connecting rooms คือห้องพักที่มีเตียงเดี่ยว (a single bed) 1 หลัง ห้องประเภทนี้เหมาะสำหรับพักคนเดียวค่ะ
2.Twin Room ห้องพักที่มีเตียงเดี่ยว 2 หลัง ส่วนใหญ่แล้วเตียงจะวางแยกกัน สำหรับแขกเพียง 2 ท่าน อาจเป็นเพื่อน ญาติพี่น้อง หรือใครที่เราสามารถนอนห้องเดียวกันได้ แต่ถ้าเป็นคู่รักมักจะพักห้อง double room
3.Double Room เป็นห้องพักที่มีเตียงขนาดใหญ่ขึ้นจาก Single Room พักได้ 2 ท่าน
4.Triple Room เป็นห้องพักไว้สำหรับแขกจำนวน 3 ท่าน มักมีเตียงขนาดใหญ่ 1 หลัง และเตียงเดี่ยวอีก 1 หลัง ค่ะ
5.Quadruple Room ห้องพักสำหรับ แขก 4 ท่าน ค่ะ มักมีเตียงขนาดใหญ่ 2 หลัง
6.Studio ห้อง studio หมายถึงห้องที่มีเตียงนอน ห้องนั่งเล่น (parlor) โต๊ะรับประทานอาหาร ฯลฯ อยู่ในตัว โดยที่ไม่ได้แยกห้องออกไป คำนี้ใช้บ่อยกับ apartment หรือ คอนโดมิเนียมค่ะ
7.Connecting Rooms ห้องพัก 2 ห้องที่สามารถเดินทะลุถึงกันได้ มักมีประตูตรงกลางระหว่าง 2 ห้องนั้น
8.Suite ห้อง สวีท ไม่ได้อ่านว่าห้องสูท อย่างที่ใครหลาย ๆ คนเข้าใจนะคะ ห้องประเภทนี้เรื่องราคาไม่ต้องพูดถึง เเพงแน่นอนค่ะ แต่ถ้าเป็นช่วงโปรโมชั่น หรือช่วงจัดรายการของทางโรงแรม คนธรรมดาอย่างเรา ๆ ก็สามารถพักได้เหมือนกันนะคะ เก็บเงินกันหน่อย ห้อง suite แต่ละที่อาจไม่เหมือนกันซะทีเดียวนะคะ บางที่อาจเป็นห้องเดียวแต่มีขนาดใหญ่ หรือบางที่อาจมีห้องแยกสำหรับห้องนอน (bedroom) ห้องนั่งเล่น (parlor) ห้องครัว (kitchen) แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือการตกแต่งอย่างหรูหรา และงดงามค่ะ
9.Cabana คือห้องพักที่มักอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ หรือใกล้สระว่ายน้ำ (pool) และอยู่แยกกับอาคารหลักของโรงแรม บางที่ก็เก๋ดีนะคะสร้างเป็นแบบกระท่อมริมน้ำ ได้บรรยากาศไปอีกแบบค่ะ