Objective: To analyze the relations

Objective: To analyze the relationships between the situational leadership styles, staff nurse job characteristic with job
satisfaction and organizational commitment of head nurses working in hospitals under the jurisdiction of the Royal Thai
Army.
Material and Method: The cross-sectional analytical study was conducted in 128 head nurses working in hospitals under the
jurisdiction of the Royal Thai Army. Data were collected by mailed questionnaires. A total of 117 completed questionnaires
(91.4%) were received for analysis. Statistical analysis was done using Pearson’s Product Moment Correlation Coefficient.
Results: It was found that situational leadership styles were not correlated with job satisfaction and organizational commitment
of head nurses. Staff nurse job characteristics had a low level of positive correlation with job satisfaction and organizational
commitment of head nurses at 0.05 level of significance (r = 0.202 and 0.189 respectively).
Conclusion: The hospital administrators should formulate policy to improve working system, human resource management
and formulate policies and strategies based on situational leadership. In addition, they should improve the characteristics of
staff nurse job by using surveys to obtain job satisfaction and organizational commitment.
Keywords: Situational leadership styles, Staff nurse job characteristics, Job satisfaction, Organizational commitment

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์: เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะความเป็นผู้นำในสถานการณ์ เจ้าหน้าที่พยาบาลงานลักษณะงานความพึงพอใจและความมุ่งมั่นขององค์กรของพยาบาลที่ทำงานในโรงพยาบาลภายใต้การดูแลของรอยัลไทยใหญ่กองทัพวัสดุและวิธีการ: เหลววิเคราะห์การวิจัยใน 128 พยาบาลใหญ่ทำงานในโรงพยาบาลภายใต้การอำนาจของทหาร ได้รวบรวมข้อมูล โดยส่งแบบสอบถาม จำนวนแบบสอบถามเสร็จสมบูรณ์ 117(91.4%) ได้รับการวิเคราะห์ วิเคราะห์ทางสถิติโดยใช้สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันผลิตภัณฑ์ผล: พบว่า ลักษณะความเป็นผู้นำในสถานการณ์ไม่ correlated กับความพึงพอใจในงานและความมุ่งมั่นขององค์กรของพยาบาลหัว พนักงานพยาบาลงานลักษณะมีต่ำระดับของความสัมพันธ์ในเชิงบวกกับความพึงพอใจในงาน และองค์กรความมุ่งมั่นของพยาบาลใหญ่ที่สำคัญของระดับ 0.05 (r = 0.202 และ 0.189 ตามลำดับ)สรุป: ผู้ดูแลโรงพยาบาลควรกำหนดนโยบายเพื่อปรับปรุงการทำงานของระบบ การจัดการทรัพยากรมนุษย์และกำหนดนโยบายและกลยุทธ์ที่ยึดความเป็นผู้นำในสถานการณ์ นอกจากนี้ พวกเขาควรปรับปรุงลักษณะของพนักงานพยาบาลงานโดยสำรวจการได้รับความพึงพอใจในงานและความมุ่งมั่นขององค์กรคำสำคัญ: ภาวะผู้นำในสถานการณ์ลักษณะ พนักงานพยาบาลลักษณะงาน ความพึงพอใจในงาน ความมุ่งมั่นขององค์กร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์:
เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบการเป็นผู้นำสถานการณ์งานพยาบาลพนักงานลักษณะกับงานความพึงพอใจและความผูกพันต่อองค์การของหัวหน้าหอผู้ที่ทำงานในโรงพยาบาลสังกัดกองทัพกองทัพ. วัสดุและวิธีการตัดศึกษาวิเคราะห์ได้ดำเนินการใน 128 หัวหน้าหอผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่ทำงานภายใต้เขตอำนาจของกองทัพบก เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามส่งทางไปรษณีย์ รวมแบบสอบถามเสร็จสมบูรณ์ 117 (91.4%) ที่ได้รับสำหรับการวิเคราะห์ การวิเคราะห์ทางสถิติที่ได้กระทำโดยใช้เพียร์สันของค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์. ผลการศึกษาพบว่ารูปแบบการเป็นผู้นำในสถานการณ์ที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับความพึงพอใจและความผูกพันต่อองค์การของหัวหน้าหอผู้ป่วย ลักษณะงานพนักงานพยาบาลมีระดับต่ำของความสัมพันธ์ทางบวกกับความพึงพอใจในงานและองค์กรที่มุ่งมั่นของหัวหน้าหอผู้ป่วยที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 (r = 0.202 และ 0.189 ตามลำดับ). สรุป: ผู้บริหารโรงพยาบาลควรกำหนดนโยบายที่จะปรับปรุงระบบการทำงานการบริหารทรัพยากรมนุษย์และกำหนดนโยบายและกลยุทธ์ในการเป็นผู้นำตามสถานการณ์ นอกจากนี้พวกเขาควรจะปรับปรุงลักษณะของงานพนักงานพยาบาลโดยใช้การสำรวจที่จะได้รับความพึงพอใจและความผูกพันต่อองค์การ. คำสำคัญ: รูปแบบการเป็นผู้นำสถานการณ์เจ้าหน้าที่พยาบาลลักษณะงานพึงพอใจในงานมุ่งมั่นขององค์กร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัตถุประสงค์ : เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบภาวะผู้นำ สถานการณ์ ลักษณะงานพยาบาลกับความพึงพอใจในงานและความผูกพันต่อองค์การของ
หัวหน้าหอผู้ป่วยที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาล สังกัดกองทัพบก

หลวง วัสดุและวิธีการ : การศึกษาเชิงวิเคราะห์ภาคตัดขวาง ทำการศึกษาใน 128 หัวหน้างานทำงานในโรงพยาบาลสังกัด
สังกัดกองทัพบก เก็บรวบรวมข้อมูลโดยส่งแบบสอบถาม ทั้งหมด 117 สมบูรณ์จำนวน
( 72% ) การวิจัย การวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ โดยใช้ค่าสหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน
ผลพบว่า ภาวะผู้นำตามสถานการณ์ มีความสัมพันธ์กับความพึงพอใจในงานและความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การของพยาบาลหัวหน้าหอผู้ป่วย
.ลักษณะงานของพยาบาลประจำการมีความสัมพันธ์ทางบวกกับระดับของความพึงพอใจในงานและความผูกพันต่อองค์การ
ของหัวหน้าหอผู้ป่วยอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ( r = 0.202 ตามลำดับ และ 0.189 )
สรุปผู้บริหารโรงพยาบาล ควรกำหนดนโยบายเพื่อปรับปรุงระบบการทำงาน การบริหารทรัพยากรมนุษย์
และกำหนดนโยบายและกลยุทธ์ในการเป็นผู้นำตามสถานการณ์นอกจากนี้พวกเขาควรจะปรับปรุงคุณลักษณะของบุคลากรพยาบาลงาน
โดยใช้การสำรวจที่จะได้รับความพึงพอใจในงานและความผูกพันต่อองค์การ
คำสำคัญ : รูปแบบภาวะผู้นำของพยาบาล สถานการณ์ ลักษณะงาน ความพึงพอใจในงาน ความผูกพันต่อองค์การ