not produce any antimicrobial activ

not produce any antimicrobial activity. However, only sevengenera showed antimicrobial activity against the pathogenic
fungus A. niger.B. subtilis D10 showed the strongest antifungal activity fol-lowed by E. coli D2 producing 40 and 30 mm inhibition zone,respectively against A. niger (Fig. 7). B. subtilis (D10) andE. coli (D2) showed inhibitory actions against the three testedmicrobes. These results were supported by several studieswhich indicated the efficient antimicrobial activity of soil bacteria specially the Bacilli. In this connection, Aunpad and NaBangchang (2007) concluded that Bacillus pumilus isolatedfrom the soil of Thailand produced new antimicrobial peptidewith broad spectrum antibacterial activity including MRSA.The compound has potential for use as an alternative antibacterial agent for the treatment of infection with MRSA. Furthermore, the antimicrobial compound subtilin produced by B. subtilis was found to be effective against the commonly
occurring gram positive S. aureus and Gram negative E. coli(Beima et al., 2002; Dhanapathi et al., 2008).
Bacillus sp. isolated from soil showed antimicrobial activity against some pathogenic fungi (Sclerotium rolfsii, F. oxysporum and Rhizoctonia solani) and the pathogenic bacteria Saureus (Ghai et al., 2007). In addition, B. subtilis produce antifungal peptides (Iturine) which have been used as biocontrol agents (Levenfors et al., 2004; Chung et al., 2005).
Also, some lactic acid bacteria (Magnusson et al., 2003) and other Bacillus sp. (Yilmaz et al., 2005) produced antifungal
substances. Whereas, E. coli produced chitinase enzyme which dissolve the wall of the pathogenic fungus F. oxysporum which cause wilt disease in Cucumber (Soohee and Dal, 2007).
Five fungal species were isolated from the mixture of soil and saliva which were Chaetomium globosum (F1), Fusarium
oxysorum (F2), Aspergillus biplane (F3), Cochliobolus lanatus (F4) and Emericella nidulans (F5). The fungal suspensions of
the isolates showed efficient antagonistic activities against the two tested pathogenic bacteria and completely prevent their
growth on solid media (Fig. 8). At the same time, the fungal suspensions present in the agar well have been grown vigor-
ously indicating their ability to prevent the pathogenic bacteria from nutrients and consequently prevent their growth and
reproduction (Berg et al., 1994). In contrast, the fungal isolates could not counteract the pathogenic tested fungus A. niger, although, its growth was inhibited by the filtrate of fungi iso-

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไม่ทำกิจกรรมใด ๆ ต้านจุลชีพ อย่างไรก็ตาม เท่านั้น sevengenera พบกิจกรรมต้านจุลชีพตามที่ทำให้เกิดโรคเชื้อรา A. ไนเจอร์ B. subtilis D10 พบกิจกรรมที่แข็งแกร่งต้านเชื้อรา fol lowed โดย E. coli D2 ผลิต 30 และ 40 มม.ยับยั้งโซน ตามลำดับกับ A. ไนเจอร์ (7 รูป) AndE B. subtilis (D10) coli (D2) แสดงให้เห็นว่าการกระทำ inhibitory กับ testedmicrobes สาม ผลลัพธ์เหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจาก studieswhich ระบุประสิทธิผลกิจกรรมต้านจุลชีพของแบคทีเรียในดินเป็นพิเศษหนา ในการนี้ Aunpad และ NaBangchang (2007) สรุปว่า แบคทีเรีย pumilus isolatedfrom ดินไทยผลิตใหม่ peptidewith ต้านจุลชีพสเปกตรัมแบคทีเรียรวมทั้ง MRSA สารประกอบที่มีศักยภาพสำหรับใช้เป็นตัวแทนต้านแบคทีเรียทางเลือกสำหรับการรักษาโรคติดเชื้อ MRSA นอกจากนี้ subtilin สารต้านจุลชีพที่ผลิต โดย B. subtilis พบว่ามีประสิทธิภาพต่อการทั่วไปเกิดกรัมหมอเทศข้างลาย S. บวกและกรัมลบ E. coli (Beima et al. 2002 Dhanapathi et al. 2008)เอสพีบาซิลลัสที่แยกได้จากดินพบกิจกรรมต้านจุลชีพต่อเชื้อราบางอย่างทำให้เกิดโรค (Sclerotium rolfsii, F. oxysporum และ Rhizoctonia solani) และแบคทีเรียก่อโรค Saureus (Ghai et al. 2007) นอกจากนี้ B. subtilis ผลิตเปปไทด์ต้านเชื้อรา (Iturine) ซึ่งมีการใช้ตัวแทน biocontrol (Levenfors et al. 2004 Chung et al. 2005)นอกจากนี้ บางแบคทีเรียกรดแลคติก (Magnusson et al. 2003) และอื่น ๆ แบคทีเรียเอสพี (Yilmaz et al. 2005) ผลิตเชื้อราสาร ในขณะที่ โคไลผลิต เอนไซม์ chitinase ซึ่งละลายผนัง oxysporum F. เชื้อราก่อโรคซึ่งทำให้ เหี่ยวเฉาโรคในแตงกวา (Soohee และดาล 2007) ห้าชนิดเชื้อราที่แยกได้จากส่วนผสมของดินและน้ำลายซึ่งเป็น Chaetomium globosum (F1), Fusariumoxysorum (F2), Aspergillus biplane (F3), Cochliobolus lanatus (F4) และ Emericella nidulans (F5) การแขวนลอยเชื้อราการการแยกแสดงให้เห็นว่าประสิทธิผลเป็นปรปักษ์กิจกรรมกับสองทดสอบแบคทีเรียก่อโรค และป้องกันอย่างสมบูรณ์ของพวกเขาเจริญเติบโตบนไม้สื่อ (8 รูป) ในเวลาเดียวกัน สารแขวนลอยเชื้อราที่อยู่ในอาหารอย่างดีได้รับการปลูกแข็ง-ously ที่แสดงความสามารถในการป้องกันเชื้อแบคทีเรียทำให้เกิดโรคจากสารอาหาร และป้องกันการเติบโตของผล และการทำซ้ำ (Berg et al. 1994) เปรียบ การแยกเชื้อราอาจไม่ถอนเชื้อราผ่านการทดสอบเชื้อ A. ไนเจอร์ แม้ว่า เจริญเติบโตถูกยับยั้ง โดย filtrate ของเชื้อ iso-

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ได้ผลิตฤทธิ์ต้านจุลชีพใด ๆ แต่เพียง sevengenera แสดงให้เห็นฤทธิ์ต้านจุลชีพกับที่ทำให้เกิดโรค
เชื้อรา A. niger.B subtilis D10 แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมที่แข็งแกร่งเชื้อรา Fol-lowed โดย E. coli D2 ผลิต 40 และ 30 บริเวณยับยั้งมิลลิเมตรตามลำดับกับเอไนเจอร์ (รูปที่. 7) B. subtilis (D10) Ande coli (D2) แสดงให้เห็นว่าการดำเนินการยับยั้งสาม testedmicrobes ผลลัพธ์เหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากหลาย studieswhich ระบุ EF Fi กิจกรรมประสิทธิภาพยาต้านจุลชีพของเชื้อแบคทีเรียในดินโดยเฉพาะแบคทีเรีย ในการเชื่อมต่อนี้ Aunpad และ NaBangchang (2007) ได้ข้อสรุปว่า Bacillus pumilus ที่แยกดินแห่งประเทศไทยที่ผลิตยาต้านจุลชีพ peptidewith สเปกตรัมฤทธิ์ต้านแบคทีเรียใหม่ ๆ รวมถึง MRSA.The สารประกอบที่มีศักยภาพสำหรับใช้เป็นตัวแทนต้านเชื้อแบคทีเรียทางเลือกสำหรับการรักษาโรคติดเชื้อเชื้อ MRSA นอกจากนี้สารต้านจุลชีพ subtilin ผลิตโดย B. subtilis พบว่ามีผลต่อการทั่วไป
ที่เกิดขึ้นกรัมบวก S. aureus และแกรมเชิงลบ E. coli (Beima, et al., 2002;. Dhanapathi et al, 2008).
Bacillus SP ที่แยกได้จากดินที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเชื้อราที่ทำให้เกิดโรค (Sclerotium rolfsii เอฟ oxysporum และ Rhizoctonia solani) และเชื้อแบคทีเรียก่อโรค Saureus (Ghai et al., 2007) นอกจากนี้บี subtilis ผลิตเปปไทด์ต้านเชื้อรา (Iturine) ซึ่งได้รับการใช้เป็นตัวแทนการควบคุมทางชีวภาพ (Levenfors et al, 2004;.. จุง, et al, 2005).
นอกจากนี้บางแบคทีเรียกรดแลคติก (. แมกนัส, et al, 2003) และ Bacillus SP อื่น ๆ (Yilmaz et al., 2005) การผลิตเชื้อรา
สาร ขณะที่เชื้อ E. coli ผลิตเอนไซม์ไคติเนสที่ละลายผนังของเชื้อราที่ทำให้เกิดโรค F. oxysporum ที่ทำให้เกิดโรคเหี่ยวในแตงกวา (Soohee และ Dal, 2007). the
ห้าสายพันธุ์ของเชื้อราที่แยกได้จากส่วนผสมของดินและน้ำลายซึ่งเป็น Chaetomium globosum (ที่ F1), เชื้อรา Fusarium
oxysorum (F2) Aspergillus เครื่องบิน (F3) Cochliobolus lanatus (F4) และ nidulans Emericella (F5) แขวนลอยเชื้อรา
ไอโซเลทพบกิจกรรมปฏิปักษ์ EF Fi เพียงพอกับสองเชื้อแบคทีเรียก่อโรคผ่านการทดสอบและสมบูรณ์ป้องกันของพวกเขา
เจริญเติบโตในสื่อที่เป็นของแข็ง (รูปที่. 8) ในเวลาเดียวกัน, แขวนลอยเชื้อราในปัจจุบันได้เป็นอย่างดีวุ้นได้รับการปลูก vigor-
ously แสดงให้เห็นความสามารถในการป้องกันไม่ให้เชื้อแบคทีเรียก่อโรคจากสารอาหารและจึงป้องกันการเจริญเติบโตของพวกเขาและ
การทำสำเนา (Berg et al., 1994) ในทางตรงกันข้ามสายพันธุ์เชื้อราไม่สามารถต่อสู้กับที่ทำให้เกิดโรคเชื้อราทดสอบ A. ไนเจอร์แม้ว่าการเจริญเติบโตของถูกยับยั้งโดย ltrate Fi ของเชื้อรา iso-

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฤทธิ์ต้านจุลชีพที่ผลิตใด ๆ อย่างไรก็ตาม เพียง sevengenera แสดงฤทธิ์ต้านจุลชีพต่อเชื้อโรคเชื้อรา A . niger . B . subtilis D10 ให้แข็งแกร่งในกิจกรรม lowed fol โดย E . coli D2 ผลิต 40 และ 30 มม. บริเวณยับยั้งตามลำดับกับ A . niger ( รูปที่ 7 ) B . subtilis ( D10 ) Ande . โคไล ( D2 ) พบการกระทำยับยั้งกับสาม testedmicrobes . ผลลัพธ์เหล่านี้ได้รับการสนับสนุนโดยหลาย studieswhich พบ EF จึง cient กิจกรรมการยับยั้งเชื้อแบคทีเรียจากดินพิเศษ . ในการเชื่อมต่อนี้ aunpad และ nabangchang ( 2550 ) สรุปได้ว่า บาซิลลัส พูมิลัสที่แยกจากดินไทยผลิตยาใหม่ peptidewith สเปกตรัมกว้างกิจกรรมรวมทั้งเชื้อแบคทีเรีย MRSA สารประกอบที่มีศักยภาพเพื่อใช้เป็นตัวแทนต้านเชื้อแบคทีเรียทางเลือกสำหรับการรักษาเชื้อ MRSA นอกจากนี้ สารต้านเชื้อจุลินทรีย์ B . subtilis subtilin ที่พบจะมีประสิทธิภาพต่อทั่วไปเกิดขึ้นกรัมบวกและ S . aureus แบคทีเรียแกรมลบ Escherichia coli ( beima et al . , 2002 ; dhanapathi et al . , 2008 )Bacillus sp . ที่แยกได้จากดิน พบฤทธิ์ต้านจุลชีพก่อโรคเชื้อรา ( Sclerotium rolfsii กับบาง , F . oxysporum และ เชื้อรา และเชื้อแบคทีเรีย saureus ( เซี่ยงไฮ้ - et al . , 2007 ) นอกจากนี้ , B . subtilis ผลิตเชื้อราเปปไทด์ ( iturine ) ซึ่งได้ถูกใช้เป็นสารไบโอคอนโทรล ( levenfors et al . , 2004 ; ชอง et al . , 2005 )นอกจากนี้บางแบคทีเรียกรดแล็กติก ( แมกนัส น et al . , 2003 ) และ Bacillus sp . ( ô et al . , 2005 ) ที่ผลิตสารต้านเชื้อราสาร ส่วน E . coli ผลิตเอนไซม์ไคติเนสที่ละลายกำแพงของโรคเชื้อราสาเหตุโรคเหี่ยวใน F . oxysporum ที่แตงกวา ( soohee กับดัล , 2007 )ห้าชนิดของเชื้อราที่แยกได้จากส่วนผสมของดินและ Chaetomium globosum น้ำลายซึ่งมี ( F1 ) , ฟูซาเรียมoxysorum ( F2 ) , Aspergillus เครื่องบินปีกสองชั้น ( F3 ) , cochliobolus lanatus ( F4 ) และติด nidulans ( F5 ) การรับน้ำหนักของเชื้อราที่แยกได้พบตัวจึง cient ปฏิปักษ์กิจกรรมกับสองทดสอบเชื้อแบคทีเรียอย่างสมบูรณ์และป้องกันพวกเขาการเจริญเติบโตในสื่อที่เป็นของแข็ง ( รูปที่ 8 ) ใน เวลาเดียวกัน ที่แขวนลอยอยู่ในวุ้นเชื้อราได้ดี มีความแข็งแรง โต -ously แสดงความสามารถของพวกเขาเพื่อป้องกันไม่ให้แบคทีเรียก่อโรคจากรังและจึงป้องกันการเจริญเติบโตของพวกเขาและการสืบพันธุ์ ( Berg et al . , 1994 ) ในทางตรงกันข้าม , แยกเชื้อราไม่สามารถต่อต้านเชื้อโรคทดสอบเชื้อรา A . niger , ถึงแม้ว่า , การเจริญเติบโตของมันถูกยับยั้งโดย ltrate จึง ISO - เชื้อรา