IntroductionTooth surfaces with pit

Introduction
Tooth surfaces with pits and fissures are particularly
vulnerable to caries development [Manton and Messer,
1995]. Ripa [1973] observed that although the occlusal
surfaces represented only 12.5% of the total surfaces of
the permanent dentition, they accounted for almost 50%
of the caries in school children. This can be explained
by the morphological complexity of these surfaces,
which favours plaque accumulation to the extent that
the enamel does not receive the same level of caries
protection from fluoride (F) as does smooth surface
enamel [Ripa, 1973; Bohannan, 1983; Ripa, 1990]. The
plaque accumulation and caries susceptibility are
greatest during the eruption of the molars [Carvalho et
al., 1989], and caries susceptible individuals are
therefore vulnerable to early initiation and fast
progression of caries in these sites. Brown et al. [1996]
and Kaste et al. [1996] showed that in fluoridated
communities over 90% of dental caries is exclusively
pit and fissure caries

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำผิวฟัน มีหลุมและ fissures เป็นอย่างยิ่งการพัฒนาผุ [Manton และ Messer1995] ริป้าราคา [1973] สังเกตที่แม้ว่าการ occlusalพื้นผิวแสดงเพียง 12.5% ของพื้นผิวทั้งหมดของdentition ถาวร พวกเขาคิดเป็นเกือบ 50%ของการผุในเด็กนักเรียน นี้สามารถอธิบายตามความซับซ้อนของพื้นผิวเหล่านี้ซึ่ง favours สะสมหินปูนที่เคลือบฟันได้รับในระดับเดียวกับผุป้องกันจากฟลูออไรด์ (F) เป็นพื้นผิวที่เรียบเคลือบฟัน [ริป้าราคา 1973 Bohannan, 1983 ริป้าราคา 1990] ที่หินปูนสะสมและผุภูมิไวรับยิ่งใหญ่ที่สุดในระหว่างการปะทุ molars [Carvalho ร้อยเอ็ดal., 1989], และผุไวต่อบุคคลดังนั้นการเริ่มต้นก่อน และรวดเร็วความก้าวหน้าของการผุในไซต์เหล่านี้ Al. สีน้ำตาลร้อยเอ็ด [1996]และ Kaste et al. [1996] แสดงให้เห็นว่า ใน fluoridatedกว่า 90% ของฟันผุมีเฉพาะชุมชนผุที่หลุมและ fissure

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำฟันพื้นผิวที่มีหลุมและรอยแยกโดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยงที่จะพัฒนาโรคฟันผุ[Manton และเมสเซอร์, 1995] Ripa [1973] สังเกตว่าถึงแม้จะบดเคี้ยวพื้นผิวที่มีเพียง12.5% ​​ของพื้นผิวรวมของฟันถาวรพวกเขาคิดเป็นเกือบ50% ของโรคฟันผุในเด็กนักเรียน นี้สามารถอธิบายได้โดยความซับซ้อนทางสัณฐานวิทยาของพื้นผิวเหล่านี้ที่โปรดปรานการสะสมคราบจุลินทรีย์ในขอบเขตที่เคลือบฟันไม่ได้รับในระดับเดียวกันของโรคฟันผุการป้องกันจากฟลูออไร(F) เช่นเดียวกับพื้นผิวเรียบเคลือบ[Ripa 1973; Bohannan 1983; Ripa 1990] การสะสมคราบจุลินทรีย์และโรคฟันผุมีความอ่อนแอมากที่สุดในระหว่างการปะทุของฟันกรามที่ [ร์วัลโญ่ et al., 1989] และโรคฟันผุบุคคลที่อ่อนแออยู่จึงเสี่ยงที่จะเริ่มต้นในช่วงต้นและรวดเร็วการลุกลามของโรคฟันผุในเว็บไซต์เหล่านี้ บราวน์, et al [1996] และ kaste et al, [1996] แสดงให้เห็นว่าใน fluoridated ชุมชนกว่า 90% ของโรคฟันผุเฉพาะโรคฟันผุและหลุมร่อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทนำ
ฟันพื้นผิวด้วยหลุมและรอยแยกนั่น จะยิ่งเสี่ยงต่อโรคฟันผุที่ตั้งการพัฒนา [

และ เมสเซอร์ ปี 2538 ] RIPA [ 1973 ] สังเกตได้ว่าถึงแม้ว่าจุดสบ
ผิวแทนเพียง 12.5% ของพื้นผิวทั้งหมดของ
ฟันถาวร พวกเขาคิดเป็นเกือบ 50%
ของโรคฟันผุในเด็กวัยเรียน นี้สามารถอธิบาย
โดยความซับซ้อนสัณฐานวิทยาของพื้นผิวเหล่านี้
ซึ่งโปรดปรานการสะสมคราบจุลินทรีย์ในขอบเขตที่
enamel ไม่ได้รับในระดับเดียวกันของการป้องกันโรคฟันผุ
จากฟลูออไรด์ ( F ) เช่นเดียวกับพื้นผิวเรียบ
เคลือบฟัน [ RIPA 1973 ; bohannan , 1983 ; RIPA 2533 ] การสะสมและการเกิดคราบ

มีมากที่สุด ในการขึ้นของฟันกราม คาร์วัลโญ่และ [
al . , 1989 ] และฟันผุบุคคลอ่อนแอเป็น
จึงเสี่ยงกับการเริ่มต้นและความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
ฟันผุในเว็บไซต์เหล่านี้ สีน้ำตาล et al . [ 1996 ]
กับซอส et al . [ 1996 ] พบว่าฟลูออไรด์
ชุมชนกว่า 90% ของโรคฟันผุเป็นหลุมและร่องฟัน โดยเฉพาะ