Contaminated soilObsolete pesticide

Contaminated soil
Obsolete pesticides are often improperly stored. Liquid pesticides can leak out of corroded drums into the soil and groundwater and end up polluting local lakes and rivers. The wind can spread pesticide powders over a wide area.

Once pesticides enter soil they spread at rates that depend on the type of soil and pesticides, moisture and organic matter content of the soil and other factors. A relatively small amount of spilled pesticides can therefore create a much larger volume of contaminated soil. For example, approximately 30 tonnes of pesticides buried on a site in Yemen in the 1980s contaminated over 1500 tonnes of soil.

Obviously, this can pose a serious health and environmental threat to nearby communities.
A complex process
Cleaning up contaminated water and soil is a desirable part of any obsolete pesticide disposal operation. But dealing with contaminated soil is a costly, technically complex and difficult task. Limited funds for cleanup usually focus first on removal of the source of contamination (the pesticides themselves) and decontamination of soil and water is generally addressed on the basis of risk analysis when additional funds are available.

Every site is different. First the extent of the contamination and the impact on the local environment must be determined. This requires an understanding of the chemical properties of the pesticides. Often the pesticides are unknown and samples must be analysed.

Depending on the results of the chemical analysis and risk assessment, there are three basic ways of dealing with contaminated soil and water:
removing the contamination by excavating the soil and pumping-up of groundwater;
containing the contamination by covering contaminated soil with buildings, asphalt or another impermeable layer, and preventing contaminated groundwater from flowing downstream;
preventing human contact with the contamination by covering the contamination with clean soil, fencing-off contaminated areas and closing contaminated wells.
The costs
Removing contamination is more expensive than containing it, which in turn is more expensive than taking protective measures. But it ends the problem once and for all. Containment and protective measures are effective only for as long as they are maintained and their proper maintenance may be difficult to ensure over a long period of time.

The FAO Programme has published a reference manual for assessing soil contamination to assist developing countries to make sound decisions about how to deal with the problem in the most cost-effective manner. FAO is also working to develop cost effective methods for dealing with pesticide contaminated soil in developing countries.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดินปนเปื้อนยาฆ่าแมลงที่ล้าสมัยจะถูกเก็บไว้มักจะไม่ถูกต้อง ยาฆ่าแมลงน้ำสามารถรั่วไหลออกนอกกลอง corroded ในดินและน้ำบาดาล และท้าย polluting ภายในทะเลสาบและแม่น้ำ ลมสามารถแพร่กระจายแมลงผงตั้ง เมื่อยาฆ่าแมลงใส่ดิน จะแพร่กระจายในราคาที่ขึ้นอยู่กับชนิดของดิน และยาฆ่าแมลง ความชื้น และอินทรีย์เนื้อหาของดินและปัจจัยอื่น ๆ จำนวนหกยาฆ่าแมลงที่ค่อนข้างเล็กจึงสามารถสร้างมากจำนวนมากเกินกว่าดินปนเปื้อน ตัวอย่าง สารกำจัดศัตรูพืชที่ฝังอยู่บนไซต์ในเยเมนในทศวรรษ 1980 ประมาณ 30 ตันปนเปื้อนดินกว่า 1500 ตัน อย่างชัดเจน นี้สามารถก่อให้เกิดสุขภาพที่ร้ายแรงและภัยคุกคามด้านสิ่งแวดล้อมกับชุมชนใกล้เคียงกระบวนการที่ซับซ้อนล้างน้ำที่ปนเปื้อนและดินเป็นส่วนหนึ่งต้องการใด ๆ ล้าสารพิษทิ้ง แต่จัดการกับดินปนเปื้อนงานค่าใช้จ่าย เทคนิคซับซ้อน และยาก เงินทุนที่จำกัดสำหรับการล้างข้อมูลปกติโฟกัสแรกบนเอาแหล่งการปนเปื้อน (ในยาฆ่าแมลงเอง) และ decontamination ดินและน้ำเป็นโดยทั่วไปที่อยู่บนพื้นฐานของความเสี่ยงวิเคราะห์เมื่อเงินทุนเพิ่มเติม ทุกไซต์จะแตกต่างกัน ต้องสามารถกำหนดขอบเขตของการปนเปื้อนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นในครั้งแรก ความเข้าใจเกี่ยวกับคุณสมบัติทางเคมีของสารกำจัดศัตรูพืชต้องการ บ่อยครั้งยาฆ่าแมลงไม่รู้จัก และต้อง analysed ตัวอย่าง ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของการวิเคราะห์ทางเคมีและการประเมินความเสี่ยง มีสามวิธีพื้นฐานจัดการกับปนเปื้อนดินและน้ำ:เอาการปนเปื้อน โดย excavating ดิน และปั๊มน้ำขึ้นของน้ำประกอบด้วยการปนเปื้อน โดยครอบคลุมอาคาร ยางมะตอย หรือชั้นอื่นซึมผ่านของดินที่ปนเปื้อน และป้องกันการปนเปื้อนน้ำบาดาลจากไหลน้ำป้องกันไม่ให้มนุษย์ติดต่อกับการปนเปื้อน โดยครอบคลุมการปนเปื้อน ด้วยดินสะอาด รั้วปิดปนเปื้อนพื้นที่และบ่อปิดที่ปนเปื้อนต้นทุนเอาปนเปื้อนจะแพงกว่าประกอบด้วย ซึ่งจะมีราคาแพงมากขึ้นกว่าการป้องกัน แต่สิ้นสุดปัญหาที บรรจุและมาตรการป้องกันมีประสิทธิภาพแต่ตราบใดที่พวกเขาจะยังคงอยู่ และการบำรุงรักษาที่เหมาะสมอาจจะยากที่จะให้เวลานาน โครงการ FAO เผยแพร่คู่มืออ้างอิงสำหรับการประเมินการปนเปื้อนดินเพื่อช่วยประเทศกำลังพัฒนาเพื่อเสียงตัดสินใจเกี่ยวกับวิธีการจัดการกับปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีการทำงาน FAO พัฒนาวิธีต้นทุนประสิทธิภาพในการจัดการกับสารพิษที่ปนเปื้อนดินในประเทศกำลังพัฒนา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดินที่ปนเปื้อนยาฆ่าแมลงเลิกมักจะเก็บไว้ไม่ถูกต้อง
สารกำจัดศัตรูพืชที่มีสภาพคล่องสามารถรั่วไหลออกมาจากกลองสึกกร่อนลงไปในดินและน้ำใต้ดินและจบลงก่อให้เกิดมลพิษในท้องถิ่นทะเลสาบและแม่น้ำ ลมสามารถแพร่กระจายผงยาฆ่าแมลงเป็นบริเวณกว้าง. เมื่อป้อนสารกำจัดศัตรูพืชในดินที่จะแพร่กระจายในอัตราที่ขึ้นอยู่กับชนิดของดินและสารกำจัดศัตรูพืชความชื้นและเนื้อหาอินทรียวัตถุของดินและปัจจัยอื่น ๆ จำนวนเงินที่ค่อนข้างเล็กของสารกำจัดศัตรูพืชที่หกรั่วไหลจึงสามารถสร้างไดรฟ์ที่มีขนาดใหญ่ของดินที่ปนเปื้อน ยกตัวอย่างเช่นประมาณ 30 ตันของสารกำจัดศัตรูพืชที่ถูกฝังอยู่ในเว็บไซต์ในเยเมนในปี 1980 ที่ปนเปื้อนกว่า 1500 ตันของดิน. แน่นอนนี้สามารถก่อให้เกิดสุขภาพที่รุนแรงและเป็นภัยคุกคามสิ่งแวดล้อมเพื่อชุมชนใกล้เคียง. กระบวนการที่ซับซ้อนทำความสะอาดน้ำที่ปนเปื้อนและดินเป็นเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานที่น่าพอใจการกำจัดสารกำจัดศัตรูพืชที่ล้าสมัยใด ๆ แต่การจัดการกับดินที่ปนเปื้อนเป็นค่าใช้จ่ายในงานทางเทคนิคที่ซับซ้อนและยาก เงินทุนที่ จำกัด สำหรับการทำความสะอาดมักจะมุ่งเน้นเป็นครั้งแรกในการกำจัดแหล่งที่มาของการปนเปื้อน (สารกำจัดศัตรูพืชตัวเอง) และการปนเปื้อนของดินและน้ำโดยทั่วไปเป็นที่อยู่บนพื้นฐานของการวิเคราะห์ความเสี่ยงเมื่อเงินทุนเพิ่มเติมที่มีอยู่. เว็บไซต์ที่ทุกคนต่าง ครั้งแรกขอบเขตของการปนเปื้อนและผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมในท้องถิ่นที่จะต้องได้รับการพิจารณา นี้ต้องใช้ความเข้าใจในคุณสมบัติทางเคมีของสารกำจัดศัตรูพืชที่ บ่อยครั้งที่สารกำจัดศัตรูพืชเป็นที่รู้จักและตัวอย่างจะต้องวิเคราะห์. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลของการวิเคราะห์ทางเคมีและการประเมินความเสี่ยงที่มีสามวิธีพื้นฐานของการจัดการกับดินที่ปนเปื้อนและน้ำ: การลบการปนเปื้อนจากการขุดดินและสูบน้ำขึ้นจากน้ำใต้ดินที่มีการปนเปื้อนโดยครอบคลุมดินปนเปื้อนด้วยอาคารยางมะตอยหรืออีกชั้นอากาศและการป้องกันน้ำใต้ดินที่ปนเปื้อนไหลปลายน้ำ. ป้องกันการติดต่อของมนุษย์ที่มีการปนเปื้อนโดยครอบคลุมการปนเปื้อนด้วยดินสะอาดพื้นที่ปนเปื้อนรั้วออกและปิดหลุมที่ปนเปื้อนค่าใช้จ่ายการปนเปื้อนถอดมีราคาแพงกว่าที่มีมันซึ่งจะมีราคาแพงกว่าการใช้มาตรการป้องกัน แต่มันจะจบปัญหาและทุกครั้ง บรรจุและมาตรการป้องกันที่มีประสิทธิภาพเฉพาะสำหรับตราบเท่าที่พวกเขามีการบำรุงรักษาและการบำรุงรักษาที่เหมาะสมของพวกเขาอาจจะยากที่จะให้แน่ใจว่าในระยะเวลานานของเวลา. โครงการเอฟเอโอได้ตีพิมพ์คู่มืออ้างอิงสำหรับการประเมินการปนเปื้อนในดินเพื่อให้ความช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาในการตัดสินใจเสียง เกี่ยวกับวิธีการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นในลักษณะที่มีประสิทธิภาพสูงสุด FAO ยังทำงานเพื่อพัฒนาวิธีการประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดการกับการปนเปื้อนยาฆ่าแมลงในดินในประเทศกำลังพัฒนา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ใช้ดินที่ปนเปื้อนยาฆ่าแมลงมักจะไม่ถูกต้องเก็บไว้ สารกำจัดศัตรูพืชของเหลวสามารถรั่วไหลออกจากสึกกร่อนกลองลงไปในดินและน้ำใต้ดิน และท้ายมลพิษทะเลสาบท้องถิ่น และแม่น้ำ ลมสามารถกระจายผงยาฆ่าแมลงทั่วบริเวณกว้าง

เมื่อยาฆ่าแมลงใส่ดินก็จะกระจายในอัตราที่ขึ้นอยู่กับชนิดของดิน และยาฆ่าแมลงความชื้นและปริมาณอินทรียวัตถุของดินและปัจจัยอื่น ๆ จำนวนเงินที่ค่อนข้างเล็กของหกยาฆ่าแมลง จึงสามารถสร้างปริมาณขนาดใหญ่ของดินที่ปนเปื้อน ตัวอย่างเช่น ประมาณ 30 ตันของยาฆ่าแมลงที่ฝังอยู่ในเว็บไซต์ ในเยเมน ในไฟต์ที่ปนเปื้อนกว่า 1 , 500 ตันของดิน

แน่นอนนี้สามารถก่อให้เกิดสุขภาพที่รุนแรงและสิ่งแวดล้อมต่อชุมชนใกล้เคียง กระบวนการซับซ้อน

ทำความสะอาดน้ำและดินที่ปนเปื้อนเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการกำจัดแมลงเป็นที่ล้าสมัย แต่ที่เกี่ยวข้องกับดินที่ปนเปื้อนเป็นบทเรียนราคาแพง ในทางเทคนิคที่ซับซ้อน และยุ่งยากงานเงินจำกัดสำหรับทำความสะอาดมักจะโฟกัสแรกในการกำจัดแหล่งของการปนเปื้อนยาฆ่าแมลงเอง ) และการลดการปนเปื้อนของดินและน้ำ โดยทั่วไปจะอยู่บนพื้นฐานของการวิเคราะห์ความเสี่ยง เมื่อเงินเพิ่มเติมจะพร้อมใช้งาน

ทุกเว็บไซต์ที่แตกต่างกัน ก่อนถึงขอบเขตของการปนเปื้อนและผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมท้องถิ่นต้องได้รับการพิจารณานี้ต้องมีความเข้าใจในเรื่องของสารเคมี คุณสมบัติของสารกำจัดศัตรูพืช มักจะยาฆ่าแมลง จะไม่รู้จัก และตัวอย่างที่ต้องวิเคราะห์

ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของการวิเคราะห์ทางเคมีและการประเมินความเสี่ยง มีสามวิธีพื้นฐานของการจัดการกับการปนเปื้อนดินและน้ำ :
เอามลภาวะ โดยขุดดินและสูบขึ้น
น้ำใต้ดินที่มีการปนเปื้อน โดยครอบคลุมดินปนเปื้อนกับอาคาร ยางมะตอย หรือชั้นอื่นไม่ได้ และป้องกันไม่ให้น้ำใต้ดินที่ปนเปื้อนจากไหลล่อง ;
ป้องกันมนุษย์ติดต่อกับการปนเปื้อน โดยครอบคลุมการปนเปื้อนกับดินที่สะอาด , รั้วปิดบริเวณที่ปนเปื้อน และปิดบ่อค่า

ที่ปนเปื้อนการกำจัดการปนเปื้อนจะแพงกว่าที่มีมัน ซึ่งจะแพงกว่าใช้มาตรการปกป้อง แต่มันสิ้นสุดปัญหาทันทีและสำหรับทั้งหมด การบรรจุและมาตรการป้องกันที่มีประสิทธิภาพเพียงตราบเท่าที่พวกเขารักษาและการบำรุงรักษาที่เหมาะสมของพวกเขาอาจจะยากที่จะให้แน่ใจว่าในช่วงระยะเวลาที่ยาวนานของเวลา

โครงการ FAO ได้ตีพิมพ์คู่มืออ้างอิงเพื่อประเมินการปนเปื้อนของดินเพื่อช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาให้เสียงการตัดสินใจเกี่ยวกับวิธีการจัดการกับปัญหาในลักษณะที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติยังทำการพัฒนาวิธีการลดต้นทุนที่มีประสิทธิภาพสำหรับการจัดการกับสารพิษที่ปนเปื้อนในดินในการพัฒนาประเทศ