Theory of mind refers to the notion

Theory of mind refers to the notion that many autistic individuals do not understand that other people have their own plans, thoughts, and points of view. Furthermore, it appears that they have difficulty understanding other people's beliefs, attitudes, and emotions.
Many of the tasks used to test this theory have been given to non-autistic children as well as children with mental retardation, and the theory of mind phenomenon appears to be unique to those with autism. In addition, theory of mind appears to be independent of intelligence even though people with Asperger's syndrome exhibit this problem to a lesser degree.
Interestingly, people with autism have difficulty comprehending when others don't know something. It is quite common, especially for those with savant abilities, to become upset when asking a question of a person to which the person does not know the answer.
By not understanding that other people think differently than themselves, many autistic individuals may have problems relating socially and communicating to other people. That is, they may not be able to anticipate what others will say or do in various situations. In addition, they may have difficulty understanding that their peers or classmates even have thoughts and emotions, and may thus appear to be self-centered, eccentric, or uncaring.
Although this is an egocentric view of the world, there is nothing in the theory of mind to imply that autistic individuals feel superior to others.
The vital question which must be asked is: How does one teach individuals with autism to understand and acknowledge the thoughts and feelings of others? One of the methods used to teach autistic children and adults this concept is an intervention developed by Carol Gray called 'social stories.' These short stories describe different scenarios which allow autistic individuals to understand themselves and others better. These stories may motivate them to start asking questions about other people and at least recognize that different individuals think in unique ways.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีของจิตใจหมายถึงความคิดที่ว่า บุคคล autistic มากไม่เข้าใจว่า คนอื่นมีแผนของตนเอง ความคิด และจุดของมุมมอง นอกจากนี้ มันปรากฏว่า มีปัญหาในการเข้าใจผู้อื่นความเชื่อ ทัศนคติ และอารมณ์หลายงานที่ใช้ในการทดสอบทฤษฎีนี้ได้รับเด็ก autistic ไม่เป็นเด็กที่ มีปัญญา และทฤษฎีของปรากฏการณ์ทางจิตใจดูเหมือนจะ เป็นเฉพาะผู้ที่มีโรคออทิซึม นอกจากนี้ ทฤษฎีของจิตใจแล้วจะขึ้นอยู่กับปัญญาแม้ว่าคนที่ มีของสเปอร์เจอร์แสดงปัญหานี้น้อยกว่าระดับเป็นเรื่องน่าสนใจ คนกับโรคออทิซึมมี comprehending เมื่อคนอื่นไม่รู้ว่าสิ่งที่ยาก โดยปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีความสามารถ savant จะกลายเป็นเสียเมื่อตั้งคำถามของบุคคลซึ่งบุคคลที่ไม่ทราบคำตอบโดยไม่เข้าใจว่า คนอื่นคิดแตกต่างจากตัวเอง บุคคล autistic มากอาจมีปัญหาเกี่ยวกับสังคม และการสื่อสารกับคนอื่น ๆ นั่นคือ พวกเขาอาจไม่สามารถคาดว่าจะมีอะไรอื่นจะพูด หรือทำในสถานการณ์ต่าง ๆ นอกจากนี้ พวกเขาอาจมีปัญหาเข้าใจว่า เพื่อนหรือเพื่อนร่วมชั้นของพวกเขาได้มีความคิดและอารมณ์ และอาจปรากฏขึ้นเพื่อ ให้ตนเอง หลุดโลก หรือ uncaring จึงแม้ว่าจะเป็นดู egocentric ของโลก ไม่มีอะไรในทฤษฎีของจิตใจเพื่อบ่งบอกว่า autistic บุคคลรู้สึกเหนือกว่าผู้อื่นคำถามสำคัญที่ต้องถามคือ: วิธีไม่หนึ่งสอนบุคคลที่ มีโรคออทิซึมจะเข้าใจ และยอมรับความคิดและความรู้สึกของผู้อื่นหรือไม่ หนึ่งในวิธีที่ใช้สอนเด็ก autistic และผู้ใหญ่ที่มาแทรกแซงการพัฒนา โดยแครอลสีเทาเรียกว่า 'สังคมเรื่องราว' เรื่องสั้นเหล่านี้อธิบายสถานการณ์ต่าง ๆ ซึ่งทำให้บุคคล autistic จะเข้าใจตนเองและผู้อื่นดีกว่า เรื่องราวเหล่านี้อาจจูงใจให้เริ่มต้นถามคำถามเกี่ยวกับบุคคลอื่น และรู้จักน้อย ที่บุคคลอื่นคิดว่า ใน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทฤษฎีของจิตใจหมายถึงความคิดที่ว่าบุคคลออทิสติกจำนวนมากไม่เข้าใจว่าคนอื่น ๆ ที่มีแผนของตัวเองคิดและจุดของมุมมอง นอกจากนี้ยังปรากฏว่าพวกเขามีปัญหาในการทำความเข้าใจความเชื่อของคนอื่นทัศนคติและอารมณ์.
จำนวนมากของงานที่ใช้ในการทดสอบทฤษฎีนี้ได้รับให้กับเด็กที่ไม่ได้ออทิสติกเช่นเดียวกับเด็กที่มีความพิการทางสมองและทฤษฎีของปรากฏการณ์ใจปรากฏ จะไม่ซ้ำกันกับผู้ที่มีออทิสติก นอกจากนี้ทฤษฎีของจิตใจที่ดูเหมือนจะเป็นอิสระจากหน่วยสืบราชการลับแม้ว่าคนที่มีโรค Asperger จัดแสดงของปัญหานี้ในระดับน้อย.
ที่น่าสนใจคนที่มีออทิสติกมีปัญหาในการทำความเข้าใจเมื่อคนอื่น ๆ ไม่ทราบว่าบางสิ่งบางอย่าง มันเป็นเรื่องธรรมดามากโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีความสามารถเมธีจะกลายเป็นอารมณ์เสียเมื่อถามคำถามของคนที่คนที่ไม่ทราบคำตอบ.
โดยไม่เข้าใจว่าคนอื่น ๆ คิดแตกต่างกันกว่าตัวเองบุคคลออทิสติกจำนวนมากอาจมีปัญหาที่เกี่ยวข้อง สังคมและการสื่อสารกับคนอื่น ๆ นั่นคือพวกเขาอาจจะไม่สามารถที่จะคาดหวังสิ่งที่คนอื่นจะพูดหรือทำอะไรในสถานการณ์ต่างๆ นอกจากนี้พวกเขาอาจมีปัญหาในการทำความเข้าใจว่าเพื่อนหรือเพื่อนร่วมชั้นของพวกเขายังมีความคิดและอารมณ์และอาจทำให้ดูเหมือนจะเป็นตนเองเป็นศูนย์กลางผิดปกติหรือไม่สนใจ.
แม้ว่านี่จะเป็นมุมมองที่เห็นแก่ตัวของโลกมีอะไรในทฤษฎี ของจิตใจที่จะบ่งบอกว่าบุคคลออทิสติกจะรู้สึกดีกว่าคนอื่น.
คำถามสำคัญที่จะต้องถามคือวิธีหนึ่งจะสอนบุคคลออทิสติกที่จะเข้าใจและรับทราบความคิดและความรู้สึกของคนอื่น ๆ ? หนึ่งในวิธีการที่ใช้ในการสอนเด็กออทิสติกและผู้ใหญ่แนวคิดนี้คือการแทรกแซงการพัฒนาโดยแครอลสีเทาเรียกว่า 'เรื่องราวทางสังคม. เรื่องสั้นเหล่านี้อธิบายถึงสถานการณ์ที่แตกต่างกันซึ่งช่วยให้บุคคลออทิสติกที่จะเข้าใจตนเองและผู้อื่นที่ดีกว่า เรื่องราวเหล่านี้อาจกระตุ้นให้พวกเขาที่จะเริ่มต้นถามคำถามเกี่ยวกับคนอื่น ๆ และอย่างน้อยรับรู้บุคคลที่แตกต่างกันคิดในรูปแบบที่ไม่ซ้ำกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทฤษฎีของจิตใจ หมายถึง การที่บุคคลออทิสติกจำนวนมากไม่เข้าใจว่าคนอื่น มี แผน ของตัวเอง ความคิด และมุมมอง นอกจากนี้ ปรากฏว่ามีปัญหาความเข้าใจความเชื่อคนอื่น ทัศนคติและอารมณ์ .
หลายงานที่ใช้ทดสอบทฤษฎีนี้ได้รับให้กับเด็กออทิสติก ไม่เป็นเด็กปัญญาอ่อนและทฤษฎีของจิตใจปรากฏการณ์ปรากฏเป็นเฉพาะผู้ที่เป็นออทิสติก นอกจากนี้ ทฤษฎีของจิตใจจะเป็นอิสระปัญญาแม้ผู้คนที่มีอาการ Asperger ' s มีปัญหาในระดับน้อย
น่าสนใจ คนออทิสติกมีปัญหาความเข้าใจเมื่อผู้อื่นไม่รู้บางอย่าง มันค่อนข้างทั่วไป โดยเฉพาะผู้ที่มีความสามารถเมธี ,กลายเป็นโกรธเมื่อถามคำถามนั้น ซึ่งคนที่ไม่ทราบคำตอบ
โดยไม่ยอมรับว่าคนอื่นคิดต่างจากตัวเอง บุคคลออทิสติกมากอาจมีปัญหาต่อสังคม และสื่อสารกับคนอื่น ที่พวกเขาอาจจะไม่ สามารถที่จะคาดการณ์สิ่งที่คนอื่นจะพูดหรือทำอะไรในสถานการณ์ต่าง ๆ นอกจากนี้พวกเขาอาจจะเข้าใจยาก ว่า เพื่อน หรือเพื่อนๆมีความคิดและอารมณ์ และดังนั้นจึงอาจปรากฏเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเอง นอกรีต หรือใจ .
แม้ว่าจะดูเห็นแก่ตัวของโลก ไม่มีอะไรในทฤษฎีของจิตใจที่จะบ่งบอกว่าบุคคลออทิสติกรู้สึกเหนือกว่าคนอื่น ซึ่งต้องถาม
ที่สําคัญ ที่จะถามคือ :แล้วจะสอนให้บุคคลออทิสติกที่จะเข้าใจและรับรู้ความคิดและความรู้สึกของผู้อื่น หนึ่งในวิธีที่ใช้ในการสอนเด็กออทิสติก และผู้ใหญ่ แนวคิดนี้เป็นกิจกรรมที่พัฒนาโดยแครอลเกรย์เรื่องราวทางสังคมที่เรียกว่า ' ' เรื่องสั้นเหล่านี้อธิบายถึงสถานการณ์ที่แตกต่างกันซึ่งช่วยให้บุคคลออทิสติกให้เข้าใจตนเองและผู้อื่นดีกว่าเรื่องราวเหล่านี้อาจกระตุ้นให้พวกเขาที่จะเริ่มต้นถามคำถามเกี่ยวกับคนอื่น ๆและอย่างน้อยก็รับรู้ว่าบุคคลอื่นคิดวิธีการที่ไม่ซ้ำกัน