Biological control of bacterial wil

Biological control of bacterial wilt pathogen (Ralstonia solanacearum) of tomato using endophytic bacteria is
one of the alternative control methods to support sustainable agriculture. This study was conducted to select and
characterize endophytic bacteria isolated from healthy tomato stems and to test their ability to promote plant
growth and suppress bacterial wilt disease. Among 49 isolates successfully isolated, 41 were non-plant pathogenic.
Green house test on six selected isolates based on antagonistic effect on R. solanacearum or ability to suppress R.
solanacearum population in dual culture assays obtained BC4 and BL10 isolates as promising biocontrol agents.
At six weeks after transplanting, plants treated with BC4 isolate showed significantly lower disease incidence
(33%) than that of control (83%). Plants height was not significantly affected by endophytic bacterial treatments.
Based on 16S rRNA sequence, BC4 isolate had 97% similarity with Staphylococcus epidermidis (accession number
EU834240.1), while isolate BL10 had 98% similarity with Bacillus amyloliquefaciens strain JK-SD002 (accession
number AB547229.1).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ควบคุมเชื้อโรคเหี่ยวจากแบคทีเรีย (Ralstonia solanacearum) ของมะเขือเทศใช้ endophytic แบคทีเรียเป็นหนึ่งในวิธีการควบคุมอื่นเพื่อสนับสนุนเกษตรกรรมยั่งยืน ดำเนินการวิจัยนี้เพื่อเลือก และลักษณะ endophytic แบคทีเรียที่แยก จากลำต้นมะเขือเทศเพื่อสุขภาพ และ เพื่อทดสอบความสามารถในการส่งเสริมพืชเจริญเติบโต และระงับโรคเหี่ยวจากแบคทีเรีย ระหว่าง 49 แยกแยกเรียบร้อย 41 ถูกพืชไม่ทำให้เกิดโรคทดสอบบ้านสีเขียวหกเลือกแยกตามผลต่อ R. solanacearum หรือความสามารถในการระงับ R. ปรปักษ์ประชากร solanacearum assays สองวัฒนธรรมได้ BC4 และ BL10 แยกสัญญาเป็น biocontrol แทนเวลาหกสัปดาห์หลังจากทำการย้าย พืชรักษา ด้วย BC4 แยกอุบัติการณ์โรคต่ำแสดงให้เห็น(33%) มากกว่าการควบคุม (83%) ความสูงของพืชถูกไม่มากมีผลกระทบ โดยรักษาแบคทีเรีย endophyticตามลำดับ 16S rRNA, BC4 isolate ได้ 97% คล้ายคลึงกับ Staphylococcus epidermidis (เลขทะเบียนEU834240.1), ในขณะ isolate BL10 98% คล้ายคลึงกับสายพันธุ์ Bacillus amyloliquefaciens JK SD002 (ภาคยานุวัติหมายเลข AB547229.1)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การควบคุมทางชีวภาพของเชื้อโรคเหี่ยว (Ralstonia solanacearum) มะเขือเทศโดยใช้แบคทีเรียเอนโดไฟต์เป็น
หนึ่งในวิธีการควบคุมทางเลือกที่จะสนับสนุนการทำการเกษตรแบบยั่งยืน การศึกษาครั้งนี้ได้ดำเนินการในการเลือกและ
ลักษณะของเชื้อแบคทีเรียเอนโดไฟต์ที่แยกได้จากมะเขือเทศมีสุขภาพดีลำต้นและเพื่อทดสอบความสามารถของพวกเขาในการส่งเสริมพืช
เจริญเติบโตและปราบปรามโรคเหี่ยว ในบรรดา 49 แยกแยกได้ประสบความสำเร็จใน 41 ก็ไม่ใช่โรคพืช.
ทดสอบกรีนเฮ้าส์ในหกสายพันธุ์เลือกขึ้นอยู่กับผลกระทบที่เป็นปฏิปักษ์ในอาร์ solanacearum หรือความสามารถในการปราบปรามอาร์
ประชากร solanacearum ในการตรวจรับวัฒนธรรมคู่ BC4 และ BL10 แยกตัวแทนควบคุมทางชีวภาพเป็นแนวโน้ม
หกสัปดาห์หลังจากการปลูกพืชรับการรักษาด้วย BC4 แยกแสดงให้เห็นว่าอัตราการเกิดโรคลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
(33%) กว่าที่ของการควบคุม (83%) ความสูงของพืชไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญโดยการรักษาแบคทีเรียเอนโดไฟท์.
ขึ้นอยู่กับลำดับ 16S rRNA, BC4 แยกมีความคล้ายคลึงกัน 97% กับเชื้อ Staphylococcus epidermidis (หมายเลขภาคยานุวัติ
EU834240.1) ในขณะที่แยก BL10 มีความคล้ายคลึงกัน 98% กับ Bacillus amyloliquefaciens สายพันธุ์ JK-SD002 (ภาคยานุวัติ
จำนวน AB547229.1)