actually affect people’s lives, for

actually affect people’s lives, fortunes, and sacred honor, for better of for worse. Making policy, therefore, imposes a moral burden that is heavier than many people care to acknowledge. Thirdly, there is what is sometimes called “the 51-49 principle.” That is, in the thick of the policy fray, we are driven out of pure self-defense to treat 51 percent confidence in our projection as though it deserved 100 percent confidence, with the result that we sometimes mislead not only others but ourselves as well.
Projection = Model + Evidence
In this section I discuss, in a very general way, the logic of combining models and evidence to produce useable projections of

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จริง ๆ แล้ว มีผลต่อประชาชนชีวิต ใหญ่ ๆ และ เกียรติมงคล ดีกว่าของการแย่ลง ทำนโยบาย ดังนั้น กำหนดภาระทางศีลธรรมที่เป็นหนักกว่าที่หลายคนต้องการยอมรับ ประการ มีอะไรบางครั้งเรียกว่า "51-49 หลักการ" นั่นคือ ในหนาของเฟรย์นโยบาย เราเป็นวรรณคดีบริสุทธิ์ป้องกันตนเองเพื่อรักษาความเชื่อมั่นร้อยละ 51 ในประมาณการของเราว่ามันสมควรได้รับ 100 เปอร์เซ็นต์ความเชื่อมั่น มีผลให้เราบางทำให้เข้าใจผิดไม่เท่าผู้อื่นแต่ตนเองเช่นกัน โปรเจคเตอร์ =รุ่น + หลักฐาน ในส่วนนี้ ผมหารือ แบบทั่วไปมาก ตรรกะการรวมรูปแบบและหลักฐานในการผลิตประมาณใช้สอยของ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จริงส่งผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนมั่งคั่งและเกียรติศักดิ์สิทธิ์ให้ดีขึ้นแย่ลงของ ทำนโยบายจึงเป็นภาระทางศีลธรรมที่เป็นหนักกว่าที่หลายคนสนใจที่จะรับทราบ ประการที่สามมีเป็นสิ่งที่บางครั้งเรียกว่า "หลักการ 51-49." นั่นคือในความหนาของการต่อสู้นโยบายเราจะขับออกจากการป้องกันตัวเองบริสุทธิ์ในการรักษาความเชื่อมั่นร้อยละ 51 ในการประมาณการของเราราวกับว่ามันสมควรได้รับร้อยละ 100 ความเชื่อมั่นกับผลที่บางครั้งเราไม่เพียง แต่ทำให้เข้าใจผิดของคนอื่น แต่ตัวเองเช่นกัน.
ฉายรุ่น + =
หลักฐานในส่วนนี้ผมหารือในลักษณะทั่วไปมากตรรกะของรูปแบบการรวมและหลักฐานในการผลิตประมาณการใช้สอย