Evaporation is the process by which

Evaporation is the process by which water changes from a liquid to a gas or vapor. Evaporation is the primary pathway that water moves from the liquid state back into the water cycle as atmospheric water vapor. Studies have shown that the oceans, seas, lakes, and rivers provide nearly 90 percent of the moisture in the atmosphere via evaporation, with the remaining 10 percent being contributed by plant transpiration.

A very small amount of water vapor enters the atmosphere through sublimation, the process by which water changes from a solid (ice or snow) to a gas, bypassing the liquid phase.

In fact, the process of evaporation removes heat from the environment, which is why water evaporating from your skin cools you.

Evaporation drives the water cycle
Photo of a valley in New Zealand in early morning showing a fog layer in the valley bottom.
Credit: Tim Whittemore
A valley in New Zealand in early morning with fog layer in the valley bottom. Heat from the sun or a dry wind will dissipate the fog soon.
Credit: Tim WhittemoreView the picture full size. View full size
Evaporation from the oceans is the primary mechanism supporting the surface-to-atmosphere portion of the water cycle. After all, the large surface area of the oceans (over 70 percent of the Earth's surface is covered by the oceans) provides the opportunity for large-scale evaporation to occur. On a global scale, the amount of water evaporating is about the same as the amount of water delivered to the Earth as precipitation. This does vary geographically, though. Evaporation is more prevalent over the oceans than precipitation, while over the land, precipitation routinely exceeds evaporation. Most of the water that evaporates from the oceans falls back into the oceans as precipitation. Only about 10 percent of the water evaporated from the oceans is transported over land and falls as precipitation. Once evaporated, a water molecule spends about 10 days in the air. The process of evaporation is so great that without precipitation runoff, and groundwater discharge from aquifers, oceans would become nearly empty.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระเหยเป็นกระบวนการ โดยการเปลี่ยนแปลงที่น้ำจากของเหลวเป็นก๊าซหรือไอ ระเหยเป็นทางเดินหลักที่น้ำย้ายจากสถานะของเหลวไปเป็นวัฏจักรของน้ำเป็นไอน้ำบรรยากาศ ศึกษาแสดงให้เห็นว่า มหาสมุทร ทะเล ทะเลสาบ และแม่น้ำให้เกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ของความชื้นในบรรยากาศผ่านการระเหย มี 10 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือเป็นส่วนร่วม โดยการคายน้ำของพืชจำนวนน้อยมากของไอน้ำเข้าสู่บรรยากาศผ่านการระเหิด การกระบวนการที่น้ำเปลี่ยนจากของแข็ง (น้ำแข็งหรือหิมะ) เป็นก๊าซ ผ่านเฟสของเหลว ในความเป็นจริง กระบวนการระเหยเอาความร้อนจากสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นเหตุให้น้ำระเหยจากผิวเย็นคุณระเหยไดรฟ์วัฏจักรของน้ำภาพของหุบเขาในประเทศนิวซีแลนด์ในช่วงเช้าแสดงชั้นหมอกในหุบเขาด้านล่างเครดิต: Tim Whittemoreหุบเขาในประเทศนิวซีแลนด์ในช่วงเช้า มีหมอกชั้นด้านล่างหุบเขา ความร้อนจากดวงอาทิตย์หรือแห้งลมจะกระจายหมอกเร็ว ๆ นี้เครดิต: Tim WhittemoreView รูปภาพขนาดเต็ม ดูขนาดเต็มระเหยจากมหาสมุทรเป็นกลไกหลักที่สนับสนุนส่วนพื้นผิวบรรยากาศของวัฏจักรของน้ำ หลังจากที่ทุก พื้นที่ผิวขนาดใหญ่ของมหาสมุทร (กว่าร้อยละ 70 ของพื้นผิวโลกถูกปกคลุม ด้วยมหาสมุทร) มีโอกาสระเหยขนาดใหญ่เกิดขึ้น ในระดับโลก ปริมาณของน้ำระเหยจะเท่ากับปริมาณของน้ำที่ถูกส่งไปโลกเป็นฝน นี้แตกต่างกันทางภูมิศาสตร์ แม้ว่า ระเหยเป็นที่แพร่หลายยิ่งกว่ามหาสมุทรกว่าฝน ขณะที่ผ่านที่ดิน ฝนเป็นประจำเกินระเหย ของน้ำที่ระเหยจากมหาสมุทรตกกลับลงในมหาสมุทรเป็นฝน เพียงประมาณร้อยละ 10 ของน้ำระเหยจากมหาสมุทรจะส่งผ่านที่ดิน และตกเป็นฝน เมื่อระเหย โมเลกุลน้ำใช้เวลาประมาณ 10 วันในอากาศ กระบวนการระเหยได้ดีว่า ไม่ มีปริมาณน้ำฝนที่ไหลบ่า และปล่อยน้ำบาดาลจาก aquifers มหาสมุทรจะกลายเป็นเกือบว่างเปล่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การระเหยเป็นกระบวนการที่เปลี่ยนแปลงน้ำจากของเหลวไปเป็นก๊าซหรือไอ การระเหยเป็นเส้นทางหลักที่ย้ายน้ำจากสถานะของเหลวกลับเข้าสู่วัฏจักรของน้ำเป็นไอน้ำในบรรยากาศ มีการศึกษาแสดงให้เห็นว่ามหาสมุทรทะเลทะเลสาบและแม่น้ำให้เกือบร้อยละ 90 ของความชื้นในบรรยากาศผ่านระเหยส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 10 ได้รับการสนับสนุนโดยการคายพืช.

ปริมาณที่น้อยมากของไอน้ำจะเข้าสู่บรรยากาศผ่านระเหิด กระบวนการที่เปลี่ยนแปลงน้ำจาก (น้ำแข็งหรือหิมะ) ที่มั่นคงในการก๊าซผ่านของเหลว.

ในความเป็นจริงกระบวนการของการระเหยเอาความร้อนจากสภาพแวดล้อมซึ่งเป็นเหตุผลที่น้ำระเหยจากผิวของคุณเย็นคุณ.

การระเหยไดรฟ์ วัฏจักรของน้ำ
รูปภาพของหุบเขาในนิวซีแลนด์ในตอนเช้าที่แสดงชั้นหมอกในด้านล่างหุบเขา.
เครดิต: ทิม Whittemore
หุบเขาในนิวซีแลนด์ในตอนเช้ากับมีหมอกในชั้นล่างในหุบเขา ความร้อนจากดวงอาทิตย์หรือลมแห้งจะกระจายหมอกเร็ว ๆ นี้.
เครดิต: ทิม WhittemoreView ภาพขนาดเต็ม ดูขนาดเต็ม
ระเหยจากมหาสมุทรเป็นกลไกหลักในการสนับสนุนส่วนพื้นสู่บรรยากาศของวัฏจักรของน้ำ หลังจากที่ทุกพื้นที่ผิวขนาดใหญ่ของมหาสมุทร (มากกว่าร้อยละ 70 ของพื้นผิวโลกถูกปกคลุมด้วยมหาสมุทร) ให้โอกาสสำหรับขนาดใหญ่ระเหยที่จะเกิดขึ้น ในระดับโลกจำนวนของการระเหยน้ำเป็นเรื่องเดียวกันกับปริมาณน้ำที่ส่งไปยังโลกเป็นปริมาณน้ำฝน นี้ไม่แตกต่างกันทางภูมิศาสตร์แม้ว่า การระเหยเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นกว่ามหาสมุทรเร่งรัดในขณะที่ทั่วแผ่นดินฝนเป็นประจำเกินระเหย ส่วนใหญ่น้ำที่ระเหยจากมหาสมุทรตกกลับลงไปในมหาสมุทรเป็นตกตะกอน เพียงประมาณร้อยละ 10 ของน้ำระเหยจากมหาสมุทรจะถูกส่งทั่วแผ่นดินและตกอยู่ในฐานะการตกตะกอน เมื่อระเหยเป็นโมเลกุลของน้ำใช้เวลาประมาณ 10 วันในอากาศ กระบวนการของการระเหยที่เป็นเพื่อที่ดีว่าไม่มีการไหลบ่าฝนและการปล่อยน้ำบาดาลจากชั้นหินอุ้มน้ำมหาสมุทรจะกลายเป็นเกือบจะว่างเปล่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การระเหย คือ กระบวนการเปลี่ยนแปลง ซึ่งน้ำจากของเหลวเป็นก๊าซหรือไอน้ำ การระเหยน้ำทางเดินหลักที่ย้ายจากสถานะของเหลวกลับเข้าสู่วงจรของน้ำเป็นบรรยากาศไอน้ำ มีการศึกษาแสดงให้เห็นว่าในมหาสมุทร ทะเล ทะเลสาบ และแม่น้ำ ให้เกือบ 90 ร้อยละของความชื้นในบรรยากาศผ่านการระเหย ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 10 ที่ถูกสนับสนุนโดยการคายน้ำของพืชปริมาณที่น้อยมากของไอน้ำในบรรยากาศผ่านระเหิด , กระบวนการที่น้ำเปลี่ยนจากของแข็ง ( น้ำแข็งหรือหิมะ ) ให้ก๊าซผ่านเฟสของเหลวในความเป็นจริง กระบวนการของการระเหยเอาความร้อนจากสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำให้น้ำระเหยจากผิวของคุณ เมื่อคุณการระเหยทำให้วงจรของน้ำภาพถ่ายของหุบเขาในนิวซีแลนด์ในตอนเช้าในชั้นด้านล่างแสดงหมอกหุบเขา < br > เครดิต : ทิม วิธมอร์หุบเขาในนิวซีแลนด์ตอนเช้ากับมีหมอกในชั้นล่างหุบเขา ความร้อนจากดวงอาทิตย์หรือลมแห้งจะกระจายหมอกทันทีเครดิต : ทิม whittemoreview ภาพขนาดเต็ม ดูขนาดเต็มการระเหยจากมหาสมุทรเป็นกลไกสนับสนุนพื้นผิวบรรยากาศส่วนของวัฏจักรของน้ำ หลังจากทั้งหมด , พื้นที่ผิวขนาดใหญ่ของมหาสมุทร ( กว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของพื้นผิวของโลกถูกปกคลุมด้วยมหาสมุทร ) ให้โอกาสการระเหยขนาดใหญ่เกิดขึ้น ในระดับโลก ปริมาณของน้ำที่ระเหยจะพอๆ กับปริมาณของน้ำในดิน เช่น การตกตะกอน นี้ไม่แตกต่างทางภูมิศาสตร์ แม้ว่า การระเหยเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นกว่ามหาสมุทรกว่าฝน ในขณะที่ทั่วแผ่นดิน ฝนตรวจเกินการระเหย ส่วนใหญ่ของน้ำที่ระเหยจากมหาสมุทรตกกลับเข้ามาในมหาสมุทรโดยการตกตะกอน เพียงประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของน้ำที่ระเหยจากมหาสมุทรขนส่งผ่านที่ดิน และตกลงมาเป็นฝน . เมื่อระเหย โมเลกุลน้ำ ใช้เวลาประมาณ 10 วันในอากาศ กระบวนการของการระเหยเป็นอย่างดีว่า ไม่มีฝน น้ำท่า และน้ำไหลจากชั้น มหาสมุทรจะกลายเป็นเกือบว่างเปล่า