Some studies (Chang et al., 2003; C

Some studies (Chang et al., 2003; Chong, 1996; Chong and Eggleton, 2003; Mia
and Chenhall, 1994) have focused on the importance of task characteristics and Management accounting system design on managerial performance. For example, Mia and Chenhall (1994) suggested that differentiation of activities into areas such as marketing and production is an organizational response to manage uncertainty. They found that the association between the extent ofmanagers’ use of broad scope information and performance was stronger for managers of marketing than production activities. Moreover, Chong (1996) found that under a high task uncertainty situation, the extent of use of broad scope information led to effective managerial decisions and improved managerial performance. In contrast, under low task uncertainty situations, the extent of use of broad scope information led to information overload which was dysfunctional to managerial performance. Furthermore, Chong and Eggleton (2003) argued that, under high task uncertainty situations, it would be appropriate for managers to utilize more broad scope information to cope with the complexities of the decision-making environment. The use of more broad scope information would help to reduce task uncertainty, thereby enhancing decision quality, which in turn, should improve their performance. Conversely for all these results, in a developing country context, Soobaroyen and Poorundersing (2008) found non-significant intervening effect for Management accounting system between task uncertainty and managerial performance (except that there is a significant but negative relationship between task uncertainty and aggregated Management accounting system information).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บางการศึกษา (ช้างและ al. 2003 ปากช่อง 1996 ช่องและ Eggleton, 2003 Miaและ Chenhall, 1994) ได้เน้นความสำคัญของลักษณะงานและออกแบบระบบบัญชีบริหารจัดการประสิทธิภาพการทำงาน เช่น Mia และ Chenhall (1994) แนะนำว่า ความแตกต่างของกิจกรรมในพื้นที่เช่นการตลาดและการผลิตมีการตอบสนองขององค์กรสามารถจัดการความไม่แน่นอน พวกเขาพบว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง ofmanagers' ระดับการใช้ข้อมูลขอบเขตและประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับผู้จัดการฝ่ายการตลาดมากกว่ากิจกรรมการผลิต นอกจากนี้ จง (1996) พบว่า ภายใต้สถานการณ์ความไม่แน่นอนสูงงาน ขอบเขตของการใช้ขอบเขตข้อมูลนำไปสู่การตัดสินใจบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารจัดการ คมชัด ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่แน่นอนต่ำงาน ขอบเขตของการใช้ขอบเขตข้อมูลนำไปสู่ข้อมูลเกินซึ่งผิดปกติประสิทธิภาพการบริหารจัดการ นอกจากนี้ จงและ Eggleton (2003) โต้เถียง ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่แน่นอนสูงงาน จะเหมาะสมสำหรับการใช้ขอบเขตข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับความซับซ้อนของสภาพแวดล้อมการตัดสินใจ เพิ่มเติมขอบเขตข้อมูลจะช่วยลดความไม่แน่นอนงาน จึงช่วยเพิ่มคุณภาพการตัดสินใจ ที่เปิด ควรปรับปรุงประสิทธิภาพของพวกเขา ในทางกลับกัน สำหรับผลลัพธ์เหล่านี้ ในบริบทที่เป็นประเทศกำลังพัฒนา Soobaroyen และ Poorundersing (2008) พบผล intervening ไม่สำคัญระบบบัญชีบริหารงานไม่แน่นอนและประสิทธิภาพการบริหารจัดการ (ยกเว้นว่ามีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญ แต่ค่าลบระหว่างงานความไม่แน่นอนและข้อมูลระบบบัญชีบริหารรวม)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บางการศึกษา (ช้าง et al, 2003;. ปากช่อง 1996; ปากช่องและ Eggleton 2003; Mia
และ Chenhall, 1994) ได้มุ่งเน้นความสำคัญของลักษณะงานและการบริหารจัดการการออกแบบระบบการบัญชีเกี่ยวกับผลการดำเนินงานการบริหารจัดการ ยกตัวอย่างเช่นเมียหลวงและ Chenhall (1994) ชี้ให้เห็นว่าความแตกต่างของกิจกรรมในพื้นที่เช่นการตลาดและการผลิตคือการตอบสนองขององค์กรในการจัดการความไม่แน่นอน พวกเขาพบว่ามีการเชื่อมโยงระหว่างการใช้งาน ofmanagers ขอบเขตของข้อมูลขอบเขตและประสิทธิภาพการทำงานได้ดีสำหรับผู้บริหารการตลาดกว่ากิจกรรมการผลิต นอกจากนี้ช่อง (1996) พบว่าภายใต้งานที่มีความไม่แน่นอนสูงสถานการณ์ขอบเขตของการใช้ข้อมูลขอบเขตนำไปสู่การตัดสินใจในการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและปรับปรุงประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ในทางตรงกันข้ามภายใต้สถานการณ์ความไม่แน่นอนของงานต่ำขอบเขตของการใช้ข้อมูลขอบเขตนำไปสู่การเกินข้อมูลที่ผิดปกติซึ่งเป็นผลการดำเนินงานการบริหารจัดการ นอกจากนี้ช่องและ Eggleton (2003) เป็นที่ถกเถียงกันว่าภายใต้สถานการณ์ความไม่แน่นอนของงานสูงก็จะเป็นที่เหมาะสมสำหรับผู้บริหารที่จะใช้ประโยชน์จากข้อมูลในวงกว้างมากขึ้นในขอบเขตที่จะรับมือกับความซับซ้อนของสภาพแวดล้อมในการตัดสินใจที่ การใช้ข้อมูลในวงกว้างมากขึ้นขอบเขตจะช่วยลดความไม่แน่นอนงานจึงเพิ่มคุณภาพการตัดสินใจซึ่งในที่สุดก็ควรจะปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของพวกเขา ตรงกันข้ามเพื่อให้ได้ผลลัพธ์เหล่านี้ในบริบทของประเทศที่กำลังพัฒนา, Soobaroyen และ Poorundersing (2008) พบว่าผลการแทรกแซงที่ไม่สำคัญสำหรับระบบบัญชีการจัดการระหว่างความไม่แน่นอนของงานและประสิทธิภาพการบริหารจัดการ (ยกเว้นว่ามีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญ แต่ลบกับความไม่แน่นอนของงานและการบริหารจัดการรวม ระบบบัญชีข้อมูล)