Manualization was initially develop

Manualization was initially developed for the creation
of standardized treatment protocols for psychotherapy,
both to help provide methodologic rigor for
evaluation, and as a means to provide specificity and
guidelines regarding individualized treatment [31].
Massage therapy, as an intervention in clinical trials
has similar needs for methodologic rigor to standardize
patient-customized treatments and practitioner variation
[32,33]. In 2002, Schnyer and Allen published
their methodology on developing treatment manuals
for acupuncture interventions used in NIH-funded
trials. These manuals served as a means to facilitate
the training process, enable evaluation of conformity
and competence, and increase the ability to identify
the active therapeutic ingredients in clinical trials of
acupuncture [34]. The Institute of Medicine has noted
that manualization is an integral component for rigorous
research on CAM therapies.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Manualization ถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกเพื่อสร้างของโพรโทคอการรักษามาตรฐานสำหรับจิตแพทย์ทั้งช่วยให้ rigor methodologic สำหรับประเมินผล และวิธีให้ specificity และคำแนะนำเกี่ยวกับการรักษาเป็นรายบุคคล [31]นวดบำบัด เป็นการแทรกแซงในการทดลองทางคลินิกมีความต้องการคล้าย rigor methodologic เพื่อกำหนดมาตรฐานรักษาผู้ป่วยเองและผู้ประกอบการเปลี่ยนแปลง[32,33] . ใน 2002, Schnyer และอัลเลนเผยแพร่วิธีการในการพัฒนาคู่มือการรักษาสำหรับการรักษาฝังเข็มใช้ในการสนับสนุน NIHการทดลอง คู่มือเหล่านี้เป็นวิธีการอำนวยความสะดวกการฝึกอบรม การประเมินการเปิดใช้งานให้สอดคล้องและความสามารถ และเพิ่มความสามารถในการระบุส่วนผสมที่รักษาในคลินิกของฝังเข็ม [34] สถาบันการแพทย์ได้ตั้งข้อสังเกตmanualization ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับอย่างเข้มงวดงานวิจัยด้านบำบัด CAM

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Manualization ได้รับการพัฒนาในขั้นต้นสำหรับการสร้างของโปรโตคอลการรักษามาตรฐานสำหรับจิตบำบัดทั้งสองที่จะช่วยให้ความรุนแรงของกระบวนวิธีในการประเมินผลและเป็นวิธีการที่จะให้ความจำเพาะและแนวทางเกี่ยวกับการรักษาเป็นรายบุคคล[31]. นวดบำบัดเช่นการแทรกแซงในการทดลองทางคลินิกที่มีลักษณะคล้ายกันความต้องการสำหรับความรุนแรงของกระบวนวิธีที่จะสร้างมาตรฐานการรักษาผู้ป่วยที่กำหนดเองและรูปแบบที่ผู้ประกอบการ[32,33] ในปี 2002 อัลเลนและ Schnyer การเผยแพร่วิธีการของพวกเขาในการพัฒนาคู่มือการรักษาสำหรับการแทรกแซงการฝังเข็มใช้ใน NIH ได้รับการสนับสนุนการทดลอง คู่มือเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นวิธีการที่จะอำนวยความสะดวกในกระบวนการฝึกอบรมที่ช่วยให้การประเมินผลตามมาตรฐานและความสามารถและเพิ่มความสามารถในการระบุส่วนผสมที่ใช้งานในการรักษาการทดลองทางคลินิกของการฝังเข็ม[34] สถาบันการแพทย์ได้ตั้งข้อสังเกตว่า manualization เป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างเข้มงวดสำหรับการวิจัยเกี่ยวกับการบำบัดCAM