Figs. 1 and 3 show that at larger v

Figs. 1 and 3 show that at larger vocabulary sizes, there was a tendency for infants to listen longer to the consistent test items than to the violation test items (i.e., negative listening time difference scores). That is, infants with larger vocabularies tended toward a familiarity preference. According to Hunter and Ames’s (1988) model of infant attention, familiarity preferences are likely to occur when infants perform difficult tasks and when learning is not yet firmly established; they attend longer to test items that are consistent with ongoing learning. In contrast, when learning is robust, infants tend to display novelty preferences, seeking out stimuli that differ from the information they have already processed thoroughly (Houston-Price & Nakai, 2004; Hunter & Ames, 1988; Hunter, Ames, & Koopman, 1983). It is possible that infants with large vocabularies are starting to show a familiarity preference, indicating emerging learning. There is evidence from prior phonotactic learning tasks that both novelty and familiarity preferences can indicate learning (Chambers et al., 2011; Saffran & Thiessen, 2003). We must be cautious in our interpretation of a potential familiarity preference because the infants with large vocabularies did not reliably differentiate the test items and, therefore, did not display reliable evidence of learning. Furthermore, the lack of a reliable preference could have occurred because of the wide spread of responses in the high-vocabulary group, contributing to the challenge of interpreting the results. However, it is clear that only the infants with the smallest vocabularies differentiated the consistent versus violation test items, exhibiting the novelty preference that is indicative of robust learning.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มะเดื่อ. 1 และ 3 แสดงว่าที่มีขนาดใหญ่คำศัพท์ มีแนวโน้มสำหรับทารกฟังอีกต่อไปการตรวจสอบสินค้ากว่าทดสอบสินค้าการละเมิด (เช่น ลบฟังความแตกต่างคะแนนเวลา) นั่นคือ ทารกที่ มีขนาดใหญ่กว่าศัพท์แนวโน้มไปสู่การกำหนดลักษณะของความคุ้นเคย ตามฮันเตอร์และของเอมส์ (1988) แบบจำลองของความสนใจทารก ชอบคุ้นเคยมักจะเกิดขึ้นเมื่อทารกทำงานยากและเมื่อเรียนไม่ได้แต่มั่นสร้าง พวกเขาเข้าร่วมอีกต่อไปการทดสอบสินค้าที่สอดคล้องกับการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตรงกันข้าม เมื่อการเรียนรู้มีประสิทธิภาพ ทารกมีแนวโน้มการ แสดงแปลกใหม่การตั้งค่า หาสิ่งเร้าที่แตกต่างจากข้อมูลที่มีอยู่สามารถถูกประมวลผลอย่างละเอียด (ฮูสตันราคา & Nakai, 2004 ฮันเตอร์และเอมส์ 1988 ฮันเตอร์ เอมส์ และ Koopman, 1983) เป็นไปได้ว่า ทารกกับศัพท์ใหญ่กำลังเริ่มเอียงความคุ้นเคย ระบุว่า เกิดการเรียนรู้ มีหลักฐานจาก phonotactic ก่อนการเรียนรู้งานที่แปลกใหม่และความคุ้นเคยลักษณะสามารถบ่งชี้การเรียนรู้ (Chambers et al. 2011 Saffran & เลสเบี้ยน 2003) เราต้องระมัดระวังในการตีความมีความต้องการอาจเกิดความคุ้นเคยของเรา เพราะทารกกับศัพท์ใหญ่ไม่ได้แยกรายการทดสอบ และ ดังนั้น ไม่แสดงหลักฐานที่เชื่อถือได้ของการเรียนรู้ นอกจากนี้ การขาดการกำหนดลักษณะที่เชื่อถือได้อาจเกิดขึ้นเนื่องจากกว้างของการตอบในกลุ่มคำศัพท์สูง เอื้อต่อความท้าทายในการแปลผลได้ อย่างไรก็ตาม เป็นที่ชัดเจนว่า เฉพาะทารกที่ มีคำศัพท์ที่เล็กที่สุดที่แตกต่างสอดคล้องกับการละเมิดการทดสอบรายการ แสดงการกำหนดลักษณะแปลกใหม่ที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งการเรียนรู้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มะเดื่อ 1 และ 3 แสดงให้เห็นว่าคำศัพท์ที่มีขนาดขนาดใหญ่มีแนวโน้มสำหรับทารกที่จะฟังอีกต่อไปรายการทดสอบที่สอดคล้องกันมากกว่าที่จะทดสอบรายการที่ละเมิด (เช่นเวลาการฟังเชิงลบคะแนนแตกต่างบริการ) นั่นคือทารกที่มีคำศัพท์ที่มีขนาดใหญ่มีแนวโน้มไปสู่การตั้งค่าความคุ้นเคย ตามที่ฮันเตอร์และอาเมสของ (1988) รูปแบบของความสนใจของเด็กการตั้งค่าความคุ้นเคยมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นเมื่อทารกปฏิบัติงานที่ยากและเมื่อการเรียนรู้ยังไม่มั่นคง; พวกเขาเข้าร่วมอีกต่อไปเพื่อทดสอบรายการที่มีความสอดคล้องกับการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ในทางตรงกันข้ามเมื่อการเรียนรู้เป็นไปอย่างแข็งแกร่งทารกมีแนวโน้มที่จะแสดงการตั้งค่าความแปลกใหม่ที่กำลังมองหาสิ่งเร้าที่แตกต่างจากข้อมูลที่พวกเขาได้ดำเนินการอยู่แล้วอย่างทั่วถึง (ฮุสตันราคา & Nakai 2004; & เธ่เอมส์ 1988; ฮันเตอร์, อาเมสและคูปแมน, 1983) เป็นไปได้ว่าทารกที่มีคำศัพท์ที่มีขนาดใหญ่จะเริ่มต้นที่จะแสดงการตั้งค่าความคุ้นเคยกับการแสดงให้เห็นการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นใหม่ มีหลักฐานจากงานการเรียนรู้ phonotactic ก่อนที่ทั้งแปลกใหม่และการตั้งค่าความคุ้นเคยสามารถบ่งบอกถึงการเรียนรู้ (Chambers et al, 2011;. & Saffran Thiessen, 2003) เราจะต้องระมัดระวังในการตีความของการตั้งค่าความคุ้นเคยที่มีศักยภาพของเราเพราะทารกที่มีคำศัพท์ที่มีขนาดใหญ่ไม่น่าเชื่อถือแตกต่างข้อสอบและดังนั้นจึงไม่ได้แสดงหลักฐานที่น่าเชื่อถือของการเรียนรู้ นอกจากนี้การขาดการตั้งค่าความน่าเชื่อถืออาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากการแพร่กระจายกว้างของการตอบสนองในกลุ่มสูงคำศัพท์ที่เอื้อต่อความท้าทายของการตีความผล แต่ก็เป็นที่ชัดเจนว่ามีเพียงเด็กทารกที่มีคำศัพท์ที่เล็กที่สุดแตกต่างสอดคล้องกับรายการทดสอบการละเมิดการแสดงการตั้งค่าความแปลกใหม่ที่เป็นตัวบ่งชี้ของการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มะเดื่อ . 1 และ 3 พบว่า ที่ขนาดคำศัพท์ขนาดใหญ่ แต่มีแนวโน้มสำหรับทารกฟังอีกต่อไปในรายการทดสอบที่สอดคล้องกันมากกว่าการละเมิดข้อทดสอบ ( เช่น ลบคะแนนการฟังความแตกต่างครั้ง ) นั่นคือ ทารกที่มีคำศัพท์ขนาดใหญ่มีแนวโน้มของความคุ้นเคยความชอบ ตาม ฮันเตอร์ และ เอม ( 1988 ) รูปแบบของความสนใจของทารก ลักษณะความคุ้นเคยมักเกิดขึ้นเมื่อทารกแสดงงานยาก และเมื่อเรียนรู้ที่ยังไม่ได้ก่อตั้งขึ้นอย่างมั่นคง พวกเขาเข้าร่วมอีกต่อไปเพื่อทดสอบรายการที่สอดคล้องกับการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ในทางตรงกันข้าม เมื่อการเรียนรู้ที่แข็งแกร่ง , ทารกมีแนวโน้มที่จะแสดงการตั้งค่าแปลกแสวงหาสิ่งเร้าที่แตกต่างจากข้อมูลที่ได้ประมวลผลอย่างละเอียด ( ฮุสตัน ราคา และ นากา , 2004 ; ฮันเตอร์ & เอม , 1988 ; ล่า , เอมส์แอนด์คุ๊ปมันส์ , 1983 ) เป็นไปได้ว่า ทารกที่มีคำศัพท์ขนาดใหญ่เริ่มแสดงความคุ้นเคยความชอบ ระบุว่า เกิดการเรียนรู้ มีหลักฐานจากก่อน phonotactic การเรียนรู้งานที่ทั้งแปลกและความชอบความคุ้นเคย สามารถบ่งชี้การเรียนรู้ ( ห้อง et al . , 2011 ; saffran & หา , 2003 ) เราต้องระมัดระวังในการตีความของความชอบความคุ้นเคยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากทารกกับคำศัพท์ขนาดใหญ่ไม่ได้แยกแยะรายการทดสอบและ , จึง , ไม่ได้แสดงหลักฐานที่เชื่อถือได้ของการเรียนรู้ นอกจากนี้ การขาดการเชื่อถือ อาจเกิดขึ้นเนื่องจากของการแพร่กระจายกว้างของการตอบสนองในกลุ่มศัพท์สูงเกิดความท้าทายในการตีความผลลัพธ์ อย่างไรก็ตาม เป็นที่ชัดเจนว่าเฉพาะทารกกับคำศัพท์ที่แตกต่างเมื่อเทียบกับรายการที่สอดคล้องกันการทดสอบการละเมิด จัดแสดงนวัตกรรมความชอบที่บ่งบอกถึงการเรียนรู้ที่แข็งแกร่ง