such as the once bankrupt fruit of the Loom.
Most of his invesments were long-term----Buffett claimed that he would not purchase a company not which he could not forecast the balance sheet in ten of twenty years. He summarized his investment strategy at an annual meeting “Work out how much it will pay out from now until Judgment Day, then discount it back and buy it cheaper”
Between 1997 and 2000, while many investors were pouring money into Internet stocks, Berkshire Hathaway stuck to more traditional businesses such as timber and insurance, claiming that the value of technology stocks had become “decoupled from the values of the businesses that underlay them.” Following the collapse of the Internet bubble, Buffett, who was flush with cash, began purchasing assets in the troubled enregy industry. Buffett publicly announced that he might spend as much as $15 billion in this sector over the nest few years. Credit-crunched energy companies seeking cash found a ready buyer in Buffet when other alternatives were scarce. This was said to like to be the “only buyer in the firesale.” Buffett started acquiring enering assets in 2000, when he took a comtrolling stake in Iowa based MidAmerican Energy for $1.24 billion.
In March 2002, MidAmerican purchased the 926 mile Kern River pipeline from Wiliams for $ 960 million in cash and debt, or approximately 8 times the expected cash flow of $ 120 million in 2002. MidAmerican paid $450 million in cash to williams and assumed debt of $510 million. The pipeline carried gas from Wyoming to California and was undergoing a massive expansion project aimed at boubling its capacity. As the new owner of the pipeline, MidAmerican would assume responsibility for a projected $ 1.26 billion in capital expenditures. Commention on the deal, Buffett said “Williams has all the fundamentals in place---solid assets, strong demand for its products and a reputation for excellent customer service.” Malclom sail that the trnsaction with Berkshire would allow Williams to “reduce debt and increase cash flow
เช่นผลไม้ล้มละลายครั้งเดียวของ Loom.
ส่วนใหญ่ของเงินลงทุนของเขาได้ในระยะยาว ---- บัฟเฟอ้างว่าเขาจะไม่ซื้อ บริษัท ไม่ได้ที่เขาไม่สามารถคาดการณ์ในงบดุลในสิบยี่สิบปี เขาสรุปกลยุทธ์การลงทุนของเขาที่การประชุมประจำปี "ผลงานออกมาเท่าใดก็จะจ่ายออกตั้งแต่วันนี้จนถึงวันพิพากษาแล้วลดมันกลับมาและซื้อราคาถูก" ระหว่างปี 1997 และปี 2000 ในขณะที่นักลงทุนจำนวนมากได้รับการเทเงินในหุ้นอินเทอร์เน็ต, Berkshire Hathaway ติดอยู่กับธุรกิจดั้งเดิมมากขึ้นเช่นไม้และประกันอ้างว่ามูลค่าของหุ้นเทคโนโลยีได้กลายเป็น "หลุดพ้นจากค่าของธุรกิจที่หนุนพวกเขา." หลังจากการล่มสลายของฟอง Internet, บัฟเฟตซึ่งเป็นล้างด้วยเงินสดเริ่ม การซื้อสินทรัพย์ในอุตสาหกรรม enregy ปัญหา บัฟเฟประกาศต่อสาธารณชนว่าเขาอาจจะใช้เวลามากที่สุดเท่าที่ $ 15000000000 ในภาคนี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมารัง เครดิต crunched บริษัท พลังงานที่กำลังมองหาเงินสดพบผู้ซื้อพร้อมในบุฟเฟ่ต์เมื่อทางเลือกอื่น ๆ หายาก นี้ได้รับการกล่าวถึงชอบที่จะเป็น "ผู้ซื้อเฉพาะใน firesale." บัฟเฟเริ่มซื้อสินทรัพย์ Enering ในปี 2000 เมื่อเขาได้รับเงินเดิมพัน comtrolling ในไอโอวาตาม MidAmerican พลังงานสำหรับ $ 1240000000. ในเดือนมีนาคมปี 2002 MidAmerican ซื้อ 926 ไมล์แม่น้ำเคอร์น ท่อจาก Wiliams สำหรับ $ 960,000,000 เงินสดและตราสารหนี้หรือประมาณ 8 ครั้งกระแสเงินสดที่คาดหวังของ $ 120,000,000 ในปี 2002 MidAmerican จ่ายเงิน $ 450,000,000 เงินสดวิลเลียมส์และสันนิษฐานว่าหนี้ของ $ 510,000,000 ท่อส่งก๊าซจากดำเนินไวโอมิงแคลิฟอร์เนียและกำลังอยู่ระหว่างการขยายโครงการขนาดใหญ่ที่มุ่ง boubling ความสามารถของตน ในฐานะที่เป็นเจ้าของคนใหม่ของท่อ MidAmerican จะรับผิดชอบในการคาดการณ์ $ 1260000000 ในค่าใช้จ่ายทุน Commention ในการจัดการ, บัฟเฟตกล่าวว่า "วิลเลียมส์มีปัจจัยพื้นฐานทั้งหมดที่อยู่ในสถานที่ --- สินทรัพย์ที่มั่นคง, ความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับผลิตภัณฑ์และชื่อเสียงในการบริการลูกค้าที่ดีของตน." เรือใบ Malclom ที่ trnsaction กับเบิร์กเชียร์จะช่วยให้วิลเลียมส์ "ลดหนี้และ เพิ่มกระแสเงินสด
การแปล กรุณารอสักครู่..