Early life in BostonFranklin's birt

Early life in Boston


Franklin's birthplace on Milk Street, Boston, Massachusetts


Franklin's birthplace site directly across from Old South Meeting House on Milk Street is commemorated by a bust above the second floor facade of this building.
Benjamin Franklin was born on Milk Street, in Boston, Massachusetts, on January 17, 1706,[Note 1][Note 2] and baptized at Old South Meeting House. He was one of ten children born to Josiah Franklin with his second wife Abiah Folger. Among Benjamin's siblings were his older brother James and his younger sister Jane.

Josiah wanted Ben to attend school with the clergy, but only had enough money to send him to school for two years. He attended Boston Latin School but did not graduate; he continued his education through voracious reading. Although "his parents talked of the church as a career"[7] for Franklin, his schooling ended when he was ten. He worked for his father for a time, and at 12 he became an apprentice to his brother James, a printer, who taught Ben the printing trade. When Ben was 15, James founded The New-England Courant, which was the first truly independent newspaper in the colonies.

When denied the chance to write a letter to the paper for publication, Franklin adopted the pseudonym of "Mrs. Silence Dogood", a middle-aged widow. "Mrs. Dogood"'s letters were published, and became a subject of conversation around town. Neither James nor the Courant's readers were aware of the ruse, and James was unhappy with Ben when he discovered the popular correspondent was his younger brother. Franklin was an advocate of free speech from an early age. When his brother was jailed for three weeks in 1722 for publishing material unflattering to the governor, young Franklin took over the newspaper and had Mrs Dogood (quoting Cato's Letters) proclaim: "Without freedom of thought there can be no such thing as wisdom and no such thing as public liberty without freedom of speech."[8] Franklin left his apprenticeship without his brother's permission, and in so doing became a fugitive.[9]

Philadelphia
At age 17, Franklin ran away to Philadelphia, Pennsylvania, seeking a new start in a new city. When he first arrived, he worked in several printer shops around town, but he was not satisfied by the immediate prospects. After a few months, while working in a printing house, Franklin was convinced by Pennsylvania Governor Sir William Keith to go to London, ostensibly to acquire the equipment necessary for establishing another newspaper in Philadelphia. Finding Keith's promises of backing a newspaper empty, Franklin worked as a typesetter in a printer's shop in what is now the Church of St Bartholomew-the-Great in the Smithfield area of London. Following this, he returned to Philadelphia in 1726 with the help of Thomas Denham, a merchant who employed Franklin as clerk, shopkeeper, and bookkeeper in his business.[9]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ช่วงชีวิตในบอสตัน


แหล่งกำเนิดของของแฟรงคลินบนถนนนม บอสตัน แมสซาชูเซตส์


ของแฟรงคลินไซต์แหล่งกำเนิดโดยตรงฝั่งตรงข้ามบ้านเก่าใต้ประชุมในนมเป็น commemorated โดยหน้าอกเหนือซุ้มชั้นสองของอาคารนี้
เบนจามินแฟรงคลินเกิดในนม ในบอสตัน แมสซาชูเซตส์ บน 17 มกราคม 1706, [หมายเหตุ 1] [หมายเหตุ 2] และรับบัพติศมาที่บ้านประชุมใต้เก่า เขาเป็นหนึ่งใน 10 คนที่เกิดกับภรรยาของเขา Abiah Folger Josiah Franklin ในหมู่พี่น้องของเบนจามินได้พี่ของเขาเจมส์และน้องอาเจน

Josiah ต้องเบนเข้าโรงเรียน โดยอาศัยพระสงฆ์ แต่มีเงินพอส่งเขาไปเรียนสองปีเท่านั้น เขาเข้าร่วมโรงเรียนบอสตันละติน แต่ก็ไม่ ศึกษา เขายังคงศึกษาผ่านอ่านละโมบ แม้ว่า "พ่อพูดของคริสตจักรเป็นอาชีพ" [7] สำหรับแฟรงคลิน อกของเขาสิ้นสุดเมื่อเขาเป็นสิบ เขาทำงานให้พ่อของเขาเป็นเวลา และที่ 12 เขาเป็นการฝึกงานให้น้องเจมส์ เครื่องพิมพ์ ที่สอนเบนค้าพิมพ์ เมื่อเบน 15 เจมส์ที่นิวอิงแลนด์ Courant ซึ่งหนังสือพิมพ์อิสระอย่างแท้จริงครั้งแรกในอาณานิคมก่อตั้ง

เมื่อปฏิเสธโอกาสเขียนจดหมายลงในกระดาษสำหรับพิมพ์ แฟรงคลินถึงนามแฝงของ "นางเงียบ Dogood" แม่ม่ายวัยกลางคน "นาง Dogood" ของจดหมายเผยแพร่ และกลายเป็น หัวข้อของการสนทนารอบเมือง ใช่เจมส์หรืออ่านของ Courant ก็ทราบ ruse และเจมส์ก็ไม่มีความสุขกับเบนเมื่อเขาค้นพบนักข่าวยอดนิยมถูกน้องชายของเขา แฟรงคลินได้สนับสนุนเสียงฟรีจากตั้งแต่เด็ก เมื่อพี่ชายของเขาถูกคุกในช่วงสามสัปดาห์ใน 1722 สำหรับวัสดุ unflattering ให้ผู้ว่าราชการประกาศ แฟรงคลินยังเอาผ่านหนังสือพิมพ์ และมีนาง Dogood (อ้างอิงจดหมายของ Cato) ประกาศ: "ไม่ มีเสรีภาพทางความคิด อาจมีสิ่งดังกล่าวเป็นภูมิปัญญาและสาธารณะเสรีภาพเสรีภาพในการพูดโดยไม่มีสิ่งเช่นกัน"[8] แฟรงคลินซ้ายดูแลเขาไม่ได้รับอนุญาตของน้อง และในเพื่อทำเป็น เป็นผู้ต้องหา[9]

ฟิลาเดลเฟีย
ที่อายุ 17 แฟรงคลินก็ย้ายหนีไปฟิลาเดลเฟีย เพนซิลวาเนีย กำลังเริ่มต้นใหม่ในเมืองใหม่ เมื่อเขาต้องมาถึง เขาทำงานในร้านพิมพ์หลายรอบเมือง แต่เขาไม่ได้พอใจ โดยลูกค้าทันที หลังจากไม่กี่เดือน ในขณะที่ทำงานในบ้านพิมพ์ แฟรงคลินถูกเชื่อ โดย William Keith เพนซิลวาเนียผู้รักไปลอนดอน รัฐบาลเพื่อซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการสร้างหนังสือพิมพ์อื่นในฟิลาเดลเฟีย ค้นหาสัญญาของคีธสำรองว่างเป็นหนังสือพิมพ์ แฟรงคลินทำงานเป็น typesetter ในร้านของเครื่องพิมพ์ในคริสตจักรของเซนต์ Bartholomew-เดอะมหาราชบริเวณ Smithfield ลอนดอน ดังกล่าว เขากลับไปฟิลาเดลเฟียใน 1726 โดยใช้โทมัส Denham ร้านค้าที่จ้างแฟรงคลิน เป็น เจ้า ผู้จัดทำบัญชีในธุรกิจของเขา[9]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชีวิตในวัยเด็กในบอสตันบ้านเกิดของแฟรงคลินในนม Street, Boston, แมสซาชูเซตเว็บไซต์แฟรงคลินบ้านเกิดตรงข้ามจากเก่าใต้ประชุมสภาในนมถนนเป็นอนุสรณ์หน้าอกด้านบนอาคารชั้นสองของอาคารนี้เบนจามินแฟรงคลินเกิดเมื่อวันที่นมถนนในบอสตัน , แมสซาชูเซตเมื่อวันที่ 17 มกราคม 1706 [หมายเหตุ 1] [หมายเหตุ 2] และศีลที่เก่าใต้ประชุมสภา เขาเป็นหนึ่งในสิบของเด็กที่เกิดจากไซแฟรงคลินกับภรรยาคนที่สองของเขา Abiah Folger ในหมู่พี่น้องเบนจามินเป็นพี่ชายของเขาเจมส์และน้องสาวของเขาเจนไซเบนอยากจะเข้าโรงเรียนที่มีพระสงฆ์ แต่มีเงินพอที่จะส่งเขาไปโรงเรียนเป็นเวลาสองปี เขาเข้าเรียนที่โรงเรียนบอสตันลาติน แต่ยังไม่จบ; เขายังคงศึกษาของเขาผ่านการอ่านที่หิวกระหาย แม้ "พ่อแม่ของเขาพูดถึงคริสตจักรเป็นอาชีพ" [7] สำหรับแฟรงคลิน, การศึกษาของเขาสิ้นสุดลงเมื่อเขาเป็นสิบ เขาทำงานให้กับพ่อของเขาเป็นครั้งและใน 12 เขากลายเป็นเด็กฝึกงานกับพี่ชายของเขาเจมส์เครื่องพิมพ์ผู้สอนเบนการค้าการพิมพ์ เมื่อเบนอายุ 15 เจมส์ก่อตั้งขึ้นใหม่อังกฤษคูรันต์ซึ่งเป็นครั้งแรกที่หนังสือพิมพ์อิสระอย่างแท้จริงในอาณานิคมเมื่อปฏิเสธโอกาสที่จะเขียนจดหมายถึงกระดาษสำหรับการตีพิมพ์แฟรงคลินนำมาใช้นามแฝงของ "นางเงียบ DoGood", ม่ายวัยกลางคน "นาง DoGood" ของตัวอักษรถูกตีพิมพ์และกลายเป็นเรื่องของการสนทนารอบเมือง ทั้งเจมส์หรือผู้อ่านคูรันต์ที่มีความตระหนักในอุบายและเจมส์ก็มีความสุขกับเบนเมื่อเขาค้นพบผู้สื่อข่าวที่เป็นที่นิยมเป็นน้องชายของเขา แฟรงคลินเป็นผู้สนับสนุนในการพูดฟรีตั้งแต่อายุ เมื่อพี่ชายของเขาถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลาสามสัปดาห์ใน 1722 สำหรับการเผยแพร่เนื้อหาที่ไม่ยกยอผู้ปกครองหนุ่มแฟรงคลินเข้ามาในหนังสือพิมพ์และมีนาง DoGood (ข้อความตัวอักษรของกาโต้) ประกาศ: "ถ้าไม่มีอิสรภาพแห่งความคิดจะไม่มีสิ่งที่เรียกว่าภูมิปัญญาและไม่มี สิ่งที่เรียกว่าเสรีภาพของประชาชนโดยไม่มีเสรีภาพในการพูด ". [8] แฟรงคลินออกจากการฝึกงานของเขาโดยไม่ได้รับอนุญาตพี่ชายของเขาและในการทำเช่นนั้นจะกลายเป็นผู้ลี้ภัยได้. [9] ฟิลาเดลตอนอายุ 17 แฟรงคลินวิ่งออกไปฟิลาเดล, Pennsylvania, หาใหม่ เริ่มต้นในเมืองใหม่ เมื่อแรกที่เขามาถึงเขาทำงานอยู่ในร้านค้าเครื่องพิมพ์ไปรอบ ๆ เมืองหลาย แต่เขาไม่ได้รับความพึงพอใจจากลูกค้าได้ทันที หลังจากนั้นไม่กี่เดือนในขณะที่ทำงานในโรงพิมพ์, แฟรงคลินเชื่อว่าการรัฐเพนซิลวาเนียโดยเซอร์วิลเลียมคี ธ ไปลอนดอนประหนึ่งว่าจะได้รับอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการสร้างหนังสือพิมพ์อีกในฟิลาเดล หาสัญญาของคี ธ ของการสำรองหนังสือพิมพ์ที่ว่างเปล่าแฟรงคลินทำงานเป็นช่างเรียงในร้านของเครื่องพิมพ์ในตอนนี้คืออะไรโบสถ์เซนต์บาร์โธโลมิที่ยิ่งใหญ่ในพื้นที่สมิทฟิลด์ของกรุงลอนดอน ต่อไปนี้เขากลับไปที่ฟิลาเดลใน 1726 ด้วยความช่วยเหลือของโทมัส Denham, ผู้ประกอบการค้าที่ใช้แฟรงคลินเป็นเสมียนเจ้าของร้านและผู้ทำบัญชีในธุรกิจของเขาได้. [9]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชีวิตในวัยเด็กในบอสตัน


( บ้านเกิดของนม Street , Boston , Massachusetts


( บ้านเกิดของเว็บไซต์โดยตรง ข้ามเก่าใต้ประชุมบ้านบนถนนเป็นอนุสรณ์โดยนมหน้าอกด้านบนชั้นสอง ซุ้มของอาคาร .
เบนจามิน แฟรงคลินเกิดบนถนน , นมใน Boston , Massachusetts , บน 17 มกราคม 1706 [ 1 ] , [ 2 ] และให้บัพติศมาแก่การประชุมที่ใต้บ้านเขาเป็นหนึ่งในสิบคนเกิดโยสิยาห์แฟรงคลินกับภรรยาคนที่สองของเขา อาบียาห์โฟลเจอร์ . ของเบนจามิน พี่น้องเป็นพี่ชายของเขาเจมส์และน้องสาวของเขาเจน

ทรงต้องการเบนไปเรียนกับพระสงฆ์ แต่ก็มากพอที่จะส่งเขาไปเรียนไปสองปี เขาเข้าเรียนที่โรงเรียนบอสตันลาติน แต่ไม่ได้จบ เขายังคงการศึกษาของเขาผ่านการอ่านโลภแม้ว่า " พ่อแม่พูดคุยของโบสถ์เป็นอาชีพ " [ 7 ] สำหรับแฟรงคลิน ตนของเขาสิ้นสุดลงเมื่อเขาอายุสิบขวบ เขาเคยทำงานให้พ่อของเขาสำหรับเวลาที่เขาเป็นเด็กฝึกงานของน้องเจมส์ เครื่องพิมพ์ ที่สอนเบนการค้าการพิมพ์ เมื่อเบน อายุ 15 ปี เจมส์ ก่อตั้งนิวอิงแลนด์ courant ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์อิสระอย่างแท้จริง

ครั้งแรกในอาณานิคมเมื่อถูกปฏิเสธโอกาสที่จะเขียนจดหมายถึงกระดาษสำหรับสิ่งพิมพ์ แฟรงคลินใช้นามแฝงของ " นางไซเรนท์ ดูกู๊ด " หญิงม่ายวัยกลางคน " นาง dogood " ตัวอักษรถูกเผยแพร่และกลายเป็นเรื่องของการสนทนารอบ ๆเมือง ทั้งเจมส์และคูรันต์ผู้อ่านทราบเรื่องอุบายและเจมส์ก็ไม่มีความสุขกับเบ็นเมื่อเขาพบผู้สื่อข่าวที่นิยมคือน้องชายของเขา แฟรงคลินเป็นผู้สนับสนุนของการพูดฟรีจากอายุต้น เมื่อพี่ชายของเขาถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลาสามสัปดาห์ใน 783 เผยแพร่วัสดุ unflattering ผู้ว่าราชการหนุ่มแฟรงคลินกว่าหนังสือพิมพ์ และทำให้คุณ dogood ( อ้างถึงจดหมาย คาโต ) ประกาศว่า :" ไม่มีอิสระทางความคิด จะไม่มีสิ่งดังกล่าวเป็นปัญญา และไม่มีสิ่งดังกล่าวเป็นเสรีภาพที่สาธารณะโดยไม่มีเสรีภาพในการพูด " [ 8 ] แฟรงคลินไปฝึกงานของเขาโดยไม่ได้รับอนุญาตของพี่ชายของเขา ทำให้กลายเป็นผู้หลบหนี [ 9 ]

ฟิลาเดลเฟีย
เมื่ออายุ 17 , แฟรงคลิน หนีไปกับฟิลาเดลเฟีย เพนซิลเวเนีย การเริ่มต้นใหม่ในเมืองใหม่ เมื่อเขาไปถึงก่อนเขาทำงานในร้านเครื่องพิมพ์หลายรอบเมือง แต่เขาก็ยังไม่พอใจ โดยลูกค้าได้ทันที หลังจากไม่กี่เดือน , ในขณะที่ทำงานในโรงพิมพ์ แฟรงคลินได้ประจักษ์ โดยผู้ว่าการรัฐเพนซิลวาเนียเซอร์วิลเลี่ยมคีธไปลอนดอน อย่างชัดเจนเพื่อซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการสร้างหนังสือพิมพ์อื่นในฟิลาเดลเฟีย ค้นหาคีธเป็นสัญญาสนับสนุนหนังสือพิมพ์ที่ว่างเปล่าแฟรงคลินเป็นช่างเรียงพิมพ์ในร้านพิมพ์ในสิ่งที่ตอนนี้เป็นโบสถ์เซนต์บาร์โธโลมิวดีใน Smithfield พื้นที่ของลอนดอน ตามนี้ เขากลับไปฟิลาเดลเฟียใน 1726 ด้วยความช่วยเหลือของโทมัส เดนแฮม พ่อค้าที่จ้าง แฟรงคลินเป็นเสมียน , ผู้จัดการ และบัญชีในธุรกิจของเขา [ 9 ]