The results of the study were prese

The results of the study were presented according to the research questions
on tables I and 2 while the hypotheses were presented on tables 3 and 4.
Table 1: shows the responses of female and male teachers on classroommanagement techniques considered effective during lesson in answer to research question one. 2.50 is used as the critical mean value in taking decision. All the items except items 9 and 13 have mean value above the
critical value. Therefore items 1-8, 10,11,12,14 and 15 were all the effective classroom management techniques. While corporal punishment and relocating the students were not effective classroom management techniques,
since their mean values were below the critical value.
Table 2: shows mean scores of responses with respect to research question two which focused on the effects of teacher’s classroom management effectiveness on students learning. Again, 2.50 is used as the criterion mean.
All the items except item 2 have mean value higher than the critical mean. Consequently, all the items but item 2 are the effects of teachers’ classroom management effectiveness on students learning.
From table 3, the calculated t-test value of 0.62 is less than the critical t-value of 1.96 at 0.05 level of significance. Hypothesis one is therefore retained. Hence there is no significant difference between female and male teachers in
their perceptions on the identified effective classroom management techniques. This implies that both female and male teachers did not differ
significantly in their perceptions on effective classroom management techniques. They had similar views.
In table 4, the calculated F-value of 0.00772 is less than the critical F-value of 3.00 at 0.05 level of significance. Hypothesis two is retained. Therefore there is no significant difference among teachers, vice-principals and principals in their perceptions on the effects of teacher’s classroom
management effectiveness on students learning. This implies that principals,
vice-principals and teachers did not differ significantly in their perception on the effects of teacher’s classroom management effectiveness on students learning. They had similar views.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นำเสนอผลของการศึกษาตามคำถามวิจัยในตาราง ผมและ 2 ในขณะที่สมมติฐานถูกแสดงในตาราง 3 และ 4ตารางที่ 1: แสดงการตอบสนองของหญิง และชายครูเทคนิค classroommanagement ที่ถือว่ามีประสิทธิภาพในระหว่างการเรียนในการตอบคำถามวิจัยหนึ่ง 2.50 จะใช้เป็นค่าเฉลี่ยที่สำคัญในการตัดสินใจ รายการทั้งหมดยกเว้นรายการที่ 9 และ 13 มีค่าเฉลี่ยข้างต้นค่าสำคัญ ดังนั้น รายการ 1-8, 10,11,12,14 และ 15 มีเทคนิคการบริหารจัดการห้องเรียนที่มีประสิทธิภาพ ในขณะที่การลงโทษและย้าย นักเรียนไม่ได้เทคนิคการบริหารจัดการห้องเรียนที่มีประสิทธิภาพตั้งแต่ค่าเฉลี่ยต่ำกว่าค่าสำคัญตารางที่ 2: แสดงคะแนนเฉลี่ยของการตอบสนองกับคำถามวิจัยสองซึ่งเน้นผลกระทบของประสิทธิภาพการจัดการห้องเรียนของครูนักเรียน อีกครั้ง 2.50 จะใช้เป็นเกณฑ์เฉลี่ยรายการทั้งหมดยกเว้นสินค้า 2 มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ยสำคัญ จึง ผลของประสิทธิภาพการจัดการห้องเรียนของครูในการเรียนรู้ของนักเรียนมีทั้งหมดสินค้าแต่สินค้า 2 จากตารางที่ 3, 0.62 ค่าทดสอบ t ที่คำนวณได้น้อยกว่าค่า t สำคัญของ 1.96 ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 สมมติฐานหนึ่งจะถูกเก็บไว้ดังนั้น จึงไม่มีความแตกต่างที่สำคัญระหว่างอาจารย์หญิง และชายการรับรู้เทคนิคการจัดการชั้นเรียนมีประสิทธิภาพที่ระบุ บ่งชี้ว่า ครูทั้งหญิง และชายไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในการรับรู้ในเทคนิคการบริหารจัดการห้องเรียนที่มีประสิทธิภาพ พวกเขามีมุมมองคล้ายกันในตารางที่ 4 ค่า F จากการคำนวณของ 0.00772 ได้น้อยกว่าค่า F สำคัญ 3.00 ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 สมมติฐานที่สองจะถูกเก็บไว้ จึงไม่มีความแตกต่างระหว่างผู้บริหาร และครู รองผู้บริหารในการรับรู้เกี่ยวกับผลกระทบของห้องเรียนของครูประสิทธิภาพการจัดการในการเรียนรู้ของนักเรียน ก็หมายความว่าครูใหญ่รองผู้บริหารและครูไม่ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญในการรับรู้เกี่ยวกับผลกระทบของประสิทธิภาพการจัดการห้องเรียนของครูในการเรียนรู้ของนักเรียน พวกเขามีมุมมองคล้ายกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลการศึกษาที่ถูกนำเสนอตามคำถามการวิจัย
ในตาราง I และ 2 ในขณะที่สมมติฐานถูกนำเสนอในตารางที่ 3 และ 4
ตารางที่ 1 แสดงให้เห็นถึงการตอบสนองของครูหญิงและชายกับเทคนิค classroommanagement ถือว่ามีประสิทธิภาพในระหว่างบทเรียนในคำตอบของการวิจัย หนึ่งคำถาม 2.50 จะถูกใช้เป็นค่าเฉลี่ยที่สำคัญในการที่จะตัดสินใจ ทุกรายการยกเว้นรายการที่ 9 และ 13 มีค่าเฉลี่ยดังกล่าวข้างต้น
ค่าวิกฤต ดังนั้นรายการ 1-8, 10,11,12,14 และ 15 มีทั้งหมดเทคนิคการจัดการห้องเรียนที่มีประสิทธิภาพ ในขณะที่การลงโทษทางร่างกายและการย้ายถิ่นฐานนักเรียนที่ไม่ได้เทคนิคการจัดการห้องเรียนที่มีประสิทธิภาพ
ตั้งแต่ค่าเฉลี่ยของพวกเขาต่ำกว่ามูลค่าที่สำคัญ.
ตารางที่ 2 แสดงให้เห็นว่ามีคะแนนเฉลี่ยของการตอบสนองด้วยความเคารพกับคำถามการวิจัยทั้งสองซึ่งมุ่งเน้นไปที่ผลกระทบของประสิทธิภาพการบริหารจัดการในชั้นเรียนของครูนักเรียน การเรียนรู้ อีกครั้ง 2.50 จะใช้เป็นเกณฑ์หมายถึง.
ทุกรายการยกเว้นรายการที่ 2 มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่สำคัญ ดังนั้นทุกรายการ แต่รายการที่ 2 ที่มีผลกระทบของประสิทธิภาพการบริหารจัดการชั้นเรียนของครูนักเรียนการเรียนรู้.
จากตารางที่ 3 ค่า t-test คำนวณได้ 0.62 น้อยกว่าที่สำคัญ T-มูลค่า 1.96 สถิติที่ระดับ 0.05 อย่างมีนัยสำคัญ สมมติฐานหนึ่งจะถูกเก็บไว้ดังนั้น ดังนั้นไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างครูหญิงและชายใน
การรับรู้ของพวกเขาในการระบุเทคนิคการจัดการห้องเรียนที่มีประสิทธิภาพ นี่ก็หมายความว่าทั้งครูหญิงและชายไม่แตกต่างกัน
อย่างมีนัยสำคัญในการรับรู้ของพวกเขาในเทคนิคการจัดการห้องเรียนที่มีประสิทธิภาพ พวกเขามีมุมมองที่คล้ายกัน.
ในตารางที่ 4 ซึ่งคำนวณได้จาก F-ค่าของ 0.00772 น้อยกว่าที่สำคัญ F มูลค่า 3.00 สถิติที่ระดับ 0.05 อย่างมีนัยสำคัญ สมมติฐานที่สองจะถูกเก็บไว้ ดังนั้นจึงไม่มีความแตกต่างกันระหว่างครูรองผู้ว่าจ้างและผู้ว่าจ้างในการรับรู้ของพวกเขาเกี่ยวกับผลกระทบของการสอนในชั้นเรียนของครู
ประสิทธิภาพการบริหารจัดการเกี่ยวกับการเรียนรู้ของนักศึกษา นี่ก็หมายความว่าผู้บริหาร,
รองครูใหญ่และครูไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญในการรับรู้ของพวกเขาเกี่ยวกับผลกระทบของประสิทธิภาพการบริหารจัดการในชั้นเรียนของครูในการเรียนรู้ของนักเรียน พวกเขามีมุมมองที่คล้ายกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลการวิจัยที่นำเสนอไปตามคำถามการวิจัยบนโต๊ะชั้น 2 ขณะที่สมมติฐานที่ถูกนำเสนอบนตารางที่ 3 และ 4ตารางที่ 1 : แสดงการตอบสนองของหญิงและชาย ด้านเทคนิค classroommanagement ถือว่ามีผลในระหว่างบทเรียนในการตอบปัญหาการวิจัย . 2.50 เป็นค่าเฉลี่ยที่สำคัญในการตัดสินใจ รายการทั้งหมด ยกเว้น รายการที่ 9 และ 13 มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าค่าวิกฤติ ดังนั้นรายการที่ 1-8 , 10,11,12,14 และ 15 มีทั้งหมดที่มีประสิทธิภาพการจัดการเรียนเทคนิค ในขณะที่การลงโทษ และการย้ายนักเรียนไม่ได้มีประสิทธิภาพเทคนิคการจัดการในชั้นเรียนเนื่องจากค่าหมายถึงของพวกเขาด้านล่าง ค่าวิกฤตตารางที่ 2 : แสดง ค่าเฉลี่ยของการตอบสนองด้วยการตั้งคำถามวิจัยสองซึ่งเน้นผลของการจัดการชั้นเรียนของครูต่อนักเรียนการเรียนรู้ อีก 0.25% เป็นเกณฑ์ หมายถึงรายการทั้งหมด ยกเว้น รายการที่ 2 มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่สําคัญ ดังนั้น สินค้าทั้งหมด แต่รายการที่ 2 คือผลกระทบของประสิทธิภาพการจัดการชั้นเรียนของครูกับนักเรียนในการเรียนจากตารางที่ 3 ค่า t-test ค่าระหว่างน้อยกว่า t-value วิจารณ์กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 สมมติฐานหนึ่งจึงเก็บไว้ จึงไม่มีความแตกต่างระหว่างหญิงและชาย ครูการรับรู้ในการระบุประสิทธิภาพการจัดการเรียนเทคนิค นอกจากนี้ ทั้งหญิงและชาย ครูไม่แตกต่างกันมีการรับรู้ในเทคนิคการบริหารจัดการชั้นเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ พวกเขามีมุมมองที่คล้ายกันตารางที่ 4 , คำนวณค่าของ 0.00772 น้อยกว่าค่าวิกฤตของประเทศอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 สมมติฐานที่ 2 จะยังคงอยู่ ดังนั้น มีไม่มีความแตกต่างระหว่างครูและผู้บริหารและผู้บริหารในการรับรู้ในผลของชั้นเรียนของครู อาจารย์ประสิทธิผลการจัดการเรียน . นี้แสดงให้เห็นว่า ผู้บริหารโรงเรียนผู้บริหารและครูไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และในการรับรู้ของพวกเขาในผลของการจัดการชั้นเรียนของครูต่อนักเรียนการเรียนรู้ พวกเขามีมุมมองที่คล้ายกัน