Platform-centered workflow: Use thi

Platform-centered workflow: Use this workflow if you want to focus on building an app for a single platform and need to be able to modify it at a lower level. You need to use this approach, for example, if you want your app to mix custom native components with web-based Cordova components, as discussed in Embedding WebViews. As a rule of thumb, use this workflow if you need to modify the project within the SDK. This workflow relies on a set of lower-level shell scripts that are tailored for each supported platform, and a separate Plugman utility that allows you to apply plugins. While you can use this workflow to build cross-platform apps, it is generally more difficult because the lack of a higher-level tool means separate build cycles and plugin modifications for each platform. Still, this workflow allows you greater access to development options provided by each SDK, and is essential for complex hybrid apps. See the various Platform Guides for details on each platform's available shell utilities.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ลำดับที่แพลตฟอร์มแปลก: ใช้ลำดับงานนี้ถ้าคุณต้องการเน้นสร้าง app สำหรับแพลตฟอร์มเดียว และต้องสามารถปรับเปลี่ยนในระดับต่ำ คุณต้องการใช้วิธีการนี้ เช่น ถ้าคุณต้องการโปรแกรมประยุกต์การผสมส่วนประกอบแม่แบบกำหนดเองกับส่วนประกอบบนเว็บกอร์โดบา ตามที่อธิบายไว้ใน WebViews ที่ฝังตัว ตามกฎของหัวแม่มือ ใช้ลำดับงานนี้ถ้าคุณต้องการปรับเปลี่ยนโครงการภายใน SDK ลำดับงานนี้อาศัยชุดระดับเชลล์สคริปต์ที่เหมาะสำหรับแต่ละแพลตฟอร์มที่สนับสนุน และโปรแกรมอรรถประโยชน์ Plugman แยกต่างหากที่ช่วยให้คุณสามารถใช้ปลั๊กอิน ในขณะที่คุณสามารถใช้เวิร์กโฟลว์นี้เพื่อสร้าง apps ข้ามแพลตฟอร์ม ได้ยากขึ้นโดยทั่วไปเนื่องจากขาดเครื่องมือสูงกว่าหมายถึง วงจรการสร้างแยกต่างหากและการปรับเปลี่ยนปลั๊กอินสำหรับแต่ละแพลตฟอร์ม ยังคง ลำดับงานนี้ช่วยให้คุณมากขึ้นถึงโดย SDK แต่ละตัวเลือกในการพัฒนา และจำเป็นต่อการปพลิเคชันผสมที่ซับซ้อน ดูการแนะนำแพลตฟอร์มต่าง ๆ สำหรับรายละเอียดของแต่ละแพลตฟอร์มเชลล์มีสาธารณูปโภค

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เวิร์กโฟลว์แพลตฟอร์มศูนย์กลาง: ใช้เวิร์กโฟลว์นี้ถ้าคุณต้องการที่จะมุ่งเน้นไปที่การสร้าง app สำหรับแพลตฟอร์มเดียวและจะต้องสามารถที่จะแก้ไขได้ในระดับที่ต่ำกว่า คุณจำเป็นต้องใช้วิธีการนี​​้ตัวอย่างเช่นถ้าคุณต้องการ app ของคุณในการผสมส่วนประกอบพื้นเมืองที่กำหนดเองกับเว็บที่ใช้ส่วนประกอบคอร์โดวาตามที่กล่าวไว้ในการฝัง WebViews ตามกฎของหัวแม่มือให้ใช้ขั้นตอนการทำงานนี้ถ้าคุณจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนโครงการภายใน SDK ขั้นตอนการทำงานนี้ต้องอาศัยชุดของเชลล์สคริปต์ในระดับต่ำกว่าที่เหมาะสำหรับแต่ละแพลตฟอร์มได้รับการสนับสนุนและยูทิลิตี้ Plugman แยกต่างหากที่ช่วยให้คุณสามารถใช้ปลั๊กอิน ในขณะที่คุณสามารถใช้ขั้นตอนการทำงานนี้เพื่อสร้างปพลิเคชันข้ามแพลตฟอร์มมันเป็นเรื่องปกติท​​ี่ยากลำบากมากขึ้นเพราะขาดเครื่องมือที่มีระดับสูงขึ้นหมายถึงการสร้างวงจรที่แยกต่างหากและการปรับเปลี่ยนปลั๊กอินสำหรับแต่ละแพลตฟอร์ม ยังคงมีขั้นตอนการทำงานนี้ช่วยให้คุณเข้าถึงมากขึ้นเพื่อให้ตัวเลือกการพัฒนา SDK โดยในแต่ละครั้งและเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับแอพพลิเคไฮบริดที่มีความซับซ้อน ดูคู่มือแพลตฟอร์มต่างๆสำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับสาธารณูปโภคเปลือกแพลตฟอร์มที่มีอยู่ของแต่ละคน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แพลตฟอร์มเวิร์กโฟลว์ที่เป็นศูนย์กลางใช้เวิร์กโฟลว์นี้ถ้าคุณต้องการที่จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างโปรแกรมประยุกต์สำหรับแพลตฟอร์มเดียวและต้องสามารถแก้ไขได้ในระดับต่ำ คุณต้องใช้วิธีการนี้ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการให้โปรแกรมประยุกต์ของคุณเองบนเว็บองค์ประกอบพื้นเมืองผสมกับ Cordova องค์ประกอบตามที่กล่าวในการฝัง webviews . ในฐานะที่เป็นกฎของหัวแม่มือ ,ใช้โปรแกรมนี้ หากคุณต้องการจะปรับเปลี่ยนโครงการภายใน SDK . เวิร์กโฟลว์นี้อาศัยชุดลดระดับเชลล์สคริปต์ที่เหมาะสำหรับแต่ละการสนับสนุนแพลตฟอร์มและแยก plugman ยูทิลิตี้ที่ช่วยให้คุณสามารถใช้ปลั๊กอิน . ในขณะที่คุณสามารถใช้โปรแกรมนี้เพื่อสร้างข้ามแพลตฟอร์มแอพพลิเค ,มันมักจะยากขึ้นเนื่องจากการขาดเครื่องมือในระดับหมายความว่า แยกวงจรการสร้างปลั๊กอินสำหรับแต่ละแพลตฟอร์ม ยังคง , เวิร์กโฟลว์นี้ช่วยให้คุณเข้าถึงมากขึ้นเพื่อพัฒนาให้แต่ละตัวเลือก SDK และเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับปพลิเคชันแบบซับซ้อน เห็นหลายๆ แพลตฟอร์ม แนะนำสำหรับรายละเอียดในแต่ละแพลตฟอร์ม& apos ; สาธารณูปโภคเปลือกใช้ได้