Effects of the resting time associa

Effects of the resting time associated with the number of trials on the total and individual finger forces in a maximum grasping task

The repetitive and excessive workload accompanying grip strength- or hand-intensive tasks are often considered to be common causes of work-related upper limb musculoskeletal disorders.

For this reason, numerous experimental studies have been performed on maximum grip strength.

However, due to an absence of standard guidelines, researchers have adopted different resting times and number of trials suited for their particular research purposes.

The effects of resting time and the number of trials on the maximum total grip strength and individual finger forces of 24 participants over 20 trials were investigated.

Results showed that the total grip strength and individual finger strengths differed significantly according to the resting time and the number of trials (p < 0.05).

Overall, grip strength tended to increase with a reduction in resting time (% reduction: 7.8%, 9.1%, 11.1%, and 13.0% for 3 min, 2 min, 1 min, and 30 seresting time, respectively) as well as with an increase in the number of trials (% reduction: 8%, 10%, 13%, and 16% for 5th, 10th, 15th, and 20th trials).

The effects of resting time and the number of trials also showed statistically significant effects on individual finger forces.

Regression equations of total grip strength and finger forces with resting time and number of trials were established.

These equations were then applied to formulate guidelines for appropriate resting times in experiments based on the number of trials and acceptable reductions in grip strength.

Data from this and future studies regarding decreasing grip strength and the contribution of each finger are expected to form the groundwork for ergonomic hand tool design and development.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลของเวลาที่พักที่เกี่ยวข้องกับหมายเลขของการทดลองบนนิ้วมือทั้งหมด และแต่ละกองกำลังในงาน grasping สูงสุด

ปริมาณมากเกินไป และซ้ำพร้อมจับแรง หรือมือมากมักจะถือว่างานจะมาสาเหตุของโรคที่เกี่ยวข้องกับงานรยางค์บน musculoskeletal

ด้วยเหตุนี้ การศึกษาทดลองจำนวนมากกับแรงจับสูงสุด

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการขาดแนวทางมาตรฐาน นักวิจัยได้นำมาใช้เวลาพักผ่อนแตกต่างกันและจำนวนของการทดลองที่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์ของการวิจัย

ผลของการพักผ่อนเวลาและจำนวนการทดลองแรงจับรวมสูงสุดและนิ้วแต่ละกองกำลังของผู้เข้าร่วม 24 กว่า 20 การทดลองถูกสอบสวน

ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่า ความแรงจับรวมและจุดแข็งของแต่ละนิ้วแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญตามเวลาพักและจำนวนของการทดลอง (p < 0.05) .

โดยรวม จับแรงมีแนวโน้มที่จะ เพิ่มกับลดเวลาพักผ่อน (ลด%: 7.8%, 9.1%, 11.1% และ 13.0% ใน 3 นาที 2 นาที 1 นาที และ 30 seresting เวลา ตามลำดับ) เป็นอย่างดีเช่นเดียวกับการเพิ่มจำนวนของการทดลอง (ลด%: 8%, 10%, 13% และ 16% ในการทดลอง 5, 10, 15 และ 20)

ผลของการพักผ่อนเวลาและจำนวนการทดลองยังแสดงให้เห็นผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติบนนิ้วมือของแต่ละกอง

สมการถดถอยของผลรวมจับแรง และนิ้วมือกับเวลาที่เหลือกองกำลัง และจำนวนของการทดลองได้ก่อตั้งขึ้น

สมการเหล่านี้ถูกนำไปใช้ในการกำหนดแนวทางสำหรับเวลาที่เหมาะสมที่พักที่ทดลองขึ้นอยู่กับจำนวนของการทดลองและลดยอมรับในความแข็งแรงจับแล้ว

ข้อมูลจากนี้และในอนาคตการศึกษาเกี่ยวกับแรงจับลดลงและสัดส่วนของแต่ละนิ้วคาดว่าจะเป็นส่วนสำหรับมืออุปกรณ์เครื่องมือการออกแบบและพัฒนา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลกระทบของการใช้เวลาพักผ่อนที่เกี่ยวข้องกับจำนวนของการทดลองเกี่ยวกับการรวมและบุคคลกองกำลังนิ้วในงานโลภสูงสุดภาระงานซ้ำ ๆ และมากเกินไปพร้อมกับงาน strength- จับหรือมือมากมักจะคิดว่าเป็นสาเหตุที่พบบ่อยจากการทำงานที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะส่วนบน ความผิดปกติของกล้ามเนื้อและกระดูกด้วยเหตุนี้การศึกษาการทดลองทางวิทยาศาสตร์จำนวนมากได้รับการดำเนินการเกี่ยวกับการจับพลังสูงสุดแต่เนื่องจากการขาดของแนวทางมาตรฐานนักวิจัยได้นำมาใช้ครั้งพักผ่อนที่แตกต่างกันและจำนวนของการทดลองที่เหมาะสมเพื่อการวิจัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งของพวกเขาผลกระทบของเวลาพักผ่อน และจำนวนของการทดลองเกี่ยวกับการจับพลังรวมสูงสุดและนิ้วแต่ละกองกำลังของ 24 ผู้เข้าร่วมกว่า 20 การทดลองได้รับการตรวจสอบผลการศึกษาพบว่าการจับพลังทั้งหมดและจุดแข็งของลายนิ้วมือของแต่ละคนที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามเวลาพักผ่อนและจำนวนของการทดลอง (p < 0.05) โดยรวมแข็งแรงจับมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นด้วยการลดเวลาในการพักผ่อน (การลดลง%: 7.8%, 9.1%, 11.1% และ 13.0% เป็นเวลา 3 นาที, 2 นาที, 1 นาทีและเวลาที่ 30 seresting ตามลำดับ) ในขณะที่ รวมทั้งมีการเพิ่มขึ้นในจำนวนของการทดลอง (การลดลง%: 8%, 10%, 13% และ 16% สำหรับ 5, 10, 15, และการทดลองที่ 20) ผลกระทบของการพักผ่อนเวลาและจำนวนของการทดลองยังแสดงให้เห็น สถิติผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในกองกำลังนิ้วแต่ละสมการถดถอยของความแข็งแรงจับและนิ้วกองกำลังทั้งหมดที่มีเวลาพักผ่อนและจำนวนของการทดลองเป็นที่ยอมรับสมการเหล่านั้นถูกนำไปใช้ในการกำหนดแนวทางในการพักผ่อนครั้งที่เหมาะสมในการทดลองขึ้นอยู่กับจำนวนของการทดลองและการลดที่ยอมรับได้ ในความแข็งแรงจับข้อมูลจากนี้และการศึกษาในอนาคตเกี่ยวกับการลดความแรงของการจับและการมีส่วนร่วมของแต่ละนิ้วที่คาดว่าจะสร้างรากฐานสำหรับการออกแบบเครื่องมือมือเหมาะกับการทำงานและการพัฒนา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลของเวลาที่ได้พักที่เกี่ยวข้องกับจำนวนของการรวมและแต่ละนิ้วบังคับในสูงสุดโลภงาน

ซ้ำและมากเกินไปของภาระงานกับความแข็งแรง หรือส่งงานที่เข้มข้นมักถือเป็นสาเหตุของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับแขน musculoskeletal disorders

สำหรับเหตุผลนี้การศึกษาทดลองมากมายได้ถูกแสดงบนความแข็งแกร่งจับสูงสุด

แต่เนื่องจากขาดแนวทางมาตรฐาน นักวิจัยได้ใช้ที่แตกต่างกันพักผ่อนครั้งและจำนวนของการทดลองที่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะของพวกเขา

ผลของเวลาที่ได้พัก และหมายเลขของการรวมได้สูงสุดและความแข็งแรงของแต่ละนิ้วบังคับ 24 เข้าร่วมกว่า 20 การทดลองศึกษา

ผลการศึกษาพบว่า ความแข็งแรงของแต่ละนิ้วรวมจุดแข็งและความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญตามการเวลาพักและจำนวนของการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( p < 0.05 ) .

โดยรวมความแข็งแรงเพิ่มขึ้นตามการลดลงในเวลาพัก ( % ลด : 7.8 เปอร์เซ็นต์ 9.1 % 11.1% และ 3.2 % นาน 3 นาที , 2 นาที 1 นาที และ 30 seresting เวลาตามลำดับ ) รวมทั้งมีการเพิ่มจำนวนของการทดลอง ( % ลด 10 % 8 % 13 เปอร์เซ็นต์และร้อยละ 16 สำหรับ 5 , 10 , 15 และ 20 ครั้ง )

ผลของเวลาที่ได้พัก และจำนวนของการทดลอง พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติผลในแต่ละนิ้วบังคับ

สมการแรงจับทั้งหมดและนิ้วบังคับด้วยเวลาพัก และจำนวนของการทดลองตั้งขึ้น

สมการพวกนี้จึงไปหาแนวทางที่เหมาะสมในการทดลองพักครั้งขึ้นอยู่กับจำนวนของการทดลองและยอมรับซึ่งความแข็งแรง

ข้อมูลนี้และอนาคตการศึกษาเกี่ยวกับการลดความแข็งแรง และผลงานของแต่ละนิ้วที่คาดว่าจะเป็นรูปแบบพื้นฐานสำหรับการออกแบบเครื่องมือมือการยศาสตร์และการพัฒนา