Compared with other democracies, th

Compared with other democracies, the United States has a very decentralized structure of government. The Framers of the U.S. Constitution were extremely wary of the potential dangers of concentrating power in any single political institution, and so deliberately undertook to divide authority among different branches and levels of government. The decentralized American system contrasts with the strict "majoritarian" model of democracy, which holds that government should enact legislation and pursue policies that are immediately responsive to what the majority of the people want.
The American model of democratic government, pluralist democracy, has a number of advantages over the majoritarian model, and these reflect the Founders’ vision for America. Pluralist democracy requires government power to be dispersed and authority to be decentralized. According to this model, democracy exists when government authority is divided among multiple centers of power that are open to interests of various groups—for example, labor v. management, farmers v. food stores, coal companies v. environmentalists. Groups like these compete against each other in a pluralistic society.
The dispersion of authority in pluralist theory prevents government from taking hasty, possibly imprudent action, but it also can prevent any action if important power centers disagree. Although decentralization of power characterizes American government, some institutional features tend to centralize power, enabling government to act even while lacking universal agreement on policy. This essay describes how key features of the U.S. political system contribute to achieving a balance of decentralization and centralization of political authority.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อเทียบกับอื่น ๆ เหมือน ๆ สหรัฐอเมริกามีโครงสร้างแบบกระจายศูนย์มากของรัฐบาล Framers ของรัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกาได้มากระมัดระวังอันตรายอาจเกิดขึ้นของลพลังงานสถาบันทางการเมืองใด ๆ เดียว และดังนั้นตั้งใจ undertook หารหน่วยงานระหว่างสาขาและระดับของรัฐบาล ระบบอเมริกันแบบกระจายศูนย์ความแตกต่างแบบ "majoritarian" เข้มงวดประชาธิปไตย ซึ่งถือว่า รัฐบาลควรประกาศใช้กฎหมาย และนโยบายที่ตอบสนองทันทีคนส่วนใหญ่ต้อง คดีแบบอเมริกันของรัฐบาลประชาธิปไตย ประชาธิปไตย pluralist มีข้อดีกว่าแบบ majoritarian และเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้งอเมริกา Pluralist ประชาธิปไตยต้องการอำนาจเพื่อเป็นกระจายและการเป็นแบบกระจายศูนย์ ตามแบบจำลองนี้ ประชาธิปไตยอยู่เมื่อหน่วยงานราชการแบ่งพลังงานหลายศูนย์ที่เปิดเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มต่าง ๆ เช่นตัวอย่าง แรงงาน v. จัดการ เกษตรกร v. อาหารเก็บ บริษัทถ่านหิน v. environmentalists กลุ่มเช่นนี้แข่งขันกับผู้อื่นในสังคม pluralisticกระจายตัวของหน่วยงานในทฤษฎี pluralist ป้องกันรัฐบาลจากกระทำการเข้า imprudent อาจจะ แต่มันยังสามารถป้องกันการดำเนินการใด ๆ พลังงานสำคัญศูนย์ไม่เห็นด้วย แม้ว่าการกระจายอำนาจการแพร่กระจายพลังงานระบุลักษณะของรัฐบาลอเมริกัน คุณลักษณะบางอย่างของสถาบันมักจะ centralize พลังงาน รัฐบาลเปิดใช้งานทำแม้ในขณะที่ขาดข้อตกลงสากลในนโยบาย เรียงความนี้อธิบายว่า ลักษณะของสหรัฐอเมริกา ระบบการเมืองนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายของการกระจายอำนาจการแพร่กระจายและชอบรวมศูนย์อำนาจทางการเมือง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อเทียบกับประเทศประชาธิปไตยอื่น ๆ ที่สหรัฐอเมริกามีโครงสร้างการกระจายอำนาจมากของรัฐบาล กรอบของรัฐธรรมนูญสหรัฐระวังมากถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการมุ่งเน้นการใช้พลังงานในสถาบันทางการเมืองใด ๆ เดียวและเพื่อจงใจรับหน้าที่ในการแบ่งอำนาจระหว่างสาขาที่แตกต่างกันและระดับของรัฐบาล อเมริกันระบบการกระจายอำนาจแตกต่างกับที่เข้มงวด "majoritarian" รูปแบบของการปกครองระบอบประชาธิปไตยซึ่งถือว่ารัฐบาลควรตรากฎหมายและดำเนินนโยบายที่มีการตอบสนองทันทีกับสิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องการ.
แบบอเมริกันของรัฐบาลประชาธิปไตยประชาธิปไตยพหุมี จำนวนของข้อได้เปรียบกว่ารุ่น majoritarian และสิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้ง 'สำหรับอเมริกา ประชาธิปไตยพหุต้องใช้พลังงานของรัฐบาลที่จะแยกย้ายกันไปและผู้มีอำนาจที่จะกระจายอำนาจ ตามรูปแบบนี้ประชาธิปไตยเกิดขึ้นเมื่อผู้มีอำนาจในรัฐบาลจะแบ่งออกเป็นหลายศูนย์ของพลังงานที่มีการเปิดให้ผลประโยชน์ของกลุ่มต่าง ๆ เช่นการจัดการแรงงานวี. เกษตรกร v. ร้านอาหาร บริษัท ถ่านหิน v. สิ่งแวดล้อม กลุ่มเช่นนี้แข่งขันกันในสังคมพหุนิยม.
การกระจายตัวของผู้มีอำนาจในทางทฤษฎีพหุป้องกันไม่ให้รัฐบาลรีบร้อนจากการกระทำที่ไม่เหมาะสมอาจจะเป็น แต่ก็ยังสามารถป้องกันไม่ให้ดำเนินการใด ๆ หากศูนย์อำนาจที่สำคัญไม่เห็นด้วย แม้ว่าการกระจายอำนาจของอำนาจลักษณะรัฐบาลอเมริกันคุณสมบัติบางสถาบันมีแนวโน้มที่จะรวมศูนย์อำนาจการเปิดใช้งานของรัฐบาลในการทำหน้าที่แม้ในขณะที่ขาดข้อตกลงสากลเกี่ยวกับนโยบาย บทความนี้จะอธิบายถึงวิธีคุณสมบัติที่สำคัญของระบบการเมืองสหรัฐนำไปสู่การบรรลุความสมดุลของการกระจายอำนาจและการรวมศูนย์อำนาจทางการเมือง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อเทียบกับประเทศ อื่นๆ สหรัฐอเมริกา มีโครงสร้างแบบกระจายอำนาจของรัฐบาล วางกรอบการปกครองของรัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกาถูกมากระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้นของการมุ่งเน้นพลังงานในสถาบันใด ๆทางการเมือง โสด แล้วจงใจทำเพื่อแบ่งอำนาจระหว่างสาขาและระดับต่างๆของรัฐบาลการกระจายระบบอเมริกา แตกต่างกับที่เข้มงวด " majoritarian " รูปแบบของประชาธิปไตย ซึ่งถือว่า รัฐควรบัญญัติกฎหมาย และสานต่อนโยบายที่ทันทีเพื่อตอบสนองสิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องการ
อเมริกันรูปแบบปกครองแบบประชาธิปไตย ประชาธิปไตย pluralist , มีจำนวนของข้อได้เปรียบกว่า majoritarian โมเดล ,และเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้งของอเมริกา ประชาธิปไตย pluralist ต้องใช้อำนาจรัฐและอำนาจในการแพร่ระบาดได้กระจาย . ตามรูปแบบนี้ ประชาธิปไตยอยู่แล้ว เมื่อรัฐบาลจะแบ่งออกเป็นหลายศูนย์อำนาจที่ถูกเปิดเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มต่างๆ เช่น แรงงานเกษตรกรโวลต์โวลต์การจัดการร้านค้าอาหาร ถ่านหิน บริษัท วี.สิ่งแวดล้อม . กลุ่มที่ชอบเหล่านี้แข่งขันกับแต่ละอื่น ๆในสังคมพหุ .
การกระจายตัวของผู้มีอำนาจในทางทฤษฎี pluralist ป้องกันรัฐบาลจากการรีบเร่ง อาจไม่รอบคอบ กระทำ แต่ยังสามารถป้องกันการกระทำใด ๆ ถ้าศูนย์พลังงานที่สำคัญด้วย แม้ว่าการกระจายอำนาจของพลังงานในลักษณะรัฐบาลอเมริกัน ,บางสถาบันมีมีแนวโน้มที่จะรวมพลังงาน ส่งผลให้รัฐบาลทำแม้ในขณะที่ขาดข้อตกลงสากลเกี่ยวกับนโยบาย บทความนี้อธิบายถึงวิธีการที่สำคัญคุณลักษณะของระบบการเมืองของสหรัฐฯ ส่งผลให้บรรลุความสมดุลของการกระจายอำนาจ และการรวมศูนย์อำนาจของผู้มีอำนาจทางการเมือง