Immigration PoliciesOne explanation

Immigration Policies

One explanation is that the Swedish government made a mistake in implementing very liberal immigration and asylum laws, because most of the rioters were lowly qualified immigrants and asylum seekers1, who were unemployed and had no future. 15% of the Swedish population is now foreign-born (Pollard and O’Connor 2013). Illustration 1 on the left shows an increase in the absolute number of immigration, which had been continuously rising at least since the 1980s, approaching 100,000 in 2007. The solution offered by this group of nationalists is that Sweden should put in place tougher immigration laws, and only attract the well-educated and well-qualified people, who are in high demand in the labor market (Billström 2012; RT 2013). This had been the traditional approach of countries like Canada and the US, and it supposedly works out better for them.2 Many Swedish people, who are repelled by the high unemployment rate of immigrants and the lack of safety in their neighborhoods, are switching their political allegiance to the nationalist Sweden Democrats, who received nearly 6% of the vote in 2010 (Traynor 2010). According to a recent poll in November 2012, the Sweden Democrats would receive 11.2% of the vote (Local 2012a), indicating their increased popularity. Indeed, immigration has become a heated issue. In 2010, 19.1% of the Swedish population were of foreign descent.3 While labor force migration has played an important role in Sweden’s immigration policy between the end of World War II and the early 1970s, there had been a sharp upturn in family reunification migration and refugees seeking asylum in Sweden. Sweden has a long tradition of granting asylum to people of the troubled parts of the world. Polish Jews fleeing anti-semitism and Greeks fleeing dictatorship poured in during the late-1960s. Pro-Allende Chileans came in the 1970s. Kurdish nationalists entered in the 1980s. Somalis and Bosnians entered during the 1990s (Caldwell 2006). The most recent wave of refugees in the 2000s came from war-torn Iraq, Somalia, Ethiopia, and Afghanistan (SCB 2013b). Iraqis in Sweden number 125,000 people and are the second largest immigrant community (after the Finnish) (Gysin 2013). Sweden takes on a large proportion of the refugees. Iraqi citizens have claimed asylum in 89 different countries, but half of those claims went to Sweden. The city of Sodertalje alone, numbering 83,000 people, took on more refugees than Canada and the US combined (NBC News 2008).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นโยบายการตรวจคนเข้าเมืองหนึ่งอธิบายได้ว่า รัฐบาลสวีเดนทำความผิดพลาดในการดำเนินการเมืองเสรีนิยมมากและลี้ภัยกฎหมาย เนื่องจากส่วนใหญ่การ rioters ได้นานมี lowly และ seekers1 ลี้ภัย ผู้มีงานทำ และมีอนาคตไม่ 15% ของประชากรสวีเดนขณะนี้ foreign-born (Pollard และโอ 2013) ภาพประกอบที่ 1 ด้านซ้ายแสดงการเพิ่มขึ้นจำนวนสัมบูรณ์ของตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งได้รับอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นน้อยตั้งแต่ทศวรรษ 1980 ใกล้ 100000 ในปี 2007 โซลูชั่นนำเสนอ โดย nationalists กลุ่มนี้คือ สวีเดนควรใส่ในกฏหมายการวิเคราะห์สถานที่ และดูดขี้ และดีมีคุณภาพคน ที่อยู่ในความต้องการสูงในตลาดแรงงาน (Billström 2012 เท่านั้น RT 2013) ได้วิธีแบบดั้งเดิมของประเทศแคนาดาและสหรัฐอเมริกา และคาดคะเนการทำงานออกไป them.2 สวีเดนหลายคน มีมันไส้ โดยอัตราว่างงานสูงอพยพและขาดความปลอดภัยในละแวกใกล้เคียงของพวกเขา หันให้สัตยาบันทางการเมืองของตนไปยังชาตินิยมของสวีเดนประชาธิปัตย์ ที่ได้รับเกือบ 6% ของคะแนนเสียงในปี 2010 (Traynor 2010) ตามแบบสำรวจล่าสุดในเดือน 2012 พฤศจิกายน ประชาธิปัตย์สวีเดนจะได้ 11.2% ของคะแนน (เฉพาะ 2012a), ระบุความนิยมของพวกเขาเพิ่มขึ้น จริง ตรวจคนเข้าเมืองได้กลายเป็น ประเด็นที่อุ่น ในปี 2553, 19.1% ของประชากรสวีเดนได้ของ descent.3 ที่ต่างประเทศในขณะที่แรงงานย้ายถิ่นแรงได้เล่นมีบทบาทสำคัญในนโยบายการตรวจคนเข้าเมืองของสวีเดนระหว่างจุดสิ้นสุดของสงครามโลกและช่วงต้นปี 1970 เคย upturn คมพักครอบครัวอพยพและผู้ลี้ภัยที่ลี้ภัยในประเทศสวีเดน สวีเดนมีประเพณีที่ยาวนานของให้ลี้ภัยคนส่วนปัญหาของโลก ชาวยิวโปแลนด์หนี semitism ป้องกันและกรีกหลบเผด็จ poured ในช่วงสาย 1960 Chileans pro Allende มาในทศวรรษ 1970 ป้อนในทศวรรษ 1980 nationalists เคิร์ด Somalis และ Bosnians ที่ป้อนในระหว่างปี 1990 (คาลด์เวลล์ 2006) ล่าสุดคลื่นของผู้ลี้ภัยใน 2000s มาจากสงครามอิรัก ประเทศโซมาเลีย เอธิโอเปีย และอัฟกานิสถาน (SCB 2013b) Iraqis ในสวีเดนจำนวน 125000 คน และเป็นชุมชนอพยพใหญ่เป็นอันดับสอง (หลังจากฟินแลนด์) (Gysin 2013) สวีเดนจะใช้สัดส่วนใหญ่ของผู้ลี้ภัย ประชาชนอิรักได้อ้างลี้ภัยในต่างประเทศ 89 ได้ครึ่งหนึ่งของผู้เรียกร้องไปสวีเดน การเมืองของ Sodertalje คนเดียว หมายเลขประชาชน 83,000 เอาผู้ลี้ภัยมากขึ้นกว่าประเทศแคนาดา และสหรัฐอเมริการวม (ปลอดข่าว 2008)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นโยบายการตรวจคนเข้าเมืองคำอธิบายหนึ่งคือการที่รัฐบาลสวีเดนทำผิดพลาดในการดำเนินการตรวจคนเข้าเมืองเสรีนิยมมากและกฎหมายที่ลี้ภัยเพราะส่วนใหญ่ของพวกก่อการจลาจลเป็นผู้อพยพที่มีคุณภาพต่ำและ seekers1 ลี้ภัยที่กำลังตกงานและไม่มีอนาคต 15% ของประชากรสวีเดนอยู่ในขณะนี้เกิดในต่างประเทศ (พอลลาร์และโอคอนเนอร์ 2013) ภาพประกอบ 1 ด้านซ้ายแสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นในจำนวนที่แน่นอนของการตรวจคนเข้าเมืองซึ่งได้รับการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยก็ตั้งแต่ปี 1980 ใกล้เข้ามา 100,000 ในปี 2007 การแก้ปัญหาที่นำเสนอโดยกลุ่มของโดนัลนี้ที่สวีเดนควรใส่ในสถานที่ที่กฎหมายคนเข้าเมืองรุนแรง และเพียง แต่ดึงดูดคนที่มีการศึกษาดีและดีมีคุณภาพที่อยู่ในความต้องการสูงในตลาดแรงงาน (Billström 2012; RT 2013) นี่เป็นวิธีการแบบดั้งเดิมของประเทศเช่นแคนาดาและสหรัฐอเมริกาและคาดคะเนผลงานออกมาดีกว่าสำหรับคน them.2 สวีเดนหลายคนที่มีมันไส้อัตราการว่างงานที่สูงของผู้อพยพและการขาดของความปลอดภัยในละแวกใกล้เคียงของพวกเขาจะเปลี่ยนพวกเขา ความจงรักภักดีทางการเมืองที่จะเดโมแครชาติสวีเดนที่ได้รับเกือบ 6% ของคะแนนในปี 2010 (Traynor 2010) ตามการสำรวจความคิดเห็นล่าสุดในเดือนพฤศจิกายน 2012, สวีเดนเดโมแครจะได้รับ 11.2% ของคะแนน (2012a ท้องถิ่น) แสดงให้เห็นความนิยมที่เพิ่มขึ้นของพวกเขา อันที่จริงการตรวจคนเข้าเมืองได้กลายเป็นปัญหาความร้อน ในปี 2010, 19.1% ของประชากรสวีเดนมีความ descent.3 ต่างประเทศในขณะที่การย้ายถิ่นแรงงานแรงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายตรวจคนเข้าเมืองของประเทศสวีเดนระหว่างการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่สองและต้นปี 1970 มีการได้รับการเลื่อนชั้นคมชัดในการย้ายถิ่นรวมกันของครอบครัว และผู้ลี้ภัยที่กำลังมองหาที่ลี้ภัยในสวีเดน สวีเดนมีประเพณีอันยาวนานของการอนุญาตให้ลี้ภัยให้กับประชาชนในส่วนที่มีปัญหาของโลก ชาวยิวโปแลนด์หนีต่อต้านชาวยิวและชาวกรีกเผด็จการหนีเทในช่วงปลายทศวรรษที่ 1960 Pro-Allende ชิลีมาในปี 1970 โดนัลเคิร์ดเข้ามาในช่วงปี 1980 Somalis และ Bosnians ป้อนในระหว่างปี 1990 (Caldwell 2006) คลื่นลูกที่ล่าสุดของผู้ลี้ภัยในยุค 2000 มาจากสงครามอิรักโซมาเลียเอธิโอเปียและอัฟกานิสถาน (SCB 2013b) ชาวอิรักในสวีเดนจำนวน 125,000 คนและชุมชนผู้อพยพใหญ่เป็นอันดับสอง (หลังจากฟินแลนด์) (Gysin 2013) สวีเดนจะใช้เวลาในสัดส่วนขนาดใหญ่ของผู้ลี้ภัย ประชาชนอิรักอ้างได้ลี้ภัยใน 89 ประเทศที่แตกต่างกัน แต่ครึ่งหนึ่งของการเรียกร้องเหล่านั้นไปสวีเดน เมือง Sodertalje เพียงอย่างเดียวจำนวน 83,000 คนเข้ามามีผู้ลี้ภัยกว่าประเทศแคนาดาและสหรัฐอเมริการวม (ข่าวเอ็นบีซี 2008)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นโยบายการตรวจคนเข้าเมือง

คำอธิบายอย่างหนึ่งก็คือ รัฐบาลสวีเดน ทำผิดพลาดในการใช้กฎหมายคนเข้าเมืองเสรีนิยมมากและลี้ภัย เพราะส่วนใหญ่ของผู้ก่อการจราจลต่ำต้อยคุณสมบัติผู้อพยพและลี้ภัย seekers1 ผู้ว่างงานและไม่มีอนาคต 15% ของประชากร สวีเดน เป็นประเทศเกิด ( Pollard แล้วโอคอนเนอร์ 2013 )ภาพประกอบที่ 1 ด้านซ้ายแสดงการเพิ่มขึ้นของจำนวนที่แน่นอนของตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยตั้งแต่ 1980 , ใกล้ 100000 ใน 2007 โซลูชั่นที่เสนอโดยกลุ่มชาตินิยมที่สวีเดนควรวางในสถานที่ยากกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง และดึงดูดคนที่มีการศึกษาดีและดีคุณสมบัติใครอยู่ในความต้องการสูงในตลาดแรงงาน ( billstr ö m 2012 ; RT 2013 ) นี้เป็นวิธีการแบบดั้งเดิมของประเทศ เช่น สหรัฐฯ และแคนาดา และมันควรจะเป็นดีกว่าสำหรับพวกเขา หลาย สวีเดน 2 คน ขับไล่ โดยอัตราการว่างงานที่สูงและไม่มีความปลอดภัยในย่านของผู้อพยพจะเปลี่ยนความจงรักภักดีทางการเมืองของตนเพื่อชาติสวีเดน ประชาธิปัตย์ที่ได้รับเกือบ 6 เปอร์เซ็นต์ของคะแนนเสียงใน 2010 ( Traynor 2010 ) ตามโพลล์ล่าสุดในเดือนพฤศจิกายน 2012 , สวีเดน พรรคประชาธิปัตย์จะได้รับ 11.2% ของโหวต ( 2012a ท้องถิ่น ) ระบุว่า ความนิยมของพวกเขาเพิ่มขึ้น แน่นอน ตรวจคนเข้าเมือง ได้กลายเป็นประเด็นร้อน ใน 2010 , 19.1 % ของประชากร สวีเดน เป็นเชื้อสายของต่างประเทศขณะที่แรงงานย้ายถิ่นมีบทบาทสำคัญในนโยบายตรวจคนเข้าเมืองของสวีเดนระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง และการสิ้นสุดของยุคก่อน มีความแหลมคมในการรวมกันของครอบครัวผู้ลี้ภัยและแสวงหาที่ลี้ภัยในสวีเดน สวีเดนมีประเพณีอันยาวนานของการลี้ภัยของคนในส่วนปัญหาของโลกโปแลนด์ต่อต้านชาวยิวและชาวกรีกชาวยิวหนีหนีเผด็จการเทในช่วง late-1960s Pro Allende ชิลีมา 1970 ดิชชาตินิยมที่ป้อนในทศวรรษ 1980 และ somalis bosnians เข้ามาในช่วงปี 1990 ( เวล 2006 ) ล่าสุดคลื่นของผู้อพยพในยุคมาจากขาดสงครามอิรัก โซมาเลีย เอธิโอเปีย และอัฟกานิสถาน ( SCB 2013b ) อิรักในสวีเดน หมายเลข 125000 คนและชุมชนผู้อพยพที่ใหญ่ที่สุดที่สอง ( หลังจากฟินแลนด์ ) ( gysin 2013 ) สวีเดนจะใช้เวลาในสัดส่วนขนาดใหญ่ของผู้ลี้ภัย ชาวอิรักอ้างว่าลี้ภัยใน 89 ประเทศแตกต่างกัน แต่ครึ่งหนึ่งของการเรียกร้องเหล่านั้นไปสวีเดน เมืองของ Sodertalje คนเดียว หมายเลข 83 , 000 คน ได้อพยพ มากกว่าสหรัฐฯ และแคนาดารวมกัน ( ข่าวเอ็นบีซี 2008 )