The mangrove forest area in Mui Ca

The mangrove forest area in Mui Ca Mau National Park, Vietnam (CMNP) is 13,400 ha, accounting for the largest proportion (~37%) of mangrove forests in the Mekong Delta, South Vietnam (Sam and Hong, 2003). Since the 1990s the mangrove forest has exhibited extensive levels of deforestation by massive construction of shrimp ponds (Clough et al., 2002), and this had an observable impact on marine production-based catch (de Graaf and Xuan, 1998), major changes in hydrological processes and soil acidification (Blasco et al., 2001), and may be an unforeseen driving force for the emissions of the GHGs
(Lovelock et al., 2011).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ป่าชายเลนในอุทยานแห่งชาติมุ Ca Mau เวียดนาม (CMNP) ได้ 13,400 ฮา บัญชีในสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุด (~ 37%) ของป่าชายเลนของแม่น้ำโขงเดลต้า เวียดนามใต้ (สามและ Hong, 2003) ตั้งแต่ปี 1990 ป่าชายเลนได้จัดแสดงระดับอย่างละเอียดของการทำลายป่า โดยการก่อสร้างขนาดใหญ่ของบ่อกุ้ง (คลัฟ et al., 2002), และนี้มี observable มีผลกระทบในทางทะเลโดยผลิตตาม (de Graaf และซวน 1998), หลักการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการด้านชลศาสตร์ และดินยู (Blasco et al., 2001), และอาจเป็นแรงผลักดันที่ไม่คาดฝันสำหรับปล่อย GHGs(Lovelock et al., 2011)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พื้นที่ป่าชายเลนใน Mui Ca Mau National Park, เวียดนาม (CMNP) เป็น 13,400 เฮกเตอร์ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุด (~ 37%) ของป่าชายเลนในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงเวียดนามใต้ (แซมและฮ่องกง, 2003) ตั้งแต่ปี 1990 ป่าชายเลนได้แสดงระดับที่กว้างขวางของการทำลายป่าโดยการก่อสร้างขนาดใหญ่ของบ่อเลี้ยงกุ้ง (คลอฟ et al., 2002) และเรื่องนี้มีผลกระทบที่สังเกตได้ในการจับการผลิตตามทางทะเล (de Graaf และ Xuan, 1998) การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ในกระบวนการทางอุทกวิทยาและกรดดิน (Blasco et al., 2001) และอาจจะเป็นแรงผลักดันที่ไม่คาดฝันสำหรับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของ
(Lovelock et al., 2011)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พื้นที่ป่าชายเลนใน มุย Ca Mau อุทยานแห่งชาติ , เวียดนาม ( cmnp ) คือการ ฮา บัญชีสำหรับสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุด ( ~ 37% ) ของป่าชายเลนบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงเวียดนามตอนใต้ ( แซม และ ฮอง , 2003 ) ตั้งแต่ปี 1990 ที่ป่าชายเลนได้แสดงระดับของการทำลายป่าอย่างกว้างขวางโดยการก่อสร้างขนาดใหญ่ของบ่อเลี้ยงกุ้ง ( คลัฟ et al . , 2002 )และนี้มีผลกระทบต่อการผลิตทางทะเลตามจับสังเกต ( เดอและ graaf ซวน , 1998 ) , การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในกระบวนการทางอุทกวิทยาและดินที่เป็นกรด ( กระตือรือร้นมากที่สุด et al . , 2001 ) , และอาจจะคาดไม่ถึงแรงผลักดันของการปล่อย GHGs
( ที่ตั้ง et al . , 2011 )