The ability to find a silver lining

The ability to find a silver lining in the midst of bad news may seem beyond your grasp. Your partner has left you for someone else, you’ve been passed up at work for a promotion, or a new opportunity you thought you had in the bag turned out to be a dead end.
What makes an ending particularly difficult depends on the situation. If it’s the end of a romantic relationship, you may very well feel a loss of trust. There are also the emotions of shame, humiliation, and anger. When it’s an opportunity that you’ve lost out on, such as a promotion, you can be overwhelmed by feelings of failure and disappointment. You may have believed that you were a perfect fit but it turns out that those in charge didn’t see things that way. You're left thinking there must be some flaw in you that led them to pick someone else.
After the hurt, anger, and disappointment subside, you may be able to look at the situation from a more rational perspective. With luck, you’ll see it as a learning opportunity from which you can glean strategies to help you the next time around. If the ending involved a close relationship, you may later be able to accept the fact that it’s over, see if there were clues to the relationship’s flaws that you missed, and maybe even decide that you’re better off on your own.
Coping with stressful situations such as the end of a relationship can take several routes. In emotion-focused coping, you realize that you can’t change the situation, but in order to soothe your anguished feelings, you can change the way you feel about it. In problem-focused coping, you try to change the situation itself. The coping strategy that works best for reducing stress depends on the changeability of the actual situation. If you can turn things around by altering a situation’s reality, you’ll be on your way to reducing stress. If, as with the end of a relationship, there’s nothing you can do, emotion-focused coping may be your best friend.
The ending of an important relationship may eventually turn out to be a significant event that shapes the course of your life. If it’s marriage or something close to it, that ending will become part of the story you tell about your life. As you move further past that ending in time, you’ll undoubtedly reshape the way you tell that part of your story. Thinking about that experience over the passage of months and years, you’ll most likely forget or morph some of the details—and the sharp edges may soften.
Villanova University’s Erica Slotter and Deborah Ward (2015) decided to examine the coping strategy of finding the “silver lining” in the ending of a relationship. They believe that this tough, but favorable, outcome can be achieved through two forms of mental readjustment, both involving ways of rethinking the ending and its effect on you.
One form of coping with negative news that you can’t change is to take a look at it from a different perspective, in what is called cognitive reappraisal. In classic cognitive reappraisal, you take a stressful situation and look at it as a challenge rather than a threat. To use cognitive reappraisal with an ending means that you take away its sting by seeing it as an opportunity rather than a loss.
Slotter and Ward maintain that a second way to cope with an ending is to reframe its role in your life through what is called the redemptive narrative. Defined as the “particular pattern of storytelling” you use to tell others (and yourself) about who you are and what you’ve been through in life, redemptive narratives regarding a relationship’s ending “encompass the idea that negative life events or circumstances can be meaningful points in individuals’ lives that result in positive outcomes or silver linings” (p. 739).
To test the idea that individuals who suffered a romantic breakup would benefit from these two coping strategies, Slotter and Ward asked an online sample of adults ranging from 19 to 64 years of age (all non-students) who'd recently been involved in a relationship dissolution to complete a four-day diary study. In their entries, which averaged 8.5 minutes across the four days, participants responded to one of three prompts: Either to write about the ending from their personal perspective, the perspective of the relationship, or with no particular focus at all.
Both computer- and human-coding procedures were used to record the extent of “cognitive processing” used by participants and the number of redemptive narratives that appeared in the diary entries. Participants also completed questionnaires to assess their emotional distress.
As predicted, at the end of the four-day diary period, the participants felt less distressed by the loss of their relationship. Once the joint effects of both cognitive processing and redemptive narrative use were teased apart, it was found that the redemptive narratives had greater importance. The simple act of writing wasn’t enough to cause change, nor was the ability to reframe the relationship’s ending in more intelle

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความสามารถในการค้นหาท่ามกลางข่าวร้ายที่จรรโลงอาจดูเหมือนจะเกินความเข้าใจของคุณ คู่ของคุณได้ซ้ายคุณให้ผู้อื่น จะรับผ่านค่าที่ทำงานสำหรับโปรโมชั่น หรือโอกาสใหม่คุณคิดว่า คุณมีในกระเป๋าเปิดออกมาจะ ตายสิ้นสุดสิ่งที่ทำให้การสิ้นสุดยากโดยเฉพาะอย่างยิ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ถ้ามันเป็นจุดสิ้นสุดของความสัมพันธ์ที่โรแมนติก คุณอาจรู้สึกสูญเสียความน่าเชื่อถือดี ยังมีอารมณ์ของความอัปยศ ความอัปยศอดสู และความโกรธ เมื่อถึงโอกาสที่คุณได้หายไปใน เช่นโปรโมชั่น คุณสามารถถูกครอบงำ ด้วยความรู้สึกของความล้มเหลวและผิดหวัง คุณอาจมีความเชื่อว่า คุณพอ แต่มันเปิดออกว่า ผู้ดูแลไม่เห็นสิ่ง คุณกำลังทิ้งความคิดต้องมีข้อบกพร่องบางอย่างในตัวคุณที่นำพวกเขาไปรับคนอื่นหลังจากที่เจ็บปวด ความโกรธ และความผิดหวังบรรเทา คุณอาจสามารถดูสถานการณ์จากมุมมองที่มีเหตุผลมากขึ้น กับโชค คุณจะเห็นมันเป็นโอกาสการเรียนรู้ที่ที่คุณสามารถรวบรวมกลยุทธ์ที่จะช่วยคุณในครั้งต่อไป ถ้าสิ้นสุดที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ใกล้ชิด คุณอาจสามารถยอมรับความจริงที่อยู่เหนือ ดูถ้ามีเบาะแสที่จะตำหนิความสัมพันธ์ที่คุณพลาดไป และบางทีแม้จะตัดสินใจว่า คุณดีกว่าคุณเองในภายหลังรับมือกับสถานการณ์ที่เครียดเช่นตอนท้ายของความสัมพันธ์สามารถใช้หลายเส้นทาง ในรับมือเน้นอารมณ์ คุณรู้ว่า คุณไม่สามารถเปลี่ยนสถานการณ์ แต่เพื่อบรรเทาความรู้สึกที่กดขี่ของคุณ คุณสามารถเปลี่ยนวิธีที่คุณรู้สึกเกี่ยวกับมัน ในการรับมือปัญหาที่มุ่งเน้น คุณพยายามเปลี่ยนสถานการณ์ตัวเอง กลยุทธ์การรับมือที่ดีที่สุดสำหรับการลดความเครียดขึ้นอยู่กับ changeability จากสถานการณ์จริง ถ้าคุณสามารถเปลี่ยน โดยการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ที่เป็นจริง คุณจะเป็นในทางของคุณเพื่อลดความเครียด ถ้า เช่นเดียวกับจุดสิ้นสุดของความสัมพันธ์ ไม่มีอะไรที่ทำได้ เน้นอารมณ์รับมืออาจเป็นเพื่อนสนิทสิ้นสุดของความสัมพันธ์ที่สำคัญในที่สุดอาจเปิดออกจะ มีเหตุการณ์สำคัญซึ่งรูปร่างหลักสูตรของชีวิตของคุณ ถ้าแต่งงานหรือบางอย่างใกล้เคียงกับมัน สิ้นสุดที่จะกลายเป็น ส่วนหนึ่งของเรื่องราวเพิ่มเติมเกี่ยวกับชีวิตของคุณ ขณะที่คุณย้ายต่อโลกว่า ในเวลาที่สิ้นสุด คุณจะไม่ต้องสงสัย ปรับรูปร่างตามที่คุณบอกว่า ส่วนหนึ่งของเรื่องราวของคุณ คิดเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ผ่านเนื้อเรื่องของเดือนและปี คุณอาจจะลืม หรือเปลี่ยนรายละเอียด — ขอบคมอาจทำให้มหาวิทยาลัย Villanova Erica Slotter และเดโบราห์วอร์ด (2015) ตัดสินใจที่จะตรวจสอบกลยุทธ์รับมือการค้นหา "จรรโลง" ในการสิ้นสุดของความสัมพันธ์ พวกเขาเชื่อว่ายากนี้ แต่ดี ผลสามารถทำได้ผ่านสองรูปแบบปรับปรุงแก้ไขจิต วิธีการทั้งสองเกี่ยวข้องกับการทบทวนสิ้นสุดและมีผลต่อคุณการรับมือกับข่าวเชิงลบที่คุณไม่สามารถเปลี่ยนรูปจะดูได้จากมุมมองแตกต่างกัน ซึ่งเรียกว่าองค์ความรู้ reappraisal ในคลาสสิกทางปัญญา reappraisal คุณใช้สถานการณ์ที่เครียด และมองไปที่มันเป็นความท้าทายแทนที่เป็นภัยคุกคาม การใช้องค์ความรู้ reappraisal กับการสิ้นสุดหมายถึง ว่า คุณจะของมัน โดยเห็นเป็นโอกาสแทนที่เป็นการสูญเสียSlotter และวอร์ดรักษาสองวิธีรับมือกับการสิ้นสุดจะ reframe บทบาทในชีวิตของคุณผ่านสิ่งที่เรียกว่าเล่าเรื่องไถ่ กำหนดเป็น "เฉพาะรูปแบบของการเล่าเรื่อง" ที่คุณใช้เพื่อบอกผู้อื่น (และตัวเอง) คุณได้ และคุณเคยผ่านในชีวิต ไถ่เรื่องเล่าเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของการสิ้นสุด "ครอบคลุมความคิดที่ติดลบเหตุการณ์ในชีวิต หรือสถานการณ์อาจเป็นจุดที่มีความหมายในชีวิตของบุคคลที่ส่งผลให้ผลบวก หรือเงินซับ" (p. 739)การทดสอบความคิดที่ว่าบุคคลที่ประสบการล่มสลายโรแมนติกจะได้ประโยชน์จากกลยุทธ์รับมือสองเหล่านี้ Slotter และวอร์ดถามตัวอย่างออนไลน์ของผู้ใหญ่ตั้งแต่ 19 ถึง 64 ปี (ไม่ใช่นักเรียนทั้งหมด) ที่ล่าสุดมีการเกี่ยวข้องในการยุบความสัมพันธ์เพื่อทำการศึกษาสี่วันไดอารี่ ในรายการของพวกเขา ซึ่งเฉลี่ย 8.5 นาทีข้ามสี่วัน ร่วมตอบสนองพร้อมท์สามอย่างใดอย่างหนึ่ง: ว่าจะเขียนเกี่ยวกับการสิ้นสุดจากมุมมองส่วนบุคคลของพวกเขา มุมมอง ของความสัมพันธ์ หรือโฟกัสไม่เฉพาะที่ทั้งหมดขั้นตอนทั้งสองรหัสคอมพิวเตอร์ และมนุษย์ถูกใช้ในการบันทึกขอบเขตของ "องค์ความรู้การประมวลผล" ใช้ โดยผู้เรียนและจำนวนเรื่องเล่าไถ่ที่ปรากฏในรายการบันทึกประจำวัน ผู้เข้าร่วมยังกรอกเพื่อประเมินภาวะทางอารมณ์ของพวกเขา เป็นที่คาดการณ์ ในตอนท้ายของรอบระยะเวลาสี่วันไดอารี่ ร่วมรู้สึกเป็นทุกข์น้อยลงจากการสูญเสียความสัมพันธ์ เมื่อผลร่วมของการประมวลผลความรู้ความเข้าใจและใช้การเล่าเรื่องที่ไถ่มาล้อกัน มันก็พบว่า เรื่องเล่าไถ่มีความสำคัญมากขึ้น กระทำการอย่างง่ายของการเขียนไม่เพียงพอจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่ถูกสามารถ reframe ความสัมพันธ์สิ้นสุดใน intelle เพิ่มเติม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความสามารถในการที่จะหาซับเงินในท่ามกลางข่าวร้ายอาจดูเหมือนเกินเข้าใจของคุณ คู่ของคุณได้ทิ้งคุณให้คนอื่นที่คุณได้รับผ่านขึ้นในที่ทำงานสำหรับโปรโมชั่นหรือโอกาสใหม่คุณคิดว่าคุณมีในถุงเปิดออกมาเป็นปลายตาย.
สิ่งที่ทำให้จบยากโดยเฉพาะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ . ถ้ามันเป็นจุดสิ้นสุดของความสัมพันธ์ที่โรแมนติกคุณเป็นอย่างดีอาจจะรู้สึกสูญเสียของความไว้วางใจ นอกจากนี้ยังมีอารมณ์ความรู้สึกของความอัปยศความอัปยศอดสูและความโกรธ เมื่อมันเป็นโอกาสที่คุณได้สูญเสียออกมาในเช่นโปรโมชั่นคุณสามารถถูกครอบงำด้วยความรู้สึกของความล้มเหลวและความผิดหวัง คุณอาจจะมีความเชื่อว่าท่านเคยเป็นแบบที่สมบูรณ์แบบ แต่ปรากฎว่าผู้ที่อยู่ในความดูแลไม่เห็นสิ่งที่ทาง คุณเหลือคิดว่าต้องมีข้อบกพร่องบางอย่างในตัวคุณที่นำพวกเขาไปรับคนอื่น.
หลังจากที่เจ็บโกรธและผิดหวังบรรเทาคุณอาจจะสามารถที่จะดูสถานการณ์จากมุมมองที่มีเหตุผลมากขึ้น กับโชคที่คุณจะเห็นว่ามันเป็นโอกาสการเรียนรู้จากการที่คุณสามารถรวบรวมกลยุทธ์ที่จะช่วยให้คุณในครั้งต่อไปที่อยู่รอบ ๆ ถ้าตอนจบที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ใกล้ชิดในภายหลังคุณอาจจะไม่สามารถที่จะยอมรับความจริงที่ว่ามันมากกว่าดูว่ามีเบาะแสข้อบกพร่องความสัมพันธ์ของที่คุณพลาดและอาจตัดสินใจว่าคุณดีด้วยตัวคุณเอง.
การรับมือกับ สถานการณ์ที่เครียดดังกล่าวเป็นจุดสิ้นสุดของความสัมพันธ์ที่อาจใช้เวลาหลายเส้นทาง ในการรับมืออารมณ์ที่มุ่งเน้นคุณรู้ว่าคุณไม่สามารถเปลี่ยนสถานการณ์ แต่เพื่อบรรเทาความรู้สึกเจ็บปวดของคุณคุณสามารถเปลี่ยนวิธีที่คุณรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในการรับมือปัญหาที่มุ่งเน้นคุณพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของตัวเอง กลยุทธ์การเผชิญปัญหาที่ดีที่สุดสำหรับการลดความเครียดขึ้นอยู่กับความไม่แน่นอนของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง หากคุณสามารถเปิดสิ่งรอบโดยการเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงสถานการณ์ของคุณจะได้ในแบบของคุณเพื่อลดความเครียด ถ้าเช่นเดียวกับการสิ้นสุดของความสัมพันธ์มีอะไรที่คุณสามารถทำอารมณ์ความรู้สึกที่มุ่งเน้นการเผชิญปัญหาอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ.
ตอนจบของความสัมพันธ์ที่สำคัญที่สุดอาจกลายเป็นเหตุการณ์สำคัญที่รูปร่างแน่นอนในชีวิตของคุณ ถ้ามันแต่งงานหรือสิ่งที่ใกล้เคียงกับมันตอนจบที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องที่คุณบอกเกี่ยวกับชีวิตของคุณ ในขณะที่คุณย้ายต่อไปที่ผ่านมาตอนจบว่าในเวลาที่คุณไม่ต้องสงสัยจะก่อร่างใหม่ในแบบที่คุณบอกส่วนหนึ่งของเรื่องราวของคุณที่ ความคิดเกี่ยวกับประสบการณ์ที่มากกว่าทางเดินของเดือนและปีที่ผ่านมาคุณมักจะลืมหรือแปรเปลี่ยนบางส่วนของรายละเอียดและขอบคมอาจทำให้ผิวอ่อนนุ่ม.
มหาวิทยาลัยวิลลาโนวาของเอริก้า Slotter และเดโบราห์วอร์ด (2015) ตัดสินใจที่จะตรวจสอบกลยุทธ์การเผชิญปัญหาในการหา "การซับเงิน" ในตอนจบของความสัมพันธ์ พวกเขาเชื่อว่าเรื่องนี้ยาก แต่ดีผลสามารถทำได้ผ่านสองรูปแบบของการจัดรูปจิตทั้งสองวิธีที่เกี่ยวข้องกับการทบทวนความตายและผลกระทบต่อคุณ.
รูปแบบหนึ่งในการรับมือกับข่าวเชิงลบที่คุณไม่สามารถเปลี่ยนคือการใช้ มองจากมุมมองที่แตกต่างกันในสิ่งที่เรียกว่าการประเมินความรู้ความเข้าใจ ในการประเมินความรู้ความเข้าใจคลาสสิกที่คุณจะใช้สถานการณ์ความตึงเครียดและมองไปที่มันเป็นความท้าทายมากกว่าภัยคุกคาม ที่จะใช้การประเมินความรู้ความเข้าใจกับตอนจบหมายความว่าคุณใช้เวลาไปต่อยของตนโดยเห็นว่ามันเป็นโอกาสมากกว่าการสูญเสีย.
Slotter และวอร์ดยืนยันว่าเป็นวิธีที่สองที่จะรับมือกับความตายคือการวางใหม่มีบทบาทในชีวิตของคุณผ่านสิ่งที่เรียกว่า การเล่าเรื่องไถ่บาป กำหนดให้เป็น "รูปแบบเฉพาะของการเล่าเรื่อง" คุณใช้ในการบอกคนอื่น ๆ (และตัวเอง) เกี่ยวกับคุณคือใครและสิ่งที่คุณได้เคยผ่านมาในชีวิตเรื่องเล่าไถ่บาปเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของสิ้นสุด "ครอบคลุมความคิดที่ว่าเหตุการณ์ในชีวิตเชิงลบหรือสถานการณ์ที่สามารถ จุดที่มีความหมายในชีวิตของบุคคลที่มีผลในผลลัพธ์หรือชั้นในสีเงินบวก "(พี. 739).
เพื่อทดสอบความคิดที่ว่าบุคคลที่ได้รับความเดือดร้อนการล่มสลายโรแมนติกจะได้รับประโยชน์จากทั้งสองวิธีการเผชิญปัญหา, Slotter และวอร์ดถามตัวอย่างออนไลน์ของผู้ใหญ่ตั้งแต่ 19-64 ปี (นักเรียนทุกคนที่ไม่ใช่) เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่ต้องการได้รับการมีส่วนร่วมในการสลายความสัมพันธ์ที่จะเสร็จสิ้นการศึกษาไดอารี่สี่วัน ในรายการของพวกเขาซึ่งเฉลี่ย 8.5 นาทีข้ามสี่วันผู้เข้าร่วมตอบสนองต่อหนึ่งในสามแจ้ง:. ทั้งสองจะเขียนเกี่ยวกับสิ้นสุดจากมุมมองส่วนตัวของพวกเขาในมุมมองของความสัมพันธ์หรือไม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ทุกคน
ทั้งสองและ computer- ขั้นตอนการเข้ารหัสของมนุษย์ถูกนำมาใช้ในการบันทึกขอบเขตของ "การประมวลผลองค์ความรู้" ที่ใช้โดยผู้เข้าร่วมและจำนวนเรื่องเล่าไถ่บาปที่ปรากฏอยู่ในรายการไดอารี่ที่ ผู้เข้าร่วมยังเสร็จแบบสอบถามเพื่อประเมินความทุกข์ทางอารมณ์ของพวกเขา.
ในฐานะที่เป็นที่คาดการณ์ไว้ในตอนท้ายของรอบระยะเวลาไดอารี่สี่วันที่ผู้เข้าร่วมรู้สึกมีความสุขน้อยลงจากการสูญเสียของความสัมพันธ์ของพวกเขา เมื่อผลกระทบร่วมกันของทั้งการประมวลผลองค์ความรู้และการใช้การเล่าเรื่องไถ่บาปถูกแกล้งกันก็พบว่าเรื่องเล่าไถ่บาปมีสำคัญมากขึ้น การกระทำที่เรียบง่ายของการเขียนไม่เพียงพอที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือเป็นความสามารถในการวางใหม่ตอนจบความสัมพันธ์ใน intelle เพิ่มเติม