Crop damage by rice sheath blight,

Crop damage by rice sheath blight, Rhizoctonia solani, can decrease rice yield by up to 45 %. The classical control method of rice sheath blight in the Amazon region is the application of fungicides. Therefore, we tested here the efficiency of a biocontrol agent, Trichoderma asperellum, and fungicides. Two experiments of rice cultivation were carried out with seven treatments: four isolates of T. asperellum, a mixture of the four isolates, the fungicide pencycuron, and the control. The first experiment involved a randomized block design, and seed and foliar spray on all plots. The second experiment involved a split-plot design with foliar spray in main plots and the 1–2 foliar sprays in subplots. Results show that all treatments reduced sheath blight progression rate. In the randomized block experiment T. asperellum reduced disease severity by 19 %, increased grain weight by 34 %, and increased yield by 41 %. In the split-plot design experiment, the mixture of the four T. asperellum isolates grain reduced disease severity by 26 %, increased grain weight by 18.5 %, and increased yield by 26 %. Our results show for the first time that a mixed isolates of T. asperellum was efficient in reducing disease severity and increasing yield and grain weight.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความเสียหายของพืชผล โดย sheath ข้าวโรคไหม้ Rhizoctonia solani สามารถลดผลผลิตข้าวได้ถึง 45% วิธีการควบคุมที่คลาสสิกของข้าวโรคไหม้ sheath ในภูมิภาค Amazon เป็นแอพลิเคชันซึ่งเกิดจากเชื้อ ดังนั้น เราทดสอบนี่ประสิทธิภาพ ของตัวแทน biocontrol, Trichoderma asperellum ซึ่งเกิดจากเชื้อ ทดลองของข้าวได้ดำเนินการกับการรักษาเจ็ด: สี่แยก asperellum ต. ผสมแยกสี่ pencycuron เชื้อรา และการควบคุมการ ทดลองแรกเกี่ยวข้องกับการออก แบบบล็อก randomized และเมล็ด และสเปรย์ foliar บนผืนทั้งหมด ทดลองที่สองเกี่ยวข้องกับแบบแผนแยกกับสเปรย์ foliar ในผืนหลักและสเปรย์ foliar 1 – 2 ใน subplots ผลลัพธ์แสดงว่า รักษาทั้งหมดลดลงอัตราการก้าวหน้าของโรค sheath ใน randomized ทดลองความรุนแรงของโรคลดลง asperellum ต. 19% น้ำหนักเมล็ดเพิ่มขึ้น 34% และผลผลิตเพิ่มขึ้น 41% ในทดลองออกแบบแผนแบ่ง ส่วนผสมของ asperellum ต.สี่แยกข้าวลดความรุนแรงของโรค โดย 26% น้ำหนักเมล็ดเพิ่มขึ้น 18.5% และผลผลิตเพิ่มขึ้น 26% ผลของเราแสดงเป็นครั้งแรกว่า การผสมแยกของต. asperellum มีประสิทธิภาพในการลดความรุนแรงของโรค และเพิ่มน้ำหนักผลผลิตและเมล็ดข้าว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พืชผลเสียหายจากโรคกาบใบแห้งข้าว Rhizoctonia solani สามารถลดผลผลิตข้าวได้ถึง 45% วิธีที่คลาสสิกของการควบคุมโรคกาบใบแห้งของข้าวในภูมิภาค Amazon คือการประยุกต์ใช้สารฆ่าเชื้อรา ดังนั้นเราจึงได้รับการทดสอบที่นี่อย่างมีประสิทธิภาพของตัวแทนควบคุมทางชีวภาพ, เชื้อรา Trichoderma asperellum และสารฆ่าเชื้อรา สองการทดลองของการเพาะปลูกข้าวได้ดำเนินการกับเจ็ดการรักษา: สี่สายพันธุ์ของ T. asperellum ส่วนผสมของสี่สายพันธุ์ที่ pencycuron เชื้อราและควบคุม การทดลองครั้งแรกที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบบล็อกแบบสุ่มและเมล็ดพันธุ์และฉีดพ่นทางใบในแปลงทั้งหมด การทดลองที่สองที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบที่แยกพล็อตที่มีการฉีดพ่นทางใบในแปลงหลักและ 1-2 สเปรย์ในทางใบย่อย ผลการศึกษาพบว่าการรักษาทั้งหมดลดลงฝักอัตราความก้าวหน้าของโรคใบไหม้ ในบล็อกสุ่มทดลองตัน asperellum ลดความรุนแรงของโรค 19% น้ำหนักข้าวเพิ่มขึ้น 34% และอัตราผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น 41% ในการทดลองการออกแบบแยกพล็อตที่มีส่วนผสมของสี่ตัน asperellum แยกเมล็ดข้าวความรุนแรงของโรคลดลง 26% น้ำหนักข้าวเพิ่มขึ้น 18.5% และอัตราผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น 26% ผลของเราแสดงให้เห็นเป็นครั้งแรกที่สายพันธุ์ผสมตัน asperellum มีประสิทธิภาพในการลดความรุนแรงของโรคและการเพิ่มผลผลิตและน้ำหนักเมล็ด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พืชผลเสียหาย โดยทำลายฝักข้าว เชื้อรา สามารถลดผลผลิตข้าวได้ถึง 45% การควบคุมแบบคลาสสิกของข้าวกาบใบแห้งในภูมิภาค Amazon คือการใช้สารฆ่าเชื้อรา ดังนั้นเราจึงทดสอบที่นี่ ประสิทธิภาพของตัวแทน ไบโอคอนโทรลปริมาณ asperellum และ fungicides 2 การทดลองของการปลูกข้าว คือ การรักษาด้วยเจ็ดสี่สายพันธุ์ของasperellum มีส่วนผสมของทั้ง 4 สายพันธุ์ ที่ใช้ pencycuron และการควบคุม การทดลองที่ 1 สุ่ม Block และเมล็ดและพ่นทางใบทุกแปลง การทดลองที่เกี่ยวข้องกับ Split plot กับพ่นในแปลงหลักและ 1 – 2 ใบ พ่นในใบ . ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าการรักษาทั้งหมดลดอัตราก้าวหน้ากาบใบแห้ง .ในการทดลองแบบสุ่มบล็อก ต. asperellum ลดความรุนแรงโรค โดย 19 เปอร์เซ็นต์ของเมล็ดเพิ่มขึ้น 34 % โดยน้ำหนัก และเพิ่มผลผลิตโดย 41 % ในการแบ่งแปลงการออกแบบการทดลอง ผสมทั้งสี่ ต. asperellum แยกเม็ดลดโรครุนแรง โดย 26% ของเมล็ดเพิ่มขึ้น 18.5 % โดยน้ำหนัก และเพิ่มผลผลิตโดย 26 % ผลของเราแสดงเป็นครั้งแรกที่ผสมเชื้อ T .asperellum มีประสิทธิภาพในการลดความรุนแรงของโรค และการเพิ่มผลผลิต และน้ำหนักเมล็ด