The prevalence of crib-biting behavior reported in
horses in Europe and Canada is 2.4–8.3% (Vecchiotti and
Galanti, 1986; McGreevy et al., 1995c; Luescher et al.,
1998). Albright et al. (2009) reported an overall crib-biting
prevalence of 4.4% in US horses. Survey studies in the UK
and Canada have demonstrated an association between
various management practices and stereotypic behavior.
For example, a prospective study conducted by Waters
et al. (2002) found that young Thoroughbred and part-
Thoroughbred horses fed concentrate feed post-weaning
were 4 times more likely to develop crib-biting behavior
than foals not receiving concentrate. Weaning method
also has been associated with the performance of stereotypic
behavior including crib-biting. In a recent survey of
management practices implemented on breeding farms
in Europe, North America, and Australia, natural weaning
(mare allowed to wean foal) was associated with a
decrease in the chance of foals developing abnormal behavior (Parker et al., 2008a). Post-weaning housing was also
associated with the performance of abnormal behavior
with decreased risk of abnormal behavior in foals kept
exclusively on grass (Parker et al., 2008a). In eventing and
dressage horses in the UK, increased amounts of time spent
outside the stable were associated with a decreased risk of
stereotypic behavior (McGreevy et al., 1995c). In addition,
Wickens (2009) found a negative relationship between the
daily amount of turn-out and crib-biting behavior. Wickens
(2009) also found that social contact with other horses (i.e.
in the same enclosure) reduced the probability of cribbiting
behavior. Survey studies conducted to investigate
stereotypic behavior in race horses in Sweden (Redbo et
al., 1998), and in Swiss horses of multiple breed types and
ความชุกของพฤติกรรมเปลกัดรายงานใน
ม้าในยุโรปและแคนาดาเป็น 2.4-8.3% (Vecchiotti และ
Galanti 1986; McGreevy, et al, 1995c. Luescher, et al.,
1998) ไบรท์ et al, (2009) รายงานโดยรวมเปลกัด
ชุก 4.4% ในม้าสหรัฐ การศึกษาการสำรวจในสหราชอาณาจักร
และแคนาดาได้แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างการ
ปฏิบัติในการจัดการต่างๆและพฤติกรรม stereotypic.
ยกตัวอย่างเช่นการศึกษาในอนาคตที่ดำเนินการโดย Waters
, et al (2002) พบว่าหนุ่มสาวพันธุ์และ part-
ม้าพันธุ์ดีที่เลี้ยงฟีดเข้มข้นหลังหย่านม
เป็นครั้งที่ 4 มีแนวโน้มที่จะพัฒนาพฤติกรรมเปลกัด
กว่าลูกไม่ได้รับเข้มข้น วิธีการหย่านม
ยังได้รับการที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของ stereotypic
พฤติกรรมรวมทั้งเปลกัด ในการสำรวจล่าสุดของ
แนวทางการบริหารจัดการการใช้งานในฟาร์มเพาะพันธุ์
ในยุโรปอเมริกาเหนือและออสเตรเลียหย่านมธรรมชาติ
(Mare ได้รับอนุญาตให้หย่านมลูก) คือการที่เกี่ยวข้องกับ
การลดลงของโอกาสของลูกพัฒนาพฤติกรรมที่ผิดปกติ (ปาร์กเกอร์ et al., 2008a) . โพสต์หย่านมที่อยู่อาศัยก็ยัง
เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของพฤติกรรมที่ผิดปกติ
มีความเสี่ยงที่ลดลงของพฤติกรรมที่ผิดปกติในลูกเก็บไว้
เฉพาะบนพื้นหญ้า (ปาร์กเกอร์ et al., 2008a) ในประเภทอีเวนติ้งและ
วิธีม้าในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นจำนวนของเวลาที่ใช้
นอกมีเสถียรภาพมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงของ
พฤติกรรม stereotypic (McGreevy et al., 1995c) นอกจากนี้
Wickens (2009) พบว่ามีความสัมพันธ์เชิงลบระหว่าง
จำนวนเงินประจำวันของการเปิดออกและพฤติกรรมเปลกัด Wickens
(2009) นอกจากนี้ยังพบว่าการติดต่อทางสังคมกับม้าอื่น ๆ (เช่น
ในตู้เดียวกัน) ลดลงน่าจะเป็นของ cribbiting
พฤติกรรม การศึกษาสำรวจที่ดำเนินการในการตรวจสอบ
พฤติกรรม stereotypic ในการแข่งม้าในสวีเดน (Redbo et
al., 1998) และในสวิสม้าชนิดพันธุ์ที่หลากหลายและ
การแปล กรุณารอสักครู่..