Nothing like the state of nature ev

Nothing like the state of nature ever existed and there is absolutely no evidence in history to show the State to have emerged by mutual and deliberate agreement. The Social Contract is impossible. For the history of primitive societies has shown conclusively that men move from status to contract. Hobbes’ claim is just the other way. namely,that men move from contract to state. Nor is man so inherently. Selfish, self-seeking and aggressive as Hobbes has described him. Man is a rational and social being, thoung his irrationality cannot be ignored altogether. Hobbes’ dogma that man is by nature unsocial and an enemy of his kind is diametrically opposed to the Aristotelian dogma, that man is a social animal. Society exists by nature and necessity and if has existed since man made his first appearance on this planet. As man is social he cannot lead an isolated life and his sociability makes him a tational being, co-opertive and sympathetic towards his fellow-men. Hobbes’ ethical and political philosophy is based wholly on egoism and hedonism.

Hobbes described the state of nature as pre-social and pre-political. At he same time, he said that man enjoyed in the state of nature natural rights. Kights always arise in a society. If there is no society, as Hobbes’ state of nature was how could there exist any righta? Every right has a corresponding obligation. But Hobbes’ man in the state of nature had no obligations he did anything that pleased him and possessed anything that he could take and hold against all other. Again according to Hobbes therewas a surrender of rights. But it is against commonsense to believe that man would ever surrender all his rights. Hobbes himself becomes inconsistent when he says that man retained to himself the right of self-preservation. There cannot be complete surrender and then reservation of a right.

A contract is always between two parties it cannot be unilateral or one-sided. Hobbes makes the sovereign the beneficiary of the contract but not party to it And the contract is perpetual and irrevocable. This transaction hardly appeals to human reason. Hobbes also fails to distinguish between the tate and government . He confounds the legal absolutism of the State with govermental absolutism and he does not see that changes in the forms of government do not imply the dissolution of the State.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อะไรเช่นสภาพของธรรมชาติที่เคยอยู่ และไม่แน่นอนในประวัติศาสตร์เพื่อแสดงสถานะจะมีชุมนุมตามข้อตกลงร่วมกัน และเจตนา สัญญาประชาคมเป็นไปไม่ได้ สำหรับประวัติความเป็นมาของสังคมดั้งเดิมได้แสดงเห็นว่า คนไปจากสถานะสัญญา เรียกร้องมัสฮอบส์เป็นเพียงวิธีอื่น ๆ คือ ว่า ชายไปจากสัญญารัฐนั้น ไม่มีคนให้ความ เห็นแก่ตัว ค้นหาตนเอง และก้าวร้าวเป็นมัสฮอบส์ได้กล่าวถึงเขา คนถูกเชือด และสังคมมี thoung irrationality เขาไม่ละเว้นทั้งหมด หลักของมัสฮอบส์ที่มนุษย์ โดยธรรมชาติ unsocial และศัตรูของเขาชนิด เป็น diametrically ตรงข้ามกับความเชื่อ Aristotelian ว่า มนุษย์เป็นสัตว์สังคม สังคมที่มีอยู่ โดยธรรมชาติและความจำเป็นและ ถ้ามีอยู่เนื่องจากคนทำเขาปรากฏครั้งแรกในโลกนี้ เป็นคนที่สังคม เขาไม่นำไปสู่ชีวิตที่แยก และ sociability ของเขาทำให้เขา tational มี บริษัท opertive และเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนคน มัสฮอบส์ปรัชญาจริยธรรม และการเมืองขึ้นทั้งหมดกับ egoism และ hedonismมัสฮอบส์อธิบายสถานะของธรรมชาติเป็นการล่วงหน้าทางสังคม และการเมืองก่อน ที่เขากัน เขากล่าวว่า คนชอบในรัฐธรรมชาติสิทธิธรรมชาติ Kights จะเกิดขึ้นในสังคม ถ้าไม่มีสังคม เป็นของมัสฮอบส์รัฐธรรมชาติ ว่าไม่มี righta ใด ๆ ทุกสิทธิมีข้อผูกมัดที่เกี่ยวข้อง แต่ของมัสฮอบส์มนุษย์ในสภาวะธรรมชาติก็ไม่ผูกพันเขาทำสิ่ง ที่ใจเขาต้องมีอะไรที่เขาสามารถใช้ และเก็บกับอื่น ๆ ทั้งหมด อีกตามมัสฮอบส์ therewas ยอมแพ้สิทธิ แต่กับ commonsense เชื่อว่า มนุษย์จะเคยยอมแพ้สิทธิทั้งหมด มัสฮอบส์เองจะไม่สอดคล้องกันเมื่อเขากล่าวว่า มนุษย์รักษาพระองค์ด้านขวาของ self-preservation ไม่มียอมแพ้สมบูรณ์ แล้วจองสิทธิ์สัญญาได้เสมอระหว่างสองฝ่ายจะไม่เป็นฝ่าย หรือด้านเดียว มัสฮอบส์ทำพ่อผู้รับผลประโยชน์ของสัญญาแต่พรรคไม่ได้ และสัญญาถาวร และเพิกถอนไม่ได้ ธุรกรรมนี้ไม่ดึงดูดให้มนุษย์เหตุผล มัสฮอบส์ยังไม่แยกแยะระหว่างศิลป์และรัฐบาล เขา confounds อันทรงภูมิธรรมทางกฎหมายของรัฐ ด้วย govermental อันทรงภูมิธรรม และเขาไม่เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบของรัฐบาลไม่ได้เป็นการยุบรัฐ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อะไรเช่นรัฐของธรรมชาติที่มีอยู่เดิมและมีอย่างไม่มีหลักฐานในประวัติศาสตร์ที่แสดงให้รัฐที่จะได้เกิดจากข้อตกลงร่วมกันและโดยเจตนา สัญญาสังคมเป็นไปไม่ได้ สำหรับประวัติของสังคมดั้งเดิมได้แสดงให้เห็นแน่ชัดว่าคนที่ย้ายจากสถานะที่จะทำสัญญา การเรียกร้องของฮอบส์เป็นเพียงวิธีการอื่น ๆ คือว่าคนที่ย้ายจากสัญญารัฐ ไม่เป็นคนอื่น ๆ โดยเนื้อแท้ เห็นแก่ตัวเห็นแก่ตัวและก้าวร้าวเป็นฮอบส์ได้อธิบายให้เขา มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเหตุผลและสังคม Thoung เหตุผลของเขาไม่สามารถปฏิเสธโดยสิ้นเชิง ความเชื่อของฮอบส์ที่เป็นคนไม่พูดมากโดยธรรมชาติและศัตรูของชนิดของเขาคือการต่อต้านกับความเชื่ออริสโตเติ้ที่ว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคม สังคมที่มีอยู่ตามธรรมชาติและความจำเป็นและถ้ามีมาตั้งแต่คนที่ปรากฏตัวครั้งแรกของเขาบนโลกใบนี้ ในฐานะที่เป็นมนุษย์เป็นสังคมที่เขาไม่สามารถนำไปสู่ชีวิตที่โดดเดี่ยวและเป็นกันเองของเขาทำให้เขาเป็น tational ร่วม opertive และความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนคนของเขา ฮอบส์จริยธรรมและปรัชญาการเมืองทั้งหมดจะขึ้นอยู่ในความเห็นแก่ตัวและความสุขนิยม. ฮอบส์อธิบายสภาพของธรรมชาติในขณะที่ก่อนทางสังคมและทางการเมืองก่อน ในเวลาเดียวกันเขาเขากล่าวว่าคนที่มีความสุขอยู่ในสถานะของสิทธิตามธรรมชาติธรรมชาติ Kights มักจะเกิดขึ้นในสังคม หากมีสังคมไม่เป็นฮอบส์สภาพของธรรมชาติเป็นวิธีการที่อาจมีอยู่ righta ใด ๆ สิทธิที่ทุกคนมีภาระหน้าที่ที่สอดคล้องกัน แต่คนของฮอบส์ในรัฐของธรรมชาติมีข้อผูกพันที่เขาไม่ได้ทำอะไรที่พอใจเขาและมีอะไรที่เขาจะต้องใช้เวลาและถือกับอื่น ๆ ทั้งหมด อีกครั้งตามฮอบส์ therewas ยอมจำนนของสิทธิ แต่มันผิด commonsense ที่จะเชื่อว่าคนที่เคยจะสละสิทธิของเขาทั้งหมด ฮอบส์จะกลายเป็นตัวเองที่ไม่สอดคล้องกันเมื่อตอนที่เขาบอกว่าคนที่เก็บไว้กับตัวเองที่ถูกต้องของการเก็บรักษาด้วยตนเอง มีไม่ยอมจำนนสมบูรณ์สามารถแล้วจองสิทธิ. สัญญาอยู่เสมอระหว่างสองฝ่ายจะไม่สามารถข้างเดียวหรือด้านเดียว ฮอบส์ทำให้อธิปไตยผู้รับผลประโยชน์ของสัญญา แต่ไม่ไปงานปาร์ตี้และสัญญาตลอดและไม่สามารถเพิกถอน การทำธุรกรรมนี้แทบจะไม่สนใจให้เหตุผลของมนุษย์ ฮอบส์ยังไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่าง tate และรัฐบาล เขาทำลายสมบูรณาญาสิทธิราชย์ตามกฎหมายของรัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่มีสังกัดรัฐและเขาไม่เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบของรัฐบาลไม่ได้หมายความถึงการสลายตัวของรัฐ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไม่มีอะไรที่เหมือนกับสภาพของธรรมชาติที่เคยมีอยู่ และไม่มีหลักฐานในประวัติศาสตร์ที่จะแสดงสถานะที่จะเกิดขึ้นจากข้อตกลงร่วมกัน และสุขุม สัญญาสังคม เป็นไปไม่ได้ สำหรับประวัติความเป็นมาของสังคมดั้งเดิมได้ข้อสรุปว่า คนย้ายจากสถานะสัญญา ฮอบส์ ' เรียกร้องเป็นเพียงวิธีอื่น ๆ คือว่าคนย้ายจากสัญญาของรัฐหรือเป็นมนุษย์ ดังนั้น โดยเนื้อแท้ . เห็นแก่ตัวด้วยตนเองการแสวงหาและก้าวร้าวเป็นฮอบส์ได้อธิบายเขา คนถูกเชือด และทางสังคม ทวงความไม่มีเหตุผลของเขาไม่สามารถปฏิเสธทั้งหมด ฮอบส์ ' เชื่อผู้ชายโดยธรรมชาติ unsocial และศัตรูของชนิดของมันคือตรงข้ามกันกับความเชื่อของอริสโตเติลว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคมสังคมที่มีอยู่ตาม ธรรมชาติ และ ความจำเป็น และหากมีอยู่ตั้งแต่มนุษย์ทำให้การปรากฏตัวครั้งแรกของเขาบนโลกใบนี้ เป็นมนุษย์มีสังคม เขาไม่สามารถนำชีวิตที่แยกการรับรู้ของเขาทำให้เขาถูก tational , CO และ opertive สงสารลูกน้องของเค้า ฮอบส์ ' จริยธรรมและปรัชญาพื้นฐานทั้งหมดอหังการและสุขนิยม .

ฮอบส์อธิบายสภาพของธรรมชาติก่อนก่อนและสังคมการเมือง เวลาที่เขาเหมือนกัน เขาบอกว่าผู้ชายที่ชอบในรัฐธรรมชาติสิทธิ kights มักจะเกิดขึ้นในสังคม ถ้าไม่มีสังคม เช่น ฮอบส์ ' สภาพของธรรมชาติเป็นยังไง มีอะไร righta ? ทุก ๆ ด้านขวามีภาระหน้าที่ที่สอดคล้องกันแต่ฮอบส์ ' มนุษย์ในสภาวะธรรมชาติ ไม่มีภาระหน้าที่ที่เขามีอะไรที่ถูกใจเขา และมีอะไรที่เขาอาจจะค้างกับทั้งหมดอื่น ๆ อีกครั้งตามฮอบส์และสละสิทธิ แต่มันผิดจริง เชื่อว่าทุกคนก็คงเคยสละสิทธิของเขาทั้งหมดฮอบส์เองจะแย้งเมื่อเขากล่าวว่าเขาเก็บไว้กับตัวเองที่เหมาะสมของการเก็บรักษาด้วยตนเอง มีไม่สามารถยอมแพ้ ให้สมบูรณ์ แล้วให้จองสิทธิ เสมอ

สัญญาระหว่างทั้งสองฝ่ายไม่ใช่ฝ่ายเดียวหรือฝ่ายเดียว ฮอบส์ให้ประเทศผู้รับสัญญา แต่ไม่ได้เลี้ยงมัน และสัญญาถาวรและเปลี่ยนแปลงไม่ได้รายการนี้แทบจะทำให้เหตุผลของมนุษย์ ฮอบส์ยังล้มเหลวที่จะแยกแยะระหว่าง เทต และรัฐบาล เขา confounds พวกทรราชทางกฎหมายของรัฐที่มีการปกครองแบบเผด็จการ และการปรับปรุงแก้ไข เขาไม่เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบของรัฐบาลไม่ได้บ่งบอกถึงการสลายตัวของรัฐ