มิติความแตกต่างในเรื่องความเป็นส่วน

มิติความแตกต่างในเรื่องความเป็นส่วนตัว (individualism/collectivism)
หมายถึง การที่บุคคลในแต่ละสังคมมีแนวความคิดและรูปแบบการดำรงชีวิตที่ขึ้นต่อสังคมไม่เท่ากัน บางสังคมประชาชนไม่ค่อยคำนึงถึงสังคมหรือความรู้สึกของคนรอบข้าง (individualism) บุคคลยึดถือในสิทธิตามกฎหมาย ในขณะที่ประชาชนในวัฒนธรรมที่คำนึงถึงสังคม (collectivism) มีความคิดและการกระทำต่างๆที่คำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่นหรือของกลุ่มมากกว่าคำนึงถึงกฎหมายเพียงอย่างเดียว ประชาชนในกลุ่มวัฒนธรรมนี้ส่วนหนึ่งได้รับอิทธิพลจากจีน โดยมีแนวคิดจากขงจื้อ (Confucian) คือ การให้ความสำคัญกับครอบครัวและพวกพ้อง ดังนั้น การตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรจะมีคุณค่าน้อยกว่าความผูกพันแบบเครือญาติหรือสมัครพรรคพวก ความแตกต่างในลักษณะเช่นนั้นมักก่อให้เกิดปัญหาในการทำงานร่วมกับนักธุรกิจในกลุ่มประเทศตะวันตกที่มีลักษณะมีความเป็นส่วนตัวสูง

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มิติความแตกต่างในเรื่องความเป็นส่วนตัว (ปัจเจก/collectivism)หมายถึงการที่บุคคลในแต่ละสังคมมีแนวความคิดและรูปแบบการดำรงชีวิตที่ขึ้นต่อสังคมไม่เท่ากันบางสังคมประชาชนไม่ค่อยคำนึงถึงสังคมหรือความรู้สึกของคนรอบข้าง (ปัจเจก) บุคคลยึดถือในสิทธิตามกฎหมายในขณะที่ประชาชนในวัฒนธรรมที่คำนึงถึงสังคม (collectivism) มีความคิดและการกระทำต่างๆที่คำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่นหรือของกลุ่มมากกว่าคำนึงถึงกฎหมายเพียงอย่างเดียวประชาชนในกลุ่มวัฒนธรรมนี้ส่วนหนึ่งได้รับอิทธิพลจากจีนโดยมีแนวคิดจากขงจื้อ (ลัทธิขงจื้อ) คือการให้ความสำคัญกับครอบครัวและพวกพ้องดังนั้นการตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรจะมีคุณค่าน้อยกว่าความผูกพันแบบเครือญาติหรือสมัครพรรคพวกความแตกต่างในลักษณะเช่นนั้นมักก่อให้เกิดปัญหาในการทำงานร่วมกับนักธุรกิจในกลุ่มประเทศตะวันตกที่มีลักษณะมีความเป็นส่วนตัวสูง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มิติความแตกต่างในเรื่องความเป็น ส่วนตัว (ปัจเจก / คติ)
หมายถึงการที่บุคคลในแต่ละสังคม มีแนวความคิดและรูปแบบการดำรงชีวิตที่ขึ้นต่อสังคมไม่เท่ากันบางสังคมประชาชนไม่ค่อยคำนึงถึงสังคมหรือความรู้สึกของ คนรอบข้าง (ปัจเจก) บุคคลยึดถือในสิทธิตามกฎหมายในขณะ ที่ประชาชนในวัฒนธรรมที่คำนึงถึงสังคม (ส่วนรวม) มีความคิดและการกระทำต่างๆที่ คำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่นหรือของกลุ่มมากกว่าคำนึงถึงกฎหมายเพียงอย่างเดียว ประชาชนในกลุ่มวัฒนธรรมนี้ส่วนหนึ่งได้ รับอิทธิพลจากจีนโดยมีแนวคิดจากขงจื้อ (ขงจื้อ) คือการให้ความสำคัญกับครอบครัวและ พวกพ้องดังนั้นการตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรจะมีคุณค่าน้อยกว่าความผูกพันแบบเครือญาติหรือสมัครพรรคพวก ความแตกต่างในลักษณะเช่นนั้นมัก ก่อให้เกิดปัญหาในการทำงานร่วมกับนักธุรกิจในกลุ่มประเทศตะวันตกที่มีลักษณะมีความเป็นส่วนตัวสูง