During a time in World history when

During a time in World history when there were legal drinks that contained cocaine, Vin Mariani, meaning Mariani Wine, exceeded the others by providing an alcoholic beverage with almost four grams more cocaine per ounce than any of its competitors.
The process used to create Vin Mariani was to soak the cocoa leaves in Bordeaux wine. The ethanol in the alcohol would cause a chemical reaction in the leaves and act as a solvent that would extract the cocaine from the leaves.
Due to impressive marketing by the drink’s creator, Angelo Mariani, which included an endorsement from People Leo XIII, the drink took off rapidly in Paris and even in America. However, an American named John Pemberton copied the drink’s recipe and procedure. Pemberton had to develop a non-alcoholic cocaine-laden beverage during prohibition, so he created Coca-Cola.
By itself, cocaine yields benzoylecgonine and ecgonine methyl ester. However, when alcohol is added to the equation, a powerful psychoactive agent called cocathylene is formed. It is far more potent, and dangerous, than cocaine itself.
The drink was popular from the 1860s to around 1915 and has been imbibed by some famous historical figures including “Buffalo Bill” Cody, Thomas Edison, Ulysses S. Grant, Jules Verne, Queen Victoria, H. G. Wells, Emile Zola, and Frederic-Auguste Bartholdi, the creator of the Statue of Liberty.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในช่วงเวลาในประวัติศาสตร์โลกเมื่อมีเครื่องดื่มตามกฎหมายที่มีโคเคน, เหล้า Mariani หมาย Mariani ไวน์เกินคนอื่น ๆ โดยการให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีโคเคนเกือบสี่กรัมต่อออนซ์กว่าใด ๆ ของคู่แข่ง
กระบวนการที่ใช้ในการสร้าง Vin Mariani คือการแช่ใบโกโก้ในไวน์ Bordeaux เอทานอลในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีในใบและทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายที่จะสกัดโคเคนจากใบ
เนื่องจากการตลาดที่น่าประทับใจโดยเครื่องดื่มของผู้สร้างแอนเจโล Mariani ซึ่งรวมถึงการรับรองจากคนลีโอสิบสาม, เครื่องดื่ม เอาออกอย่างรวดเร็วในปารีสและแม้แต่ในอเมริกา อย่างไรก็ตามชาวอเมริกันชื่อจอห์นเพมเบอร์ตันคัดลอกสูตรเครื่องดื่มและขั้นตอน เพมเบอร์ตันมีการพัฒนาเครื่องดื่มโคเคนหนักไม่มีแอลกอฮอล์ในระหว่างการห้ามเขาจึงสร้าง Coca-Cola
โดยตัวมันเองโคเคนทำให้ benzoylecgonine และเมทิลเอสเตอร์ ecgonine แต่เมื่อแอลกอฮอล์ถูกเพิ่มเข้าไปในสมการเป็นตัวแทนทางจิตที่มีประสิทธิภาพที่เรียกว่า cocathylene เกิดขึ้น มันอยู่ไกลมีศักยภาพมากขึ้นและอันตรายกว่าโคเคนตัวเอง
เครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมจากยุค 1860 อยู่ที่ประมาณ 1915 และได้รับการดูดซับโดยตัวเลขทางประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงรวมทั้ง "บัฟฟาโลบิล" โคดี้, โทมัสเอดิสัน, แกรนท์, จูลส์เวิร์น สมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย HG Wells เอมิ Zola และเฟรเดริกออ Bartholdi ผู้สร้างของอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในช่วงเวลาในประวัติศาสตร์โลก เมื่อมีกฎหมายเครื่องดื่มที่มีโคเคน VIN Mariani , ความหมาย Mariani ไวน์เกินผู้อื่นโดยการให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกือบ 4 กรัม โคเคนต่อออนซ์มากขึ้นกว่าใด ๆของคู่แข่ง
กระบวนการที่ใช้ในการสร้างวิน Mariani ถูกแช่ในไวน์บอร์โดซ์ใบโกโก้ .เอทานอลในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีในใบและทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายที่สกัดโคเคนจากใบ .
เนื่องจากการตลาดที่น่าประทับใจโดยผู้สร้าง , ดื่มแองเจโล Mariani , ซึ่งรวมถึงการรับรองจากคนลีโอที่ , ดื่มไปอย่างรวดเร็วในปารีส และแม้แต่ในอเมริกา อย่างไรก็ตามชาวอเมริกัน ชื่อ จอห์น เพมเบอร์ตัน ลอกสูตรของเครื่องดื่ม และขั้นตอน เพมเบอร์ตันได้พัฒนาเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์โคเคนหนักในระหว่างการห้าม เขาสร้าง โคคา โคล่า
ด้วยตัวเอง , โคเคน benzoylecgonine ผลผลิตและ ecgonine เมทิลเอสเตอร์ อย่างไรก็ตาม เมื่อแอลกอฮอล์เพิ่มสมการ ที่มีตัวแทน cocathylene psychoactive เรียกว่าถูกสร้างขึ้น มันอยู่ไกลมีศักยภาพมากขึ้น และอันตรายกว่าโคเคนเอง .
เครื่องดื่มได้รับความนิยมจาก 1860 ไปประมาณพ.ศ. 2458 และได้รับการดูดโดยมีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ตัวเลขรวมทั้ง " บัฟฟาโลบิล " โคดี้ โทมัส เอดิสัน ยูลิสซิส เอส. แกรนท์ จูลส์ เวิร์น ราชินีวิคตอเรีย เอช. จี. เวลส์ , เอมิล โซล่า และ เฟรเดริกโอกุสต์บาร์โตลดี ผู้สร้างของรูปปั้นของเสรีภาพ