Skin graft is one of the most indis

Skin graft is one of the most indispensable techniques in
plastic surgery and dermatology. Since Reverdin first performed
skin autotransplantation in 1869 [1], many pioneers
have tried to improve the results of grafting [2–4]. In 1929,
Brown et al. established their technique of split-thickness
skin grafting, and they differentiated between full-thickness,
intermediate-thickness, and epidermal (Thiersch) grafts,
pointing out the advantages and disadvantages of each. These
fundamental principles of skin grafting still hold true today
[5, 6].
Skin grafts are used in a variety of clinical situations,
such as traumatic wounds, defects after oncologic resection,
burn reconstruction, scar contracture release, congenital
skin deficiencies, hair restoration, vitiligo, and nipple-areola
reconstruction [7–9]. Skin grafts are generally avoided in
the management of more complex wounds. Conditions with
deep spaces and exposed bones normally require the use of
skin flaps or muscle flaps.
In the present review, we describe how to perform skin
grafting successfully, and some variation of skin grafting.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การปลูกถ่ายผิวเป็นเทคนิคที่ดีสุดที่ขาดไม่ได้ในอย่างใดอย่างหนึ่งศัลยกรรมและผิวพรรณ เนื่องจาก Reverdin ครั้งแรกautotransplantation ผิวใน 1869 [1], ผู้บุกเบิกหลายได้พยายามปรับปรุงผลลัพธ์ของการปลูกถ่ายอวัยวะ [2-4] ใน 1929น้ำตาลร้อยเอ็ดสร้างเทคนิคการแยกความหนาผิว grafting และพวกเขาที่แตกต่างระหว่างความหนาเต็มปานกลางหนา และการปลูกถ่ายผิวหนัง (Thiersch)ชี้ให้เห็นข้อดีและข้อเสียของแต่ละ เหล่านี้หลักการพื้นฐานของผิว grafting ยังคงถือจริงวันนี้[5, 6]ปลูกถ่ายผิวหนังใช้ในหลากหลายสถานการณ์ทางคลินิกเช่นแผลบาดแผล ความบกพร่องหลังจากชำแหละ oncologicเขียนบูรณะ ปล่อยนมแผลเป็น แต่กำเนิดข้อบกพร่องของผิว จักษุ โรคด่างขาว และ หัวจุกนมบูรณะ [7-9] ปลูกถ่ายผิวหนังมีการหลีกเลี่ยงในการจัดการแผลที่ซับซ้อนมากขึ้น สภาพด้วยส่วนลึกและสัมผัสกระดูกปกติต้องใช้อวัยวะเพศหญิงอวัยวะเพศหญิงผิวหนังหรือกล้ามเนื้อในรีวิวอยู่ เราอธิบายวิธีการทำผิวประสบความสำเร็จในการปลูกถ่าย และความแตกต่างของผิว grafting

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปลูกถ่ายผิวหนังเป็นหนึ่งในเทคนิคที่จำเป็นที่สุดใน
การทำศัลยกรรมพลาสติกและโรคผิวหนัง ตั้งแต่ครั้งแรกที่ดำเนินการ Reverdin
autotransplantation ผิวขึ้นในปี 1869 [1] ผู้บุกเบิกหลายคน
ได้พยายามที่จะปรับปรุงผลของการปลูกถ่ายอวัยวะ [2-4] ในปี 1929,
สีน้ำตาล, et al จัดตั้งเทคนิคของพวกเขาในการแยกความหนาของ
การปลูกถ่ายอวัยวะผิวหนังและพวกเขามีความแตกต่างระหว่างเต็มรูปแบบความหนา
กลางหนาและผิวหนัง (Thiersch) ตัด,
ชี้ให้เห็นข้อดีและข้อเสียของแต่ละ เหล่านี้
หลักการพื้นฐานของการปลูกถ่ายอวัยวะผิวยังคงถือจริงวันนี้
[5, 6].
ตัดผิวหนังถูกนำมาใช้ในความหลากหลายของสถานการณ์ทางคลินิก
เช่นบาดแผลบาดแผลข้อบกพร่องหลังจากการผ่าตัดมะเร็ง,
ฟื้นฟูการเผาไหม้แผลเป็นปล่อย contracture, พิการ แต่กำเนิด
บกพร่องผิวฟื้นฟูผม , โรคด่างขาวและหัวนม areola
ฟื้นฟู [7-9] การปลูกถ่ายผิวหนังจะหลีกเลี่ยงโดยทั่วไปใน
การจัดการของบาดแผลที่ซับซ้อนมากขึ้น เงื่อนไขกับ
ช่องว่างลึกและกระดูกสัมผัสปกติต้องใช้
อวัยวะเพศหญิงผิวหนังหรืออวัยวะเพศหญิงของกล้ามเนื้อ.
ในการตรวจสอบในปัจจุบันเราจะอธิบายวิธีการดำเนินผิว
การปลูกถ่ายอวัยวะที่ประสบความสำเร็จและรูปแบบของการปลูกถ่ายอวัยวะผิวหนังบาง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปลูกถ่ายผิวหนังเป็นหนึ่งในเทคนิคที่ขาดไม่ได้ในศัลยกรรมพลาสติก และผิวพรรณ ตั้งแต่ reverdin แสดงครั้งแรกผิว autotransplantation ใน 1869 [ 1 ] หลายผู้บุกเบิกได้พยายามที่จะปรับปรุงผลลัพธ์ของการ [ 2 – 4 ) 1929สีน้ำตาล et al . สร้างเทคนิคความหนาของแยกผิวและพวกเขาแตกต่างระหว่าง full-thickness รับสินบน ,ความหนาปานกลาง และตรง ขนาด ( thiersch ) ,ชี้ให้เห็นข้อดีและข้อเสียของแต่ละ เหล่านี้หลักการพื้นฐานของผิว grafting ยังคงถือจริงวันนี้[ 5 , 6 ]Grafts ผิวจะใช้ในความหลากหลายของสถานการณ์ทางคลินิกเช่นบาดแผลร้ายแรง ข้อบกพร่อง หลังจากชำแหละ oncologic ,เขียนใหม่ , ปล่อยเกร็งแผลเป็นแต่กำเนิดผิวประเภทเส้นผม ฟื้นฟู โรคด่างขาว หัวนมและ areolaฟื้นฟู [ 7 – 9 ] Grafts ผิวโดยทั่วไปจะหลีกเลี่ยงในการจัดการที่ซับซ้อนขึ้นของบาดแผล เงื่อนไขด้วยเป็นลึกและเปิดเผยกระดูก โดยปกติจะต้องใช้อวัยวะเพศหญิงอวัยวะเพศหญิง ผิวหนัง หรือกล้ามเนื้อในการตรวจสอบปัจจุบันเราอธิบายวิธีการทำผิวตัดต่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว และการเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง การกราฟต์