Rural communities and their sustain

Rural communities and their sustainability: the institutional setting
To consider the roles of accountants in rural communities and economies, the
institutional setting needs to be understood. Australia is a developed country which
has a heavily urbanised population concentrated along the coast. This means that rural
areas are sparsely populated by comparison to urban centres but remain a vital
component of the Australian national economy. The Department of Foreign Affairs
and Trade (2009) notes that 67 per cent of Australian export revenue is sourced from
rural areas – equating to AU$65 billion per annum. Rural areas are sites for major
sectors of the Australian economy including mining resources, energy production, and
various primary industries including forestry and agriculture. In 2005-2006
agricultural production was worth AU$67.5 billion, forestry AU$18 billion to the
national economy and mining accounted for 37 per cent of all exports (Department of
ARJ
26,2
132
Downloaded by Rajamangala University of Technology Isan At 20:34 26 February 2015 (PT)
Foreign Affairs and Trade, 2009). With such multi-functionality of rural areas, the need
for sufficient permanent and seasonal labour, maintenance of service centres for local
and transient residents and sustainable rural communities, assumes increasing
importance.
Rural communities provide a focal point for the provision of goods and services to
residents via hubs of commercial activities including professional services such as
legal, banking, health, accounting, trades, entertainment, education and general
provisions. Whilst many services support agricultural enterprises a number also
support mining communities (Freestone et al., 2003). Service towns reflect government
efforts to ensure people have access to basic services (Gray and Lawrence, 2001;
Collitts, 2004; Tonts and Haslam-McKenzie, 2005). Despite the importance of
maintaining rural communities as service hubs, many are in decline as people drift to
urban areas or are encouraged into urban clusters to help government reduce costs and
gain from economies of scale in delivery of social and other services. In South Australia
for example, the rural cities of Mount Gambier, Port Augusta, Whyalla, and
Port Lincoln, have now become such urban clusters and serve residents in the cities
themselves, the immediate surrounding areas and the extended rural communities
(Beer et al., 1994; Beer, 1999; Beer and Clower, 2009). As a consequence, the smaller
rural communities lose their services, necessitating local residents to travel. The loss of
such services can result in permanent loss of population.
Government policy in Australia has a major influence on rural development. Rural
policies are based on a strong historical framework. Federal and state governments
made efforts to compensate rural residents under an informal arrangement termed
state paternalism (Tonts and Jones, 1997). Policy addressing differences between city
and country reached an:
[. . .] understanding of their distinctive contributions to the nation and the terms of their
interdependence, and in particular an agreement that country people should be compensated
for the costs of living outside the metropolitan centres (Brett, 2007, p. 3).
The combination of manufacturing efforts in cities and the agricultural activity in the
country combined to create a sense of synergistic nation-building. Brett (2007) points
out that the notion of being Australian incorporated the idea that all people were
entitled to certain social entitlements, access to basic services, and minimum standards
of living, which were universal. Looking after services for rural areas was essentially
Australian. In terms of population, in the nineteenth century Australia was more
urbanised than much of the world (Davison, 2008). It was established quickly in
government policy that people in cities would support those in the country by
subsidising heavily the costs of services (Brett, 2007). Country claims for “special
treatment were supported by powerful economic, strategic and cultural arguments”
(Brett, 2007). In Australia, these claims manifested themselves in countrymindedness
(Aitkin, 1988; Botterill, 2006), a form of political agrarianism with three central beliefs:
(1) rural life has a natural virtue not shared by city life;
(2) everyone relied on farming for their food; and
(3) farmers were independent and hard working.
This countrymindedness in Australia resulted from the centrality of agriculture to
Australia’s economy (Aitkin, 1988).
Dual roles
for accountants
133
Downloaded by Rajamangala University of Technology Isan At 20:34 26 February 2015 (PT)
A major change in the political mindset took place during the 1980s when neoliberal
reforms restricted both subsidisation of service provision to rural areas and public
support for rural communities (Gray and Lawrence, 2001; Pritchard, 2005). Occupations
declined and a policy of reliance on self-help came to dominate. Deregulation involving,
amongst other things, the abolition of subsidies to rural areas, as well as a restructuring
of the agricultural industry, resulted in consolidation of farming properties, a reduction
in the agricultural workforce and, inevitably, a decline in rural populations (Alston,
2002), as well as increasing social and economic hardship for those remaining in the rural
areas (Lloyd et al., 2001; Postlethwaite and Silverman, 2005).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชุมชนชนบทและการพัฒนาอย่างยั่งยืน: การตั้งค่าที่สถาบันการพิจารณาบทบาทของภาษีในชุมชนชนบทและเศรษฐกิจ การตั้งสถาบันต้องการที่จะเข้าใจ ออสเตรเลียเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วซึ่งมีประชากร urbanised หนักเข้มตามแนวชายฝั่ง หมายความว่า ชนบทพื้นที่เบาบางถูกเติมข้อมูลโดยการเปรียบเทียบกับศูนย์การเมือง แต่ยังคงมี ความสำคัญส่วนประกอบของเศรษฐกิจของประเทศออสเตรเลีย ฝ่ายกิจการต่างประเทศและบันทึก (2009) ทางการค้าที่ร้อยละ 67 ของออสเตรเลียส่งออกรายได้จะมาจากชนบท – equating AU$ 65 พันล้านต่อปี ชนบทมีไซต์ใหญ่ภาคเศรษฐกิจของออสเตรเลียรวมทั้งทรัพยากรเหมืองแร่ การผลิตพลังงาน และหลักอุตสาหกรรมรวมทั้งป่าไม้และการเกษตร ในปี 2005-2006เกษตรคุ้ม AU$ 67.5 พันล้าน ป่าไม้ AU$ 18 พันล้านเพื่อการลงบัญชีสำหรับ 37 ร้อยละของการส่งออกทั้งหมด (กรมเศรษฐกิจและเหมืองแร่ARJ26,2132มหาวิทยาลัยราชมงคลอีสานเทคโนโลยีดาวน์โหลดที่ 20:34 วันที่ 26 2015 กุมภาพันธ์ (PT)ต่างประเทศและการค้า 2009) ฟังก์ชันการทำงานดังกล่าวหลายของชนบท ต้องสำหรับพอถาวร และตามฤดูกาลแรงงาน บำรุงรักษาศูนย์บริการในท้องถิ่นและผู้อยู่อาศัยชั่วคราวและชุมชนชนบทอย่างยั่งยืน เพิ่มความสำคัญชุมชนชนบทให้จุดโฟกัสสำหรับจัดหาสินค้าและบริการคนผ่านทางของกิจกรรมเชิงพาณิชย์รวมถึงการบริการระดับมืออาชีพเช่นกฎหมาย การธนาคาร สุขภาพ บัญชี เทรด บันเทิง การศึกษา และทั่วไปเสบียง ขณะหลายบริการสนับสนุนวิสาหกิจเกษตรได้ยังสนับสนุนชุมชนเหมืองแร่ (Freestone et al., 2003) บริการเมืองสะท้อนถึงรัฐบาลความพยายามให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการพื้นฐาน (สีเทาและลอว์เรนซ์ 2001Collitts, 2004 Tonts ก Haslam McKenzie, 2005) แม้ความสำคัญของรักษาชุมชนชนบทเป็นบริการฮับ หลายเป็นตกต่ำคนดริฟท์เพื่อพื้นที่เขตเมืองหรือจะสนับสนุนให้เป็นคลัสเตอร์เมืองเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล และได้รับจากเศรษฐกิจของขนาดในการจัดบริการทางสังคม และอื่น ๆ ในออสเตรเลียใต้ตัวอย่าง ในเมืองชนบทภูเขาแกมเบียร์ พอร์ทออกัสตา Whyalla และพอร์ตลินคอล์น ตอนนี้กลายเป็นกลุ่มการเมืองดังกล่าว และให้บริการผู้อยู่อาศัยในเมืองตัวเอง พื้นที่รอบทันที และชุมชนชนบทแบบขยาย(เบียร์ร้อยเอ็ด al., 1994 เบียร์ 1999 เบียร์ก Clower, 2009) ผล ขนาดเล็กชุมชนชนบทสูญเสียบริการ necessitating ชาวท่องเที่ยว การสูญเสียของบริการดังกล่าวอาจทำให้สูญเสียประชากรถาวรนโยบายรัฐบาลในออสเตรเลียมีอิทธิพลสำคัญในการพัฒนาชนบท ชนบทนโยบายขึ้นอยู่กับกรอบทางประวัติศาสตร์ที่แข็งแรง รัฐบาลรัฐ และรัฐบาลกลางทำความพยายามเพื่อชดเชยชาวชนบทภายใต้การจัดเรียงอย่างไม่เป็นทางที่เรียกว่ารัฐ paternalism (Tonts และ Jones, 1997) ความแตกต่างแก้ปัญหานโยบายระหว่างเมืองและประเทศถึงการ:[. . .] เข้าใจสรรประเทศและเงื่อนไขของความโดดเด่นของพวกเขาอิสระเสรี และโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อตกลงว่า ควรชดเชยคนประเทศสำหรับการใช้ชีวิตของทุนนอกศูนย์นคร (Brett, 2007, p. 3)ความพยายามผลิตในเมืองและกิจกรรมการเกษตรในการประเทศรวมกันเพื่อสร้างความรู้สึกของพลังสร้างชาติ เบรตต์จุด (2007)เห็นว่า แนวคิดของ ออสเตรเลียรวมความคิดที่ทุกคนสิทธิ์บางอย่างให้สังคม การเข้าถึงบริการพื้นฐาน และมาตรฐานขั้นต่ำของที่อยู่อาศัย ที่อยู่สากล จากบริการในชนบทเป็นหลักออสเตรเลีย ในแง่ของประชากร ในศตวรรษ ออสเตรเลียได้เพิ่มมากขึ้นurbanised กว่ามากของโลก (Davison, 2008) ก่อตั้งขึ้นอย่างรวดเร็วในสนับสนุนนโยบายรัฐบาลที่คนในเมืองในประเทศด้วยsubsidising หนักต้นทุนของบริการ (Brett, 2007) เรียกร้องประเทศสำหรับ "พิเศษรักษาได้รับการสนับสนุน โดยอาร์กิวเมนต์เศรษฐกิจ กลยุทธ์ และวัฒนธรรมที่มีประสิทธิภาพ"(Brett, 2007) ในออสเตรเลีย เรียกร้องเหล่านี้ประจักษ์เองใน countrymindedness(Aitkin, 1988 Botterill, 2006) รูปแบบของ agrarianism การเมืองกับความเชื่อศูนย์กลางสาม:(1) ชนบทชีวิตมีคุณธรรมธรรมชาติที่ไม่ใช้ร่วมกับการเมือง(2) ทุกคนอาศัยในนาสำหรับอาหาร และ(3) เกษตรกรอิสระ และฮาร์ดดิสก์ทำงานได้Countrymindedness นี้ในออสเตรเลียเป็นผลมาจากเอกภาพของเกษตรเพื่อเศรษฐกิจของออสเตรเลีย (Aitkin, 1988)บทบาทที่สองสำหรับผู้จัดทำบัญชี133มหาวิทยาลัยราชมงคลอีสานเทคโนโลยีดาวน์โหลดที่ 20:34 วันที่ 26 2015 กุมภาพันธ์ (PT)การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในความคิดทางการเมืองเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1980 เมื่อ neoliberalปฏิรูปจำกัดทั้ง subsidisation บริการพื้นที่ชนบทและประชาชนการสนับสนุนสำหรับชุมชนชนบท (สีเทาและลอว์เรนซ์ 2001 Pritchard, 2005) อาชีพปฏิเสธ และมีนโยบายพึ่งเฮ้ลพ์มาครอง Deregulation เกี่ยวข้องหมู่สิ่งอื่น ๆ การเลิกอุดหนุนชนบท ตลอดจนการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมเกษตร ผลในการรวมคุณสมบัติ ลดการทำฟาร์มในแรงงานเกษตร ย่อม ลดลงประชากรชนบท (รัสเซิล2002), และเพิ่มความยากลำบากทางเศรษฐกิจ และสังคมสำหรับผู้ที่เหลืออยู่ในชนบทพื้นที่ (ลอยด์และ al., 2001 Postlethwaite กรับ 2005)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชุมชนชนบทและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของพวกเขาตั้งค่าสถาบัน
พิจารณาบทบาทของนักบัญชีในชุมชนชนบทและเศรษฐกิจ,
การตั้งค่าสถาบันต้องเข้าใจ ออสเตรเลียเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วซึ่ง
มีประชากรอย่างหนักทำให้มีลักษณะกระจุกตัวอยู่ตามแนวชายฝั่ง ซึ่งหมายความว่าในชนบท
พื้นที่มีประชากรเบาบางโดยเมื่อเปรียบเทียบกับเมือง แต่ยังคงมีความสำคัญ
ส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจของประเทศออสเตรเลีย กระทรวงการต่างประเทศ
และการค้า (2009) ตั้งข้อสังเกตว่าร้อยละ 67 ของรายได้จากการส่งออกของออสเตรเลียมีที่มาจาก
พื้นที่ชนบท - เท่ากันกับ AU $ 65000000000 ต่อปี พื้นที่ชนบทเป็นไซต์ที่สำคัญ
ภาคของเศรษฐกิจออสเตรเลียรวมทั้งทรัพยากรเหมืองแร่การผลิตพลังงานและ
อุตสาหกรรมหลักต่าง ๆ รวมทั้งป่าไม้และการเกษตร ใน 2005-2006
การผลิตทางการเกษตรเป็นมูลค่าเหรียญออสเตรเลีย $ 67500000000, AU ป่าไม้ 18000000000 $ ในการ
เศรษฐกิจของประเทศและการเหมืองแร่คิดเป็นร้อยละ 37 ของการส่งออกทั้งหมด (กรม
ARJ
26.2
132
ดาวน์โหลดโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานที่ 20:34 26 กุมภาพันธ์ 2015 (PT)
การต่างประเทศและการค้า 2009) ด้วยเช่นมัลติฟังก์ชั่นในพื้นที่ชนบทที่จำเป็น
สำหรับผู้ใช้แรงงานอย่างถาวรและเพียงพอตามฤดูกาล, การบำรุงรักษาของศูนย์บริการท้องถิ่น
ที่อาศัยอยู่และชั่วคราวและชุมชนในชนบทอย่างยั่งยืนถือว่าเพิ่มขึ้น
ความสำคัญ.
ชุมชนชนบทให้เป็นจุดโฟกัสสำหรับการจัดหาสินค้าและบริการเพื่อ
ที่อาศัยอยู่ผ่านฮับของกิจกรรมเชิงพาณิชย์รวมถึงการบริการระดับมืออาชีพเช่น
กฎหมายการธนาคาร, สุขภาพ, การบัญชี, การค้า, ความบันเทิง, การศึกษาทั่วไปและ
บทบัญญัติ ในขณะที่หลายบริการสนับสนุนการประกอบการทางการเกษตรเป็นจำนวนมากนอกจากนี้ยัง
สนับสนุนชุมชนเหมืองแร่ (ฟรีสโตน et al., 2003) เมืองบริการสะท้อนให้เห็นถึงรัฐบาล
พยายามที่จะให้แน่ใจว่าคนที่มีการเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน (สีเทาและอเรนซ์ 2001;
Collitts 2004; Tonts และ Haslam-McKenzie, 2005) แม้จะมีความสำคัญของ
การรักษาชุมชนในชนบทเป็นศูนย์กลางการให้บริการจำนวนมากในการปรับตัวลดลงเป็นคนล่องลอยไป
ในเมืองหรือพื้นที่ที่ได้รับการสนับสนุนเป็นกลุ่มเมืองเพื่อช่วยให้รัฐบาลลดค่าใช้จ่ายและ
กำไรจากการประหยัดจากขนาดในการส่งมอบบริการทางสังคมและอื่น ๆ ในออสเตรเลียใต้
เช่นเมืองชนบทของ Mount Gambier, พอร์ตออกัสตายัลและ
Port Lincoln ได้ตอนนี้กลายเป็นกลุ่มในเมืองดังกล่าวและให้บริการประชาชนในเมือง
ตัวเองพื้นที่โดยรอบทันทีและชุมชนในชนบทขยาย
(เบียร์และคณะ 1994; เบียร์, 1999; เบียร์และ Clower 2009) เป็นผลให้มีขนาดเล็ก
ชุมชนชนบทสูญเสียบริการของพวกเขาทั้งนี้ชาวบ้านในท้องถิ่นที่จะเดินทาง การสูญเสียของ
บริการดังกล่าวจะส่งผลให้สูญเสียถาวรของประชากร.
นโยบายของรัฐบาลในประเทศออสเตรเลียมีอิทธิพลสำคัญในการพัฒนาชนบท ชนบท
นโยบายจะขึ้นอยู่กับกรอบประวัติศาสตร์ที่แข็งแกร่ง รัฐบาลกลางและรัฐบาลของรัฐ
ทำให้ความพยายามที่จะชดเชยชาวชนบทภายใต้การจัดการที่ไม่เป็นทางการเรียกว่า
รัฐบิดา (Tonts และโจนส์, 1997) นโยบายที่อยู่แตกต่างระหว่างเมือง
และประเทศถึง:
[ . .] ความเข้าใจการมีส่วนร่วมที่โดดเด่นของพวกเขาเพื่อประเทศชาติและเงื่อนไขของ
การพึ่งพาอาศัยกันและโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อตกลงว่าคนที่ประเทศควรจะได้รับการชดเชย
สำหรับค่าใช้จ่ายของการใช้ชีวิตนอกศูนย์นครบาล (เบร็ท 2007 พี. 3).
การรวมกันของ ความพยายามในการผลิตในเมืองและกิจกรรมทางการเกษตรใน
ประเทศรวมกันเพื่อสร้างความรู้สึกของการทำงานร่วมกันสร้างชาติ เบร็ท (2007) ชี้
ให้เห็นว่าแนวความคิดของการเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นในประเทศออสเตรเลียคิดที่ว่าคนทุกคน
มีสิทธิ์ที่จะได้รับสิทธิทางสังคมบางอย่างการเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐานและมาตรฐานขั้นต่ำ
ของการอยู่อาศัยซึ่งเป็นสากล กำลังมองหาบริการหลังสำหรับพื้นที่ชนบทเป็นหลัก
ออสเตรเลีย ในแง่ของประชากรในศตวรรษที่สิบเก้าออสเตรเลียได้มากขึ้น
ทำให้มีลักษณะกว่ามากของโลก (Davison 2008) มันได้รับการจัดตั้งขึ้นอย่างรวดเร็วใน
นโยบายของรัฐบาลที่คนในเมืองจะสนับสนุนผู้ที่อยู่ในประเทศโดย
อุดหนุนค่าใช้จ่ายอย่างมากในการให้บริการ (เบร็ท 2007) เรียกร้องประเทศสำหรับ "พิเศษ
การรักษาได้รับการสนับสนุนจากเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ, การขัดแย้งเชิงกลยุทธ์และวัฒนธรรม "
(เบร็ท 2007) ในประเทศออสเตรเลียเรียกร้องเหล่านี้ประจักษ์ตัวเองใน countrymindedness
(Aitkin 1988; Botterill, 2006) รูปแบบของกสิกรทางการเมืองที่มีสามความเชื่อกลาง:
(1) ชีวิตในชนบทมีคุณธรรมตามธรรมชาติไม่ได้ใช้ร่วมกันโดยชีวิตในเมือง;
(2) ทุกคนอาศัย การเกษตรสำหรับอาหารของพวกเขา; และ
(3) เกษตรกรที่เป็นอิสระและทำงานหนัก.
countrymindedness นี้ในประเทศออสเตรเลียเป็นผลมาจากศูนย์กลางของการเกษตรเพื่อ
เศรษฐกิจของออสเตรเลีย (Aitkin, 1988).
บทบาทคู่
สำหรับนักบัญชี
133
ดาวน์โหลดโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานที่ 20:34 26 กุมภาพันธ์ 2015 ( PT)
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในความคิดทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1980 เมื่อเสรีนิยมใหม่
การปฏิรูปการ จำกัด การอุดหนุนทั้งการให้บริการไปยังพื้นที่ชนบทและประชาชน
ได้รับการสนับสนุนชุมชนในชนบท (สีเทาและอเรนซ์ 2001; Pritchard, 2005) อาชีพ
ลดลงและนโยบายในการพึ่งพาความช่วยเหลือตัวเองมาครอง กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับ,
หมู่สิ่งอื่น ๆ , การยกเลิกเงินอุดหนุนให้แก่พื้นที่ชนบทเช่นเดียวกับการปรับโครงสร้าง
ของอุตสาหกรรมการเกษตรส่งผลในงบการเงินรวมของคุณสมบัติการเกษตรลดลง
ในแรงงานทางการเกษตรและหลีกเลี่ยงไม่ได้ลดลงในประชากรในชนบท (แอลตัน
2002) เช่นเดียวกับการเพิ่มขึ้นของความยากลำบากทางเศรษฐกิจและสังคมสำหรับผู้ที่เหลืออยู่ในชนบท
พื้นที่ (ลอยด์ et al, 2001;. Postlethwaite และ Silverman, 2005)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

และความยั่งยืนของชุมชนชนบท :
การตั้งสถาบันเพื่อพิจารณาบทบาทของนักบัญชีในชุมชนในชนบทและเศรษฐกิจ ,
ตั้งสถาบันต้องการให้เข้าใจ ออสเตรเลียเป็นประเทศพัฒนาซึ่งมีประชากรมาก
urbanised ความเข้มข้นตามแนวชายฝั่ง แปลว่าชนบท
จะกระจัดกระจายโดยเปรียบเทียบกับศูนย์ชุมชนแต่ยังคงสําคัญ
องค์ประกอบของเศรษฐกิจแห่งชาติของออสเตรเลีย กระทรวงการต่างประเทศและการค้า ( 2009 )
บันทึกว่า 67 เปอร์เซ็นต์ของรายได้จากการส่งออกของออสเตรเลียที่มาจาก
ชนบท–เมื่อเทียบ AU $ 65 พันล้านต่อปี ชนบทเป็นเว็บไซต์สำหรับภาคสำคัญของเศรษฐกิจออสเตรเลีย
รวมทั้งแหล่งเหมืองแร่ การผลิตพลังงาน และอุตสาหกรรมพื้นฐานต่าง ๆรวมทั้ง
ป่าไม้และการเกษตรในปี 2548-2549
การผลิตทางการเกษตรมีมูลค่า AU $ 2.1 พันล้าน ป่าไม้ AU $ 18 พันล้าน
เศรษฐกิจแห่งชาติและเหมืองแร่ คิดเป็น 37 ร้อยละของการส่งออกทั้งหมด ( ภาควิชา
โรงแรม


26,2 132 ดาวน์โหลดโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ที่ 20 : 34 26 กุมภาพันธ์ 2015 ( PT )
การต่างประเทศและการค้า ประจำปี 2552 ) ด้วยเช่นมัลติฟังก์ชันของชนบท ความต้องการ
ชุมชนถาวรและแรงงานตามฤดูกาล การบำรุงรักษาของศูนย์บริการท้องถิ่น
และผู้อยู่อาศัยชั่วคราวและชุมชนชนบทยั่งยืน ถือว่าเพิ่ม

ชุมชนชนบท ให้ความสำคัญ เป็นจุดโฟกัสสำหรับการจัดหาสินค้าและบริการประชาชนผ่านฮับ

กิจกรรมเชิงพาณิชย์รวมถึงบริการระดับมืออาชีพเช่น
กฎหมาย , ธนาคาร , สุขภาพ , บัญชีเทรด ,บันเทิง การศึกษา และบทบัญญัติทั่วไป

ในขณะที่บริการหลายสนับสนุนผู้ประกอบการเกษตรจำนวนยัง
สนับสนุนชุมชนเหมือง ( สหรัฐฯ et al . , 2003 ) เมืองที่สะท้อนถึงความพยายามของรัฐบาล
บริการเพื่อให้แน่ใจว่ามีคนเข้าถึงบริการพื้นฐาน ( สีเทาและลอว์เรนซ์ , 2001 ;
collitts , 2004 ; tonts และแฮสเลิ่ม McKenzie , 2005 ) แม้ว่าสำคัญของ
รักษาชุมชนชนบท เป็นฮับบริการหลายจะลดลงเป็นคนลอย

เขตเมืองหรือได้รับการสนับสนุนในเขตเมือง กลุ่มที่จะช่วยให้รัฐบาลลดต้นทุนและ
ได้รับจากการประหยัดต่อขนาดของสินค้าและบริการสังคมอื่น ๆ ในออสเตรเลียใต้
ตัวอย่างเช่น เมือง ชนบท ภูเขาแกมเบียร์ พอร์ตออกัสตา , whyalla และ
พอร์ทลินคอล์นตอนนี้ได้กลายเป็นกลุ่มเมืองดังกล่าว และรับใช้ประชาชนในเมือง
ตัวเองทันที บริเวณโดยรอบและขยายชุมชนชนบท
( เบียร์ et al . , 1994 ; เบียร์ , 1999 ; เบียร์และ��� 2009 ) ผลที่ตามมา , ขนาดเล็ก
ชนบทสูญเสียการให้บริการของพวกเขา ถูกชาวบ้านเดินทาง การสูญเสีย
บริการดังกล่าวสามารถส่งผลในการสูญเสียถาวรของประชาชน .
นโยบายรัฐในออสเตรเลียมีอิทธิพลที่สำคัญในการพัฒนาชนบท นโยบายชนบท
ยึดแข็งแรงย้อนยุคกรอบ รัฐบาลกลางและรัฐ
ทำให้ความพยายามเพื่อชดเชยประชาชนในชนบท ภายใต้ข้อตกลงที่ไม่เป็นทางการเรียกว่า
รัฐฝ่ายบิดา ( tonts และโจนส์ , 1997 ) ความแตกต่างระหว่างนโยบายการเมือง และ ประเทศถึง

: [ . . . . . . . .ความเข้าใจของพวกเขาที่โดดเด่นให้กับประเทศและเงื่อนไขของการพึ่งพาอาศัยกันของพวกเขา
, และโดยเฉพาะข้อตกลงที่ประชาชนในประเทศควรได้รับการชดเชย
สำหรับค่าใช้จ่ายที่อยู่นอกศูนย์กรุงเทพมหานคร ( Brett , 2007 , หน้า 3 ) .
ชุดที่ผลิตจากความพยายามในเมืองและกิจกรรมการเกษตรใน
ประเทศรวมกันเพื่อสร้างความรู้สึกของการสร้างชาติที่ . เบร็ท ( 2007 ) คะแนน
ว่าความคิดของออสเตรเลียรวมความคิดว่าคน
สิทธิรองอธิบดีทางสังคมบางอย่าง , การเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐานและมาตรฐานขั้นต่ำ
ของชีวิตซึ่งเป็นสากล ดูแลการบริการสำหรับชนบทคือออสเตรเลียเป็นหลัก

ในแง่ของจำนวนประชากรในศตวรรษที่สิบเก้าออสเตรเลียได้มากขึ้น
urbanised กว่ามากของโลก ( เดวิสัน , 2008 ) มันก่อตั้งขึ้นอย่างรวดเร็วใน
นโยบายรัฐบาลที่คนในเมืองจะสนับสนุนในประเทศ โดยการอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการบริการมาก
( Brett , 2007 ) ประเทศเรียกร้อง " การรักษาพิเศษ
ได้รับการสนับสนุนโดยเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ กลยุทธ์และการขัดแย้งทางวัฒนธรรม "
( Brett , 2007 )ในออสเตรเลีย การเรียกร้องเหล่านี้ประจักษ์ตัวเองใน countrymindedness
( aitkin , 1988 ; botterill , 2006 ) , รูปแบบของผู้นิยมกรทำเกษตรกรรมทางการเมืองกับสามความเชื่อภาคกลาง :
( 1 ) ชีวิตชนบท มีคุณธรรมไม่ธรรมชาติร่วมกัน โดยชีวิตในเมือง ;
( 2 ) ทุกคนอาศัยการเลี้ยงอาหาร ;
( 3 ) เกษตรกร เป็นอิสระและการทำงานหนัก .
countrymindedness นี้ในออสเตรเลียเป็นผลมาจากความสำคัญของการเกษตรต่อ
เศรษฐกิจของออสเตรเลีย ( aitkin , 1988 ) .

สำหรับบทบาทสองบัญชี 133

ดาวน์โหลดโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ที่ 20 : 34 26 กุมภาพันธ์ 2015 ( PT )
เปลี่ยนที่สำคัญในความคิดทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษ 1980 เมื่อ neoliberal
การปฏิรูป จำกัด ทั้งการสงเคราะห์เงินของการให้บริการเพื่อชนบทและประชาชน
สนับสนุนชุมชน ( สีเทาและลอว์เรนซ์ , 2001 ; พริทชาร์ด , 2005 ) อาชีพ
ลดลงและนโยบายการพึ่งพาตนเองได้มาครอง . กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับ ,
หมู่สิ่งอื่น ๆ , การยกเลิกเงินอุดหนุนเพื่อชนบท ตลอดจนปรับโครงสร้าง
ของอุตสาหกรรมการเกษตรมีผลในการรวมคุณสมบัติการลด
ในแรงงานภาคเกษตร และย่อมเป็นหลัก ประชากรในชนบท ( แฮส
, 2002 ) รวมทั้งการเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคมลำบาก ผู้ที่เหลืออยู่ในชนบท
( ลอยด์ et al . , 2001 ; พอเซิลธ์เวต และ ซิลเวอร์แมน , 2005 )