Last edited 9 days ago by Retroplum

Last edited 9 days ago by Retroplum
Sixpence (British coin)
Six old pence
United Kingdom
Value 6 pence sterling
Mass (1816-1970) 2.83 g
Diameter (1816-1970) 19.41 mm
Edge Milled
Composition (1551-1816) Silver
(1816–1920) 92.5% Ag
(1920–1946) 50% Ag
(1947–1970) Cupronickel[nb 1]
Years of minting 1551–1970
Obverse
British sixpence 1962 obverse.png
Design Profile of the monarch (Elizabeth II design shown)
Designer Mary Gillick
Design date 1953
Reverse
British sixpence 1962 reverse.png
Design Various (floral design shown)
Designer Edgar Fuller and Cecil Thomas
Design date 1947
The sixpence (6d), sometimes known as a tanner or sixpenny bit was a coin worth one fortieth of a pound sterling, or six pence. It was first minted in the reign of Edward VI and circulated until 1980. Following decimalisation in 1970 it had a value of 2½ new pence. The coin was made from silver from its introduction in 1551 to 1947, and thereafter in cupronickel.

Prior to Decimal Day in 1971 there were two hundred and forty pence in one pound sterling. Twelve pence made a shilling, and twenty shillings made a pound. Values less than a pound were usually written in terms of shillings and pence, e.g. forty-two pence would be three shillings and six pence (3/6), pronounced "three and six". Values of less than a shilling were simply written in terms of pence, e.g. eight pence would be 8d.

HistoryEdit

The first sixpences were minted in 1551, during the reign of Edward VI. They came about as a result of the debasement of silver coinage in the 1540s, in particular the silver testoon, which fell in value from 12d to 6d.[1] The debased testoon was likely useful in everyday transactions, and it was decided that new coinage should be introduced with the express denomination of six pence.[2] The reason the testoon decreased in value is that unlike today, the value of coins was determined by the market price of the metal contained within them, and during the reign of Henry VIII the purity of silver in coinage had fallen significantly.

Sixpences were minted during the reign of every British monarch following Edward VI, as well as during the Commonwealth, with a vast number of variations and alterations appearing over the years. During the reign of George II a number of issues were designed by John Sigismund Tanner, one time Chief Engraver of the Royal Mint, and it has been suggested that this is the origin of the nickname "tanner", which became a popular name for the coin until decimalisation.[3] An alternative explanation for the nickname is that it comes from Romany Gypsy word tawno meaning small thing.[2]


Sixpence of Queen Elizabeth I, struck in 1593 at the Tower Mint.
The Royal Mint undertook a massive recoinage programme in 1816, with large quantities of gold and silver coin being minted. Previous issues of silver coinage had been irregular, and the last issue, minted in 1787, did little to alleviate the chronic shortage of silver coinage in general circulation.[4] New silver coinage was to be of .925 (sterling) standard, with silver coins to be minted at 66 shillings to the pound.[5] Hence, newly minted sixpences weighed 43.636 grains or 2.828 grams.

The Royal Mint debased the silver coinage in 1920 from 92.5% silver to 50% silver. Sixpences of both alloys were minted that year.[6] This debasement was done because of the rising price of silver around the world, and followed the global trend of the elimination, or the reducing in purity of the silver in coinage.[7] The minting of silver coinage of the pound sterling ceased completely in 1946 for similar reasons, exacerbated by the costs of the Second World War. New "silver" coinage was instead minted in cupronickel, an alloy of copper and nickel containing no silver at all.[8]

Beginning with Lord Wrottesley's proposals in the 1820s there were various attempts to decimalise the pound sterling over the next century and a half.[9][10] These attempts came to nothing significant until the 1960s when the need for a currency more suited to simple monetary calculations became pressing. The decision to decimalise was announced in 1966, with the pound to be redivided into 100, rather than 240, pence.[11] Decimal Day was set for 15 February 1971, and a whole range of new coins were introduced. Sixpences continued to be legal tender with a value of 2½ new pence until 30 June 1980.[12]

Design
Cultural significance
See also
Notes
References
External links
Read in another language

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แก้ไขล่าสุดโดย retroplum 9 วันที่ผ่านมาเพนนี ( อังกฤษเหรียญ )หกเก่าเพนซ์สหราชอาณาจักรมูลค่า 6 เพนนี สเตอร์ลิงมวล ( 1816-1970 ) 2.83 กรัมเส้นผ่าศูนย์กลาง ( 1816-1970 ) 19.41 มม.ขอบ )ส่วนประกอบ ( 1551-1816 ) สีเงิน( 888 ) 2463 ) 92.5 % 1( 1920 – 1946 ) 50% เอจี( 1947 – 1970 ) นักแสดงฮ่องกง [ 1 ] หมายเหตุปี 2513 เหรียญนี้ฯด้านตรงข้าม1962 obverse.png เพนนีของอังกฤษการออกแบบรายละเอียดของพระมหากษัตริย์ ( Elizabeth II ออกแบบแสดง )ดีไซเนอร์แมรี่กิลลิกวันที่ออกแบบ 1953ย้อนกลับ1962 reverse.png เพนนีของอังกฤษหลากหลายดีไซน์ ( ออกแบบดอกไม้แสดง )ออกแบบการ์ ฟูลเลอร์และเซซิลโทมัสวันที่ออกแบบแผนที่ที่เพนนี ( 6 ) บางครั้งเรียกว่า เทนเนอร์ หรือ ซึ่งเป็นเหรียญหกเพนนีของอังกฤษบิตเป็นเหรียญที่มีมูลค่าหนึ่งปีที่สี่สิบของปอนด์ หรือหกเพนนี . มันเป็นครั้งแรกที่สร้างขึ้นในรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 และหมุนเวียนจนถึงปี 1980 ต่อไปนี้ decimalisation ในปี 1970 มันได้ค่า 2 ½เพนซ์ ใหม่ เหรียญที่ทำจากเงินจากการแนะนําของในนี้มาครั้งแรก และหลังจากนั้นในคิวโปรนิกเกิล .ก่อนสิบวันในปี 1971 มีสองร้อยสี่สิบเพนซ์ ใน สเตอร์ลิง หนึ่งปอนด์ สิบสองเพนนีทำชิลลิ่ง ชิลลิ่งได้ 20 ปอนด์ มีค่าน้อยกว่าปอนด์มักจะเขียนในแง่ของเพนนีเพนซ์ และ เช่น 42 เพนนีจะสามเพนนีและหกเพนนี ( 3 / 6 ) , ออกเสียงว่า " สามและหก " มีค่าน้อยกว่าชิลลิ่งเพียงแค่เขียนในแง่ของเพนนี เช่นแปดเพนนีจะ 8D .historyeditการ sixpences แรกถูก minted ในนี้ในรัชกาลของ Edward VI พวกเขามาเกี่ยวกับเป็นผลจากคุณค่าของเหรียญเงินในยุค 1540 โดยเฉพาะ testoon เงินที่ลดลงในค่าจาก 12B ไป 6 . [ 1 ] testoon ปลอมปนเป็นประโยชน์มากในการทำธุรกรรมทุกวัน และก็ตัดสินใจใหม่ เหรียญควรแนะนำด้วยด่วนนิกายหกเพนนี [ 2 ] เหตุผล testoon ลดลงในมูลค่าที่ไม่เหมือนวันนี้ มูลค่าของเหรียญถูกกำหนดโดยราคาตลาดของโลหะที่อยู่ภายในพวกเขาและระหว่างรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ความบริสุทธิ์ของเงินในเหรียญได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญsixpences ถูก minted ระหว่างรัชสมัยของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 6 ทุกอังกฤษพระมหากษัตริย์ต่อไป รวมทั้งในเครือจักรภพ ด้วยตัวเลขมากมายของการเปลี่ยนแปลงและการเปลี่ยนแปลงที่ปรากฏอยู่หลายปี ในช่วงรัชสมัยของพระเจ้าจอร์จที่ 2 หมายเลขของปัญหาถูกออกแบบโดยจอห์นซิจิมุนด์ เทนเนอร์ เวลาหัวหน้าช่างแกะสลักของโรงกษาปณ์หลวง และมีการเสนอว่า นี้คือที่มาของฉายา " แทนเนอร์ " ซึ่งเป็นชื่อที่นิยมสำหรับเหรียญจน decimalisation [ 3 ] คำอธิบายทางเลือกสำหรับฉายา ว่ามันมาจากคำความหมายยิปซี ชาวยิปซี tawno เล็กน้อย [ 2 ]เพนนีของ Queen Elizabeth ฉันหลงใน 1551 ที่หอมิ้น .โรงกษาปณ์หลวง undertook โครงการขนาดใหญ่ใน recoinage 1816 ที่มีปริมาณมากของทองและเหรียญเงินถูก minted . ปัญหาเดิมของเหรียญเงินที่ได้รับไม่สม่ำเสมอ และประเด็นสุดท้าย minted ใน 1787 , เล็ก ๆน้อย ๆเพื่อบรรเทาการขาดแคลนเรื้อรังของเหรียญเงินในการหมุนเวียนทั่วไป [ 4 ] ใหม่เงินกษาปณ์เป็นของแท้ ( แท้ ) มาตรฐาน กับเหรียญเงิน เป็นพวกที่ 66 เพนนีเพื่อปอนด์ [ 5 ] ดังนั้น minted sixpences หนัก 43.636 ธัญพืชหรือ 2.828 กรัมโรงกษาปณ์หลวงปลอมปนการบัญญัติศัพท์เงินใน 1920 จากเงิน 92.5% 50% สีเงิน sixpences ทั้งโลหะผสมที่ถูก minted ในปีนั้น . [ 6 ] ทำให้เสื่อมก็เพราะราคาของเงินที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก และตามแนวโน้มทั่วโลกของการขจัดหรือลดความบริสุทธิ์ของเงินในเหรียญใน [ 7 ] เหรียญเงินเงินเหรียญที่ปอนด์หยุดอย่างสมบูรณ์ในพ.ศ. 2489 ( ค.ศ. 1946 ) สำหรับ เหตุผลที่คล้ายกัน , exacerbated โดยค่าใช้จ่ายของสงครามโลกครั้งที่สอง ใหม่ " เงิน " เหรียญแทนถูก minted ในคิวโปรนิกเกิล เป็นโลหะผสมของทองแดงและนิกเกิลที่ไม่มีเงินเลย [ 8 ]เริ่มจากท่าน wrottesley ข้อเสนอในอังกฤษมีความพยายามต่าง ๆเพื่อ decimalise ปอนด์สเตอร์ลิงกว่าศตวรรษหน้าและครึ่ง [ 9 ] [ 10 ] ความพยายามเหล่านี้มาไม่มีอะไรสำคัญจนกระทั่ง 1960 เมื่อต้องการเงินตรามากกว่าเหมาะกับการคำนวณทางการเงินง่ายก็กดปุ่ม การตัดสินใจ decimalise ประกาศในปี 1966 กับปอนด์เป็น redivided เป็น 100 มากกว่า 240 pence . [ 11 ] สิบวันถูกตั้ง 15 กุมภาพันธ์ 2514 และทั้งช่วงของเหรียญใหม่ได้ถูกนำมา sixpences ยังคงเป็นตามกฎหมายที่มีมูลค่า 2 ½เพนนีใหม่จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 1980 [ 12 ]ออกแบบความสำคัญของวัฒนธรรมเห็นยังหมายเหตุอ้างอิงการเชื่อมโยงภายนอกอ่านในภาษาอื่น