The effects of a combination of aci

The effects of a combination of acid and heat-moisture treatment on formation of resistant starch (RS)
and characteristics of high-amylose, normal and waxy rice starches were investigated in this study.
The degrees of polymerization of the rice starches treated with citric acid, lactic acid or acetic acid were
significantly reduced as compared to the native starches. The RS contents of acid and heat-moisture treated
rice starches were in a range of 30.1–39.0%, significantly higher than those of native rice starches
(6.3–10.2%) and those of heat-moisture treated rice starches (18.5–23.9%). The acid and heat-moisture
treatments reduced swelling power and viscosity, but increased solubility of the starches, while the crystalline
structure did not change. Among the organic acids used, citric acid had the most impact on starch
characteristics and RS formation, followed by lactic acid and acetic acid. The results are useful in production
of RS for functional food application.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลกระทบของการรวมกันของกรดและความร้อนความชื้นรักษาเกี่ยวกับการก่อตัวของแป้งทน (RS)และลักษณะของปริมาณแอมิ โลสสูง ปกติ และแว็กซี่งอกถูกตรวจสอบในการศึกษานี้องศาของ polymerization ของงอกรักษา ด้วยกรดซิตริก กรดแลกติก หรือกรดน้ำส้มได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับสมบัติดั้งเดิม ถือว่าเนื้อหา RS ของกรดและความร้อนความชื้นงอกได้ในช่วง 30.1 – 39.0% อย่างมีนัยสำคัญสูงกว่าบรรดาเจ้างอก(6.3-10.2%) และของความร้อนความชื้นถือว่างอก (18.5 – 23.9%) กรดและความร้อนความชื้นรักษาลดพลังงานบวม และความหนืด แต่ละลายที่เพิ่มขึ้นของสมบัติ ในขณะผลึกไม่ได้เปลี่ยนโครงสร้าง ระหว่างกรดอินทรีย์ที่ใช้ กรดซิตริกมีผลกระทบมากที่สุดบนแป้งลักษณะและก่อตัว RS ตาม ด้วยกรดแลกติกและกรดอะซิติก ผลลัพธ์มีประโยชน์ในการผลิตอาร์เอสสำหรับทำอาหาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลกระทบจากการรวมกันของการรักษากรดและความร้อนความชื้นในการก่อตัวของแป้งทน (RS)
และลักษณะของสูงอะไมโลสปกติและแป้งข้าวเหนียวถูกตรวจสอบในการศึกษานี้.
องศาของพอลิเมอของสตาร์ชข้าวรับการรักษาด้วยกรดซิตริก ,
กรดแลคติกหรือกรดอะซิติกได้รับการลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับแป้งพื้นเมือง เนื้อหาอาร์เอสของกรดและความร้อนความชื้นได้รับการรักษาตาร์ชข้าวอยู่ในช่วงของ 30.1-39.0% อย่างมีนัยสำคัญสูงกว่าสตาร์ชข้าวพื้นเมือง (6.3-10.2%) และผู้ที่ความร้อนความชื้นได้รับการรักษาแป้งข้าว (18.5-23.9% ) กรดและความร้อนความชื้นการรักษากำลังการพองตัวลดลงและความหนืดแต่ละลายที่เพิ่มขึ้นของสตาร์ชในขณะที่ผลึกโครงสร้างไม่ได้เปลี่ยน ในบรรดากรดอินทรีย์ที่ใช้กรดซิตริกมีผลกระทบมากที่สุดในแป้งลักษณะและการก่ออาร์เอสตามด้วยกรดแลคติกและกรดอะซิติก ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นประโยชน์ในการผลิตของอาร์เอสสำหรับการประยุกต์ใช้อาหารทำงาน