โรคเบาหวาน
เบาหวานเป็นกลุ่มโรคเกี่ยวกับการเผาผลาญอาหารซึ่งมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน น้ำตาลในเลือดสูงก่อให้เกิดอาการปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำและความหิวเพิ่มขึ้น หากไม่ได้รับการรักษา เบาหวานอาจก่อให้เกิดอาการแทรกซ้อนจำนวนมาก ภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลัน ได้แก่ ภาวะเลือดเป็นกรดจากคีโตนจากเบาหวานและโคม่าเนื่องจากออสโมลาร์สูงที่ไม่ได้เกิดจากคีโตน ภาวะแทรกซ้อนระยะยาวที่ร้ายแรงรวมถึงโรคหัวใจ, โรคหลอดเลือดสมอง, ไตวาย, แผลที่เท้าและความเสียหายต่อตา
เบาหวานเกิดจากตับอ่อนผลิตอินซูลินไม่เพียงพอ, หรือเซลล์ร่างกายไม่ตอบสนองอย่างเหมาะสมต่ออินซูลินที่ผลิต, อย่างใดอย่างหนึ่ง เบาหวานมีสามชนิดหลัก ได้แก่
เบาหวานชนิดที่ 1 เกิดจากร่างกายผลิตอินซูลินได้ไม่เพียงพอ แบบนี้อดีตเคยเรียกว่า "เบาหวานชนิดพึ่งอินซูลิน" หรือ "เบาหวานวัยแรกรุ่น" สาเหตุยังไม่ทราบ
เบาหวานชนิดที่ 2 เริ่มขึ้นจากการดื้อต่ออินซูลิน คือ ภาวะที่เซลล์ไม่สามารถตอบสนองต่ออินซูลินอย่างเหมาะสม เมื่อโรคดำเนินไป อาจมีการขาดอินซูลินด้วย แบบนี้อดีตเคยเรียก เบาหวานชนิดไม่พึ่งอินซูลิน หรือ "เบาหวานที่เกิดในผู้ใหญ่" สาเหตุหลักเกิดจากน้ำหนักกายเกินและออกกำลังกายไม่เพียงพอ
เบาหวานระหว่างมีครรภ์ เป็นแบบหลักชนิดที่สาม และเกิดเมื่อหญิงมีครรภ์ซึ่งไม่เคยมีประวัติเบาหวานมาก่อนมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง
การป้องกันและรักษารวมถึงการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ, การออกกำลังกาย, การงดสูบบุหรี่ และการรักษาน้ำหนักกายให้ปกติ การควบคุมความดันโลหิตและการดูแลเท้าอย่างเหมาะสมก็สำคัญต่อผู้ป่วยเช่นกัน เบาหวานชนิดที่ 1 ต้องรักษาด้วยการฉีดอินซูลิน เบาหวานชนิดที่ 2 อาจรักษาด้วยยาพร้อมกับอินซูลินด้วยหรือไม่ก็ได้ อินซูลินและยากินบางชนิดสามารถทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลงได้ การผ่าตัดลดน้ำหนักในผู้ป่วยโรคอ้วนเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 เบาหวานระหว่างมีครรภ์โดยปกติหายได้เองหลังทารกคลอด
ณ ปี 2013 ทั่วโลกมีผู้ป่วยเบาหวานประมาณ 382 ล้านคน โดยมีเบาหวานชนิดที่ 2 ถึง 90% ซึ่งเท่ากับ 8.3% ของประชากรผู้ใหญ่ โดยมีอัตราเท่ากันในหญิงและชาย ในปี 2012 และ 2013 โรคเบาหวานเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1.5 ถึง 5.1 ล้านคนต่อปี เป็นสาเหตุการตายสูงสุดอันดับ 8 โดยรวมแล้วเบาหวานเพิ่มความเสี่ยงการตายอย่างน้อยสองเท่า จำนวนผู้ป่วยเบาหวานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 592 ล้านคนในปี 2035 มูลค่าทางเศรษฐกิจของเบาหวานทั่วโลกที่ประเมินในปี 2013 อยู่ที่ 548 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 245 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในสหรัฐอเมริกาในปี 2012
โรคเบาหวาน
เบาหวานเป็นกลุ่มโรคเกี่ยวกับการเผาผลาญอาหารซึ่งมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานานน้ำตาลในเลือดสูงก่อให้เกิดอาการปัสสาวะบ่อยกระหายน้ำและความหิวเพิ่มขึ้นหากไม่ได้รับการรักษาภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลันได้แก่ภาวะแทรกซ้อนระยะยาวที่ร้ายแรงรวมถึงโรคหัวใจภาวะเลือดเป็นกรดจากคีโตนจากเบาหวานและโคม่าเนื่องจากออสโมลาร์สูงที่ไม่ได้เกิดจากคีโตน ,โรคหลอดเลือดสมองไตวายแผลที่เท้าและความเสียหายต่อตา , ,
เบาหวานเกิดจากตับอ่อนผลิตอินซูลินไม่เพียงพอหรือเซลล์ร่างกายไม่ตอบสนองอย่างเหมาะสมต่ออินซูลินที่ผลิตอย่างใดอย่างหนึ่งเบาหวานมีสามชนิดหลักได้แก่
, ,เบาหวานชนิดที่ 1 เกิดจากร่างกายผลิตอินซูลินได้ไม่เพียงพอแบบนี้อดีตเคยเรียกว่า " เบาหวานชนิดพึ่งอินซูลิน " ค็อค " เบาหวานวัยแรกรุ่น " สาเหตุยังไม่ทราบ
เบาหวานชนิดที่ 2 เริ่มขึ้นจากการดื้อต่ออินซูลินความภาวะที่เซลล์ไม่สามารถตอบสนองต่ออินซูลินอย่างเหมาะสมเมื่อโรคดำเนินไปอาจมีการขาดอินซูลินด้วยแบบนี้อดีตเคยเรียกเบาหวานชนิดไม่พึ่งอินซูลินค็อคสาเหตุหลักเกิดจากน้ำหนักกายเกินและออกกำลังกายไม่เพียงพอ
เบาหวานระหว่างมีครรภ์เป็นแบบหลักชนิดที่สามและเกิดเมื่อหญิงมีครรภ์ซึ่งไม่เคยมีประวัติเบาหวานมาก่อนมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงการป้องกันและรักษารวมถึงการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพการออกกำลังกาย
, ,การงดสูบบุหรี่และการรักษาน้ำหนักกายให้ปกติการควบคุมความดันโลหิตและการดูแลเท้าอย่างเหมาะสมก็สำคัญต่อผู้ป่วยเช่นกันเบาหวานชนิดที่ 1 ต้องรักษาด้วยการฉีดอินซูลินเบาหวานชนิดที่ 2อินซูลินและยากินบางชนิดสามารถทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลงได้การผ่าตัดลดน้ำหนักในผู้ป่วยโรคอ้วนเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่เบาหวานระหว่างมีครรภ์โดยปกติหายได้เองหลังทารกคลอด
2ณ . 2013 ทั่วโลกมีผู้ป่วยเบาหวานประมาณ 382 ล้านคนโดยมีเบาหวานชนิดที่ 2 ถึง 90% ซึ่งเท่ากับ 8.3% ของประชากรผู้ใหญ่โดยมีอัตราเท่ากันในหญิงและชายสามารถและ 2012 2013 โรคเบาหวานเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1.5 ถึง 51 ล้านคนต่อปีเป็นสาเหตุการตายสูงสุดอันดับ 8 โดยรวมแล้วเบาหวานเพิ่มความเสี่ยงการตายอย่างน้อยสองเท่าจำนวนผู้ป่วยเบาหวานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 592 ล้านคนในปี 20352013 อยู่ที่ 548 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและ 245 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในสหรัฐอเมริกาในปี 2012
การแปล กรุณารอสักครู่..