an employee may devote extra effort thinking the employer will pay him/her more. It is a rare possibility particularly when business is difficult, but possible. And even if it happens, it is still limited. Whatever additional profit gained by the employer as a result of the employee’s extra effort, the employer will get the bigger “slice of the pie.” You are, in effect, making someone else rich through your added effort. Don’t think I’m discouraging this. It is a good act. I’m just stating a fact. It’s likely that you will be telling yourself mentally: “Hey, that’s not fair.” Fair or not, that’s the way life is, when you work for money.If you are an employee, you get your money or paycheck after everything else. It is earned income, less taxes and everything else deductible, before money reaches your hand. And if ever the money reaches your hand, the next place it is bound to go is to pay your bills. If the amount is not enough, you are bound to borrow, which makes you debt- ridden if it accumulates. Now, this is one big mistake. Don’t ever get debt-ridden. It is the quicksand to poverty.Earned Income is a safe way to generate an income. There is not much thinking to do. Except for a few high paying, high profile jobs, your work is mostly concentrated on a few things where you keep repeating the same functions. Unconsciously, this discourages creativity, so boredom starts to set in.It is because of this boredom that getting to work every morning is such a drag and you keep on looking forward to weekends, holidays, and vacations.Unless you really love what you do without consideration to the income it generates, or unless you are highly paid, or unless there is a lot more to learn in your job, or unless financial security is of no importance to you, there is no reason for you to stay long in the “rat race.” The earlier it is to get out of the trap, the better chances you will attain financial success.Passive Income is generated from businesses. You can sell products or offer services, or a combination thereof. Examples are buying/selling real estate, trading merchandise as in wholesaling and retailing, etc. In many cases, you need not be physically present in your place of business. There are also small businesses like vending machines where you hardly require an employee to visit those machines for refill (since you can do it yourself). You can also go with franchising; either be a franchiser or a franchisee. The list is endless as long as you do what you love to do.The beauty of going into your own business is that you work for you, not for someone else. You enrich yourself, not someone else. Your time is disciplined but more flexible because you can make your own schedule.Another advantage of going into business, especially in your own corporation, is that you earn and spend before tax is deducted, unlike being an employee where you are taxed before you spend.Portfolio Income, just like passive income, is making money work for you. Portfolio Income is generated from paper assets like bonds, stock market, certificate of deposits, and mutual funds. They are called paper assets because literally, they are businesses that revolve on papers.It is in portfolio income where financial knowledge is of vital importance. Your intellect interacting with creativity can either unmake or make you rich.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทที่เจ็ดจากรายได้หนึ่งสู่อีกรายได้หนึ่งเรามาดูรายได้ประเภทต่างๆ กันดีกว่า 1. รายได้ที่ได้รับ - 2. รายได้เชิงรับ - 3. รายได้จากพอร์ตโฟลิโอ - รายได้ที่ได้รับมาจากการมีงานทำในบริษัทหรือของบุคคลอื่นที่ได้รับจากการทำงานให้กับบุคคลหรือบริษัท รายได้จากธุรกิจ รายได้จากการลงทุนในสินทรัพย์กระดาษ ธุรกิจ. คุณได้รับเงินตามเวลาและบริการที่ได้รับ ในหัวข้อที่แล้ว เราได้กล่าวไว้ว่าคนงานทำงานหนักพอที่จะไม่ถูกไล่ออก และนายจ้างก็จ่ายเงินเพียงพอสำหรับคนงานที่จะไม่ลาออก แสดงว่ารายได้ที่ลูกจ้างสามารถสร้างได้จากการทำงานให้กับนายจ้างมีจำกัด มีความเป็นไปได้ที่ลูกจ้างอาจทุ่มเทความพยายามเป็นพิเศษโดยคิดว่านายจ้างจะจ่ายเงินให้เขา/เธอมากขึ้น มีความเป็นไปได้น้อยมากโดยเฉพาะเมื่อธุรกิจเป็นเรื่องยากแต่เป็นไปได้ และถึงแม้ว่ามันจะเกิดขึ้น แต่ก็ยังมีจำกัด ไม่ว่านายจ้างจะได้กำไรเพิ่มเติมอะไรก็ตามจากความพยายามพิเศษของลูกจ้าง นายจ้างก็จะได้รับ “ชิ้นพาย” ที่ใหญ่ขึ้น คุณกำลังทำให้คนอื่นร่ำรวยด้วยความพยายามที่เพิ่มขึ้นของคุณ อย่าคิดว่าฉันกำลังท้อแท้สิ่งนี้ เป็นการกระทำที่ดี ฉันแค่บอกข้อเท็จจริง เป็นไปได้ว่าคุณจะต้องบอกตัวเองในใจว่า “เฮ้ มันไม่ยุติธรรมเลย” ยุติธรรมหรือไม่ ชีวิตก็เป็นเช่นนั้น เมื่อคุณทำงานเพื่อเงิน หากคุณเป็นลูกจ้าง คุณจะได้รับเงินหรือเงินเดือนหลังจากสิ่งอื่นๆ ทั้งหมด เป็นรายได้ที่ได้รับ หักภาษี และหักลดหย่อนทุกอย่างได้ ก่อนที่เงินจะถึงมือคุณ และถ้าเงินไปถึงมือคุณ สถานที่ต่อไปที่ต้องไปคือการจ่ายบิล หากจำนวนเงินไม่เพียงพอคุณจะต้องกู้ยืมซึ่งจะทำให้คุณมีหนี้สินหากสะสม นี่เป็นข้อผิดพลาดใหญ่อย่างหนึ่ง อย่าให้เป็นหนี้เด็ดขาด มันเป็นทรายดูดแห่งความยากจน รายได้ที่ได้รับเป็นวิธีที่ปลอดภัยในการสร้างรายได้ ไม่ได้มีความคิดจะทำอะไรมากมาย ยกเว้นงานที่ได้รับค่าตอบแทนสูงและมีชื่อเสียงสูงบางงาน งานของคุณส่วนใหญ่จะเน้นไปที่บางสิ่งที่คุณยังคงทำงานเดิมๆ ซ้ำๆ สิ่งนี้บั่นทอนความคิดสร้างสรรค์โดยไม่รู้ตัว ความเบื่อจึงเริ่มเข้ามาเป็นเพราะความเบื่อนี้เองที่ทำให้การไปทำงานทุกเช้าเป็นเรื่องยาก และคุณก็ยังคงตั้งตารอวันหยุดสุดสัปดาห์ วันหยุด และวันหยุดพักผ่อนต่อไป เว้นแต่คุณจะรักในสิ่งที่คุณทำจริงๆ โดยไม่คำนึงถึงรายได้ที่ได้รับ หรือเว้นแต่ว่าคุณจะได้รับค่าตอบแทนสูง หรือเว้นแต่มีอะไรให้เรียนรู้อีกมากมายในงานของคุณ หรือเว้นแต่ความมั่นคงทางการเงินจะไม่มีความสำคัญต่อคุณ ก็ไม่มีเหตุผล เพื่อให้คุณอยู่ใน “เผ่าพันธุ์หนู” ได้นาน ยิ่งหลุดจากกับดักได้เร็วเท่าไร โอกาสที่คุณจะประสบความสำเร็จทางการเงินก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้นPassive Income เกิดจากธุรกิจ คุณสามารถขายสินค้าหรือเสนอบริการหรือหลายอย่างรวมกันได้ ตัวอย่างได้แก่ การซื้อ/การขายอสังหาริมทรัพย์ การซื้อขายสินค้าในลักษณะการค้าส่งและการขายปลีก ฯลฯ ในหลายกรณี คุณไม่จำเป็นต้องปรากฏตัวในสถานที่ธุรกิจของคุณ นอกจากนี้ยังมีธุรกิจขนาดเล็ก เช่น ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติที่คุณแทบจะไม่ต้องการให้พนักงานไปเยี่ยมชมเครื่องเหล่านั้นเพื่อเติมเงิน (เนื่องจากคุณสามารถทำเองได้) คุณสามารถไปกับแฟรนไชส์ได้ ไม่ว่าจะเป็นแฟรนไชส์หรือแฟรนไชส์ รายการไม่มีที่สิ้นสุดตราบใดที่คุณทำในสิ่งที่คุณชอบทำ ข้อดีของการทำธุรกิจของตัวเองคือการที่คุณทำงานเพื่อคุณ ไม่ใช่เพื่อคนอื่น คุณทำให้ตัวเองร่ำรวยขึ้น ไม่ใช่คนอื่น เวลาของคุณมีระเบียบวินัยแต่ยืดหยุ่นมากขึ้นเพราะคุณสามารถจัดตารางเวลาของคุณเองได้ ข้อดีอีกประการของการทำธุรกิจ โดยเฉพาะในบริษัทของคุณเองก็คือ คุณได้รับและใช้จ่ายก่อนหักภาษี ซึ่งแตกต่างจากการเป็นพนักงานที่คุณต้องเสียภาษีก่อนใช้จ่าย Portfolio Income ก็เหมือนกับ Passive Income ที่ทำให้เงินทำงานให้คุณ รายได้จากพอร์ตโฟลิโอมาจากสินทรัพย์กระดาษ เช่น พันธบัตร ตลาดหุ้น บัตรเงินฝาก และกองทุนรวม พวกเขาถูกเรียกว่าสินทรัพย์กระดาษเพราะแท้จริงแล้วเป็นธุรกิจที่หมุนเวียนบนกระดาษ อยู่ในพอร์ตโฟลิโอรายได้ซึ่งความรู้ทางการเงินมีความสำคัญอย่างยิ่ง สติปัญญาของคุณที่มีปฏิสัมพันธ์กับความคิดสร้างสรรค์สามารถทำลายล้างหรือทำให้คุณร่ำรวยได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทที่ 7
จากรายได้หนึ่งไปสู่อีกรายได้หนึ่ง
ลองมาดูรายได้ประเภทต่างๆ พวกเขาคือ:
1. รายได้แรงงาน -
2. รายได้แบบพาสซีฟ -
3. ผลตอบแทนจากการลงทุน -
มีรายได้จากการทำงานในบริษัทหรือผู้อื่น
ที่ได้จากการทำงานให้กับใครบางคนหรือบริษัท รายได้ที่เกิดจากธุรกิจ
รายได้จากการลงทุนในสินทรัพย์กระดาษ
ธุรกิจ เวลาและบริการของคุณได้รับค่าตอบแทน ในส่วนที่ผ่านมาเราได้กล่าวถึงคนงานว่า ทำงานหนักพอที่จะไม่ถูกเลิกจ้าง และนายจ้างได้รับค่าจ้างมากพอที่จะทำให้คนงานไม่ลาออก แสดงให้เห็นว่ารายได้ที่ลูกจ้างสามารถสร้างจากการทำงานให้กับนายจ้างมีจำกัด ลูกจ้างอาจต้องใช้ความพยายามเพิ่มเติมโดยคิดว่านายจ้างจะจ่ายเงินให้เขามากขึ้น ถือเป็นความเป็นไปได้ที่หายากโดยเฉพาะช่วงที่ธุรกิจมีปัญหา แต่ก็เป็นไปได้ แม้ว่าจะเกิดขึ้นแต่ก็ยังมีข้อจำกัด กำไรเพิ่มเติมใด ๆ ที่นายจ้างได้รับจากความพยายามเพิ่มเติมของลูกจ้าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทที่ 7
จากรายได้หนึ่งไปอีกรายได้หนึ่ง
ลองมาดูรายได้ประเภทต่างๆกัน นี่คือ:
1 . รายได้ -
2 . รายได้แบบพาสซีฟ -
3.รายได้พอร์ตการลงทุน-
รายได้ที่ได้รับมาจากการทํางานในบริษัทหรือบริษัทของคนอื่น
ได้รับจากการทํางานให้กับใครบางคนหรือบริษัท รายได้จากธุรกิจ
รายได้จากการลงทุนในสินทรัพย์กระดาษ
ธุรกิจ. คุณจะได้รับค่าตอบแทนสําหรับเวลาและบริการของคุณ ในส่วนก่อนหน้านี้เราได้กล่าวว่าคนงานทํางานหนักเพื่อไม่ให้ถูกไล่ออกและนายจ้างจ่ายเงินเดือนเพียงพอเพื่อให้คนงานไม่ลาออก ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารายได้ของพนักงานที่ทํางานให้กับนายจ้างมีจํานวนจํากัด พนักงานอาจจ่ายเงินเพิ่มโดยคิดว่านายจ้างจะจ่ายเงินให้มากกว่านี้ เป็นความเป็นไปได้ที่หาได้ยาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ธุรกิจลําบาก แต่มันก็เป็นไปได้. และแม้ว่ามันจะเกิดขึ้นมันก็ยังคงมีข้อจํากัด นายจ้างจะได้รับ"พาย"ที่ใหญ่กว่าโดยไม่คํานึงถึงผลกําไรเพิ่มเติมที่ได้รับจากนายจ้างเนื่องจากความพยายามพิเศษของพนักงานในความเป็นจริงคุณกําลังทําให้คนอื่นรวยด้วยความพยายามพิเศษของคุณ อย่าคิดว่าฉันกําลังกีดกันคุณ นี่เป็นพฤติกรรมที่ดี ฉันเพียงแค่ระบุข้อเท็จจริง มีแนวโน้มที่คุณจะบอกตัวเองในใจว่า "เฮ้ นี่มันไม่ยุติธรรมเลยนะ" ไม่ว่าจะยุติธรรมหรือไม่ ชีวิตก็เป็นแบบนี้ เมื่อคุณทํางานเพื่อเงิน.
ถ้าคุณเป็นลูกจ้างคุณจะได้รับเงินหรือเงินเดือนของคุณ ก่อนที่เงินจะมาถึงมือคุณมันเป็นรายได้ที่ได้รับลบภาษีและสิ่งอื่นๆที่หักได้ ถ้าเงินมาถึงมือคุณ สถานที่ถัดไป คงจ่ายบิลของคุณ. หากจํานวนเงินไม่เพียงพอคุณต้องยืมเงินและสะสมเพื่อให้คุณมีหนี้สินสูง ตอนนี้ นี่เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่. อย่าเป็นหนี้บุญคุณ นี่คือทรายความยากจน
การสร้างรายได้เป็นวิธีที่ปลอดภัยในการสร้างรายได้ ไม่ต้องคิดมากที่จะทํา นอกเหนือจากงานที่มีรายได้สูงและมีชื่อเสียงงานของคุณมุ่งเน้นไปที่บางสิ่งบางอย่างที่ทําซ้ําฟังก์ชันเดียวกัน โดยไม่รู้ตัวมันขัดขวางความคิดสร้างสรรค์ดังนั้นความเบื่อจึงเริ่มปรากฏขึ้น
เป็นเพราะความน่าเบื่อนี้การไปทํางานทุกเช้าเป็นเรื่องลากที่คุณรอคอยวันหยุดสุดสัปดาห์วันหยุดและวันหยุด
เว้นเสียแต่ว่าคุณรักงานของคุณโดยไม่คํานึงถึงรายได้หรือถ้าคุณมีรายได้สูงหรือถ้าคุณมีงานที่ต้องเรียนรู้มากหรือถ้าความมั่นคงทางการเงินไม่สําคัญสําหรับคุณคุณไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ใน"การแข่งขันหนู"เป็นเวลานานเกินไป ยิ่งคุณออกจากปัญหาได้เร็วเท่าไหร่โอกาสที่คุณจะประสบความสําเร็จทางการเงินก็ยิ่งใหญ่เท่านั้น
รายได้แบบพาสซีฟมาจากธุรกิจ คุณสามารถขายผลิตภัณฑ์หรือให้บริการหรือทั้งสองอย่าง ตัวอย่างเช่นการซื้อและขายอสังหาริมทรัพย์การค้าส่งและค้าปลีก ในหลายๆกรณีคุณไม่จําเป็นต้องปรากฏตัวในที่ทํางานของคุณ นอกจากนี้ยังมีธุรกิจขนาดเล็กเช่นเครื่องจําหน่ายอัตโนมัติและคุณแทบไม่จําเป็นต้องใช้พนักงานเพื่อเติมน้ํามันเครื่องเหล่านั้น(เพราะคุณสามารถเติมน้ํามันเองได้) นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกแฟรนไชส์ เป็นแฟรนไชส์หรือแฟรนไชส์ ตราบใดที่คุณทําในสิ่งที่คุณชอบทํารายการนี้ไม่มีที่สิ้นสุด
ประโยชน์ของการเริ่มต้นธุรกิจของคุณเองคือคุณกําลังทํางานให้กับตัวเองไม่ใช่คนอื่น คุณเติมเต็มตัวคุณเองไม่ใช่คนอื่น เวลาของคุณเป็นประจําแต่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นเนื่องจากคุณสามารถกําหนดตารางเวลาของคุณเองได้

ข้อดีอีกประการหนึ่งของการทําธุรกิจคือโดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริษัทของคุณเองเงินที่คุณได้รับและเงินที่คุณใช้จ่ายจะถูกหักภาษีไม่ใช่ภาษีและจ่ายเงินเป็นพนักงาน
รายได้พอร์ตโฟลิโอ เช่นเดียวกับรายได้แบบพาสซีฟ ทําให้เงินทํางานให้คุณ. รายได้จากพอร์ตการลงทุนมาจากสินทรัพย์กระดาษเช่นพันธบัตรตลาดหุ้นบัตรเงินฝากและกองทุนรวม พวกเขาเรียกว่าสินทรัพย์กระดาษเพราะเป็นธุรกิจกระดาษตามตัวอักษร
ในรายได้ของพอร์ตการลงทุนความรู้ทางการเงินเป็นสิ่งสําคัญ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสติปัญญาและความคิดสร้างสรรค์ของคุณสามารถทําให้คุณรวยหรือทําให้คุณไม่มีอะไร