DosingFoods are commonly cooked in

Dosing

Foods are commonly cooked in safflower oil. There are few clinical trials to support dosage; however, 10 g of oil per day has been used as placebo.

Contraindications

Contraindications have not yet been identified.

Pregnancy/Lactation

Information is limited. Abortifacient and emmenagogue effects have been suggested.

Interactions

None well documented.

Adverse Reactions

Allergy to the flowers has been reported. Safflower oil used in clinical trials as a control appears to be generally well tolerated.



Toxicology

Research reveals little or no information regarding toxicity with the use of safflower oil.

Botany

Safflower is native to the Middle East and is widely cultivated throughout Europe and the United States. This annual reaches approximately 1 m in height with a single, smooth, upright stem. Its shiny oval, spiny-edged leaves alternate around the stem. The plant produces profuse yellow to deep red flowers. Seeds are produced in August and are enclosed in a mass of down. 1

History

Although safflower is recognized primarily as a source of healthy edible oil, traditional uses have not focused on the oil. Rather, safflower was originally valued for the yellow and red dyes yielded by its flowers. These dyes have been used for centuries to color cosmetics and fabrics. The use of safflower extract to dye the wrappings of mummies has been reported. 2 Safflower had been used as a replacement for saffron, but lost its popularity because of its lack of taste. Traditional uses of safflower tea included inducing sweating and reducing fever. The oil has been employed as a laxative and has been used as a solvent in paints. 2

Chemistry

Safflower oil is characterized by the presence of a high proportion of n-6 polyunsaturated fatty acids that include linoleic (approximately 75%), oleic (13%), palmitic (6%), stearic (3%), and other minor straight-chained fatty acids. 3 , 4 , 5 Alpha and gamma tocopherol content has also been described. 6 Although safflower oil is a rich source of linoleic acid, the activity of delta 6-desaturase is required for its conversion to dihomogammalinolenic acid (DHGA) and arachidonic acid. By contrast, evening primrose oil appears to be a more bioavailable source of fatty acids for the production of DHGA than safflower oil. 7

The seeds contain a lignan glycoside known as tracheloside, 8 and serotonin derivatives and their glucosides have been elucidated in the seed extract. 8 , 9

Uses and Pharmacology

Safflower oil is used as a control or comparator agent in many clinical trials and experiments evaluating effects against conditions such as dyslipidemia, diabetes, cardiovascular conditions, and cancer.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กระบวนอาหารโดยทั่วไปโดยทั่วไปต้มในน้ำมันดอกคำฝอย มีบางคลินิกเพื่อสนับสนุนขนาด อย่างไรก็ตาม 10 กรัมน้ำมันต่อวันมีการใช้เป็นยาหลอกข้อห้ามใช้ข้อห้ามใช้ได้ไม่ได้ระบุไว้ตั้งครรภ์/ด้านการให้นมข้อมูลมีจำกัด มีการแนะนำลักษณะ abortifacient และ emmenagogueโต้ตอบไม่จัดดีอาการไม่พึงประสงค์มีการรายงานโรคภูมิแพ้ดอกไม้ น้ำมันดอกคำฝอยที่ใช้ในการทดลองทางคลินิกเป็นตัวควบคุมปรากฏได้โดยทั่วไปจะสมกัน พิษวิทยาวิจัยพบน้อย หรือไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นพิษด้วยการใช้น้ำมันดอกคำฝอยโบตานีดอกคำฝอยพื้นถิ่นของตะวันออกกลาง และมีปลูกกันอย่างแพร่หลายทั่วยุโรปและสหรัฐอเมริกา ปีนี้ถึงประมาณ 1 เมตรในความสูงด้วยก้านเดียว เรียบ ตรง ของเงาวงรี ฟานเหลืองขอบใบอื่นรอบ ๆ ก้าน โรงงานผลิตสีเหลืองสะพรั่งกับดอกไม้สีแดงลึก เมล็ดพันธุ์ที่ผลิตในเดือนสิงหาคม และจะอยู่ในมวลของลง 1ประวัติแม้ว่าดอกคำฝอยเป็นที่รู้จักเป็นหลักเป็นแหล่งของกินน้ำมันเพื่อสุขภาพ ใช้ดั้งเดิมได้ไม่เน้นน้ำมัน ค่อนข้าง ดอกคำฝอยมีคุณค่าเดิมสีเหลือง และสีแดงเต็ม โดยดอกไม้ของ สีเหล่านี้ได้ถูกใช้สำหรับศตวรรษสีเครื่องสำอางและผ้า มีการรายงานการใช้สารสกัดจากดอกคำฝอยรัชน wrappings ของมัมมี่ ดอกคำฝอย 2 ถูกใช้แทนหญ้าฝรั่น แต่หายไปนิยมเนื่องจากการขาดอาหาร ใช้แบบดั้งเดิมของชาสมุนไพรดอกคำฝอยรวม inducing ตากระตุก และลดไข้ น้ำมันมีการจ้างงานเป็นระบาย และใช้เป็นตัวทำละลายในสี 2เคมีน้ำมันดอกคำฝอยเป็นลักษณะของสัดส่วนที่สูงของ n-6 ไขมันกรดไขมันที่มี linoleic (ประมาณ 75%), โอเลอิค (13%), palmitic (6%), stearic (3%), และอื่น ๆ จำนวนตรง-ถูกล่ามโซ่กรดไขมัน 3, 4, 5 แอลฟา และแกมมา tocopherol เนื้อหายังได้อธิบายไว้ 6 แม้ว่าน้ำมันดอกคำฝอยจะเป็นแหล่งอุดมไปด้วยกรด linoleic กิจกรรมของเดลต้า 6 desaturase เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการแปลง dihomogammalinolenic กรด (DHGA) และกรด arachidonic การ โดยคมชัด ฟนิ่งปรากฏเป็น แหล่ง bioavailable มากขึ้นของกรดไขมันในการผลิตของ DHGA กว่าน้ำมันดอกคำฝอย 7เมล็ดประกอบด้วย glycoside lignan ที่เรียกว่า tracheloside, 8 และ serotonin อนุพันธ์ และ glucosides ของพวกเขาได้รับ elucidated ในสารสกัดจากเมล็ด 8, 9ใช้และเภสัชวิทยาน้ำมันดอกคำฝอยจะใช้เป็นตัวแทน comparator ตัวควบคุมในการทดลองทางคลินิกมากมาย และทดลองประเมินผลกับเงื่อนไขเช่นไขมัน เบาหวาน สภาพหัวใจและหลอดเลือด และโรคมะเร็ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ยาอาหารสุกทั่วไปในน้ำมันดอกคำฝอย มีการทดลองทางคลินิกไม่กี่ที่จะสนับสนุนการใช้ยาคือ แต่ 10 กรัมของน้ำมันต่อวันได้รับการใช้เป็นยาหลอก. ห้ามห้ามยังไม่ได้รับการระบุ. การตั้งครรภ์ / ให้นมบุตรข้อมูลที่มี จำกัด ผลกระทบแท้งลูกและยาขับระดูได้รับการแนะนำ. ปฏิสัมพันธ์ไม่มีเอกสารดี. อาการไม่พึงประสงค์แพ้ดอกไม้ที่ได้รับรายงาน น้ำมันดอกคำฝอยที่ใช้ในการทดลองทางคลินิกเป็นตัวควบคุมดูเหมือนจะยอมรับกันโดยทั่วไป. พิษวิทยาการวิจัยแสดงให้เห็นว่าน้อยหรือไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นพิษที่มีการใช้น้ำมันดอกคำฝอย. พฤกษศาสตร์ดอกคำฝอยเป็นชนพื้นเมืองไปยังตะวันออกกลางและมีการปลูกกันอย่างแพร่หลายไปทั่วยุโรปและสหรัฐอเมริกา . ประจำปีนี้ถึงประมาณ 1 เมตรในระดับความสูงที่มีเพียงหนึ่งเดียวเรียบก้านตรง รูปไข่ของมันเงาใบแหลมขอบสลับรอบลำต้น โรงงานผลิตสีเหลืองมากมายดอกไม้สีแดงเข้ม เมล็ดพันธุ์พืชที่ผลิตในเดือนสิงหาคมและจะถูกปิดล้อมอยู่ในมวลของลง 1 ประวัติแม้ว่าดอกคำฝอยได้รับการยอมรับเป็นหลักเป็นแหล่งที่มาของน้ำมันพืชที่มีสุขภาพดี, การใช้งานแบบดั้งเดิมไม่ได้มุ่งเน้นไปที่น้ำมัน แต่ดอกคำฝอยมีมูลค่าเดิมสำหรับย้อมสีเหลืองและสีแดงยอมแพ้โดยดอกไม้ สีย้อมเหล่านี้ได้ถูกนำมาใช้มานานหลายศตวรรษเครื่องสำอางสีและเนื้อผ้า การใช้สารสกัดจากดอกคำฝอยย้อมห่อของมัมมี่ได้รับรายงาน 2 ดอกคำฝอยได้ถูกนำมาใช้แทนสีเหลือง แต่สูญเสียความนิยมของมันเพราะขาดของรสชาติ การใช้งานแบบดั้งเดิมของชาดอกคำฝอยรวมการกระตุ้นให้เกิดการขับเหงื่อและลดไข้ น้ำมันได้รับการว่าจ้างเป็นยาระบายและได้ถูกนำมาใช้เป็นตัวทำละลายในสี 2 เคมีน้ำมันดอกคำฝอยมีเอกลักษณ์เฉพาะด้วยการปรากฏตัวของสัดส่วนที่สูงของกรดไขมัน n-6 ไม่อิ่มตัวที่มีไลโนเลอิก (ประมาณ 75%), โอเลอิก (13%), ปาล์มิติก (6%), สเตีย (3%) และรายย่อยอื่น ๆ ตรงที่ถูกล่ามโซ่กรดไขมัน 3, 4, 5 อัลฟาและแกมมาโทโคฟีรอเนื้อหายังได้รับการอธิบาย 6 แม้ว่าน้ำมันดอกคำฝอยเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยกรดไลโนเลอิกกิจกรรมของเดลต้า 6 desaturase เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการแปลงเพื่อ dihomogammalinolenic กรด (DHGA) และกรด arachidonic ตรงกันข้ามน้ำมันสีเหลืองอ่อนเย็นที่ดูเหมือนจะเป็นแหล่งที่มา bioavailable มากขึ้นของกรดไขมันสำหรับการผลิต DHGA กว่าน้ำมันดอกคำฝอย 7 เมล็ดมี glycoside Lignan ที่รู้จักในฐานะ tracheloside, 8 และอนุพันธ์ serotonin และ glucosides ของพวกเขาได้รับการอธิบายในสารสกัดจากเมล็ด 8, 9 การใช้ประโยชน์และเภสัชวิทยาน้ำมันดอกคำฝอยถูกนำมาใช้เป็นตัวควบคุมหรือตัวแทนเปรียบเทียบในการทดลองทางคลินิกจำนวนมากและการทดลองการประเมินผลกระทบกับสภาพเช่นไขมันในเลือดสูงโรคเบาหวานโรคหัวใจและหลอดเลือดเงื่อนไขและมะเร็ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ยา

อาหารมักปรุงในดอกคำฝอยน้ำมัน มีการทดลองทางคลินิกไม่กี่สนับสนุนยา ; อย่างไรก็ตาม , 10 กรัมของน้ำมันต่อวัน ถูกใช้เป็นยาหลอก ข้อห้ามข้อห้าม



ยังไม่ระบุ การตั้งครรภ์ /
1

ข้อมูลจำกัด และผลที่ได้รับการแนะนำให้ทำแท้ง emmenagogue .



ไม่มีการโต้ตอบเอกสารดี


อาการไม่พึงประสงค์แพ้ดอกไม้ ได้รับรายงานว่า น้ำมันดอกคำฝอยที่ใช้ในการทดลองทางคลินิกเป็นตัวควบคุมจะปรากฏโดยทั่วไปดี tolerated .





พิษวิทยา พบน้อย หรือ ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นพิษด้วยการใช้ดอกคำฝอยน้ำมัน

พฤกษศาสตร์

ดอกคำฝอยเป็นชาวตะวันออกกลาง และปลูกกันอย่างแพร่หลายไปทั่วยุโรปและสหรัฐอเมริกานี้ปีถึงประมาณ 1 เมตรความสูงกับเดียว เรียบ ก้านตรง รูปไข่ขอบหนามของมันเงา ใบเรียงสลับรอบลำต้น โรงงานผลิตสะพรั่งเหลืองดอกแดงเข้ม เมล็ดพันธุ์ที่ผลิตในเดือนสิงหาคม และจะอยู่ในมวลของลง 1

ประวัติ

ถึงแม้ดอกคำฝอยได้รับการยอมรับเป็นหลักเป็นแหล่งที่มาของสุขภาพดีกินน้ํามันดั้งเดิมที่ใช้ต้องไม่เน้นน้ำมัน ค่อนข้าง ดอกคำฝอย เดิมมูลค่าสำหรับสีเหลืองและสีแดงที่มีดอกไม้ของ สีเหล่านี้มีการใช้มานานหลายศตวรรษเพื่อเครื่องสำอางสีและเนื้อผ้า การใช้สารสกัดจากดอกคำฝอยจะย้อมห่อมัมมี่ได้ถูกรายงาน 2 . ดอกคำฝอยมาใช้แทนหญ้าฝรั่นแต่สูญเสียความนิยมเนื่องจากการขาดรสชาติ การใช้แบบดั้งเดิมของชาชงดอกคำฝอยรวมกระตุ้นเหงื่อและลดไข้ น้ำมันที่มีใช้เป็นยาระบาย และถูกใช้เป็นตัวทำละลายในสี 2

เคมี

ดอกคำฝอยน้ำมันมีลักษณะ โดยมีสัดส่วนของกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง ไร้ซึ่งรวมถึงไลโนเลอิก ( ประมาณ 75% ) , oleic ( 13% )( 6% ) stearic acid ( 3% ) และตรงรองอื่น ๆที่ถูกล่ามโซ่กรดไขมัน 3 , 4 , 5 อัลฟาโทโคเฟอรอล และ แกมมา เนื้อหายังได้รับการอธิบาย 6 แม้ว่าน้ำมันดอกคำฝอยซึ่งเป็นแหล่งอุดมไปด้วยกรดไขมัน , กิจกรรมของเดลต้า 6-desaturase เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการแปลง dihomogammalinolenic acid ( dhga ) และกรดอะราคิโดนิก . โดยความคมชัดน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสจะปรากฏในอีกแหล่งของกรดไขมันในการผลิต dhga มากกว่าน้ำมันดอกคำฝอย . 7

เมล็ดประกอบด้วยลิกแนนี้เรียกว่า tracheloside 8 และ serotonin อนุพันธ์และกลูโคไซด์ของพวกเขาได้รับการอธิบายในเมล็ดสารสกัด 8 , 9



ใช้และเภสัชวิทยาน้ำมันดอกคำฝอยใช้เป็นสารควบคุม หรือเปรียบเทียบในการทดลองทางคลินิกหลายและการทดลองประเมินผลกระทบจากภาวะ เช่น ภาวะไขมันในเลือดสูง เบาหวาน ภาวะหลอดเลือดหัวใจ และมะเร็ง