Our study population (n = 307) were

Our study population (n = 307) were male smokers working
in these noisy areas. Female workers were not included in
this study because of the low noise exposure (almost all
women were office workers). After direct interview by an
occupational medicine specialist, and considering exclusion
criteria (history of ototoxic drug consumption, diabetes
mellitus, hyperlipidemia, hypothyroidism, severe or frequent
ear infection, chronic middle ear pathology or major ear
operations, head injury, exposure to non-occupational noise,
such as amplified music, participation in war, and hunting,
noise exposure in previous job/jobs, unilateral or conductive
hearing loss or any kind of hearing loss with a known etiology
except for noise exposure), 55 persons were excluded from the
study [Table 1] and 252 male smokers who worked in noisy
workplaces comprised the target population (ex-smokers, i.e.
those who had quitted smoking were also excluded). Also
there were 453 male non-smoker workers in these noisy parts
(83 workers were excluded by applying the exclusion criteria).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประชากรของการศึกษา (n = 307) มีผู้สูบบุหรี่เพศชายที่ทำงานในพื้นที่เหล่านี้เสียงดัง แรงงานหญิงไม่รวมอยู่ในการศึกษานี้ เพราะแสงเสียงรบกวนต่ำ (เกือบทั้งหมดผู้หญิงสำนักงานแรงงาน) หลังจากการสัมภาษณ์โดยตรงโดยการผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ครอบครัว และแยกพิจารณาเงื่อนไข (ประวัติการใช้ยา ototoxic โรคเบาหวานหวาน ไขมันในเลือดสูง พร่อง รุนแรง หรือบ่อยหูติดเชื้อ พยาธิเรื้อรังกลางหู หรือหูใหญ่การดำเนินงาน บาดเจ็บที่หัว สัมผัสเสียงไม่ใช่อาชีวเพลงเอาต์ เข้าร่วมในสงคราม การล่าสัตว์แสงเสียงในงานก่อนหน้านี้งาน / ฝ่าย หรือไฟฟ้าสูญเสียการได้ยินหรือสูญเสียการได้ยินด้วยวิชาการรู้จักชนิดใดยกเว้นเสียงแสง), 55 คนถูกแยกออกจากการศึกษา[ตาราง 1] และผู้สูบบุหรี่เพศชายทั้งหมด 252 ชิ้นที่ทำงานในที่เสียงดังทำงานประกอบด้วยประชากรเป้าหมาย (อดีตสูบ เช่นผู้ที่มี quitted บุหรี่ถูกยังไม่รวม) นอกจากนี้มีคนไม่สูบบุหรี่เพศชาย 453 ในส่วนนี้คะ(83 คนถูกแยกออก โดยใช้เกณฑ์แยก)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประชากรศึกษาของเรา (n = 307)
เป็นผู้สูบบุหรี่ชายที่ทำงานในพื้นที่ที่มีเสียงดังเหล่านี้ คนงานหญิงที่ไม่ได้รวมอยู่ในการศึกษาครั้งนี้เพราะการสัมผัสเสียงต่ำ(เกือบทั้งหมดผู้หญิงสำนักงานแรงงาน) หลังจากการสัมภาษณ์โดยตรงโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์การประกอบอาชีพและการพิจารณายกเว้นหลักเกณฑ์(ประวัติศาสตร์ของการใช้ยาเสพติด ototoxic โรคเบาหวานโรคเบาหวานไขมันในเลือดสูง, พร่องรุนแรงหรือบ่อยติดเชื้อที่หูพยาธิวิทยาหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรังหรือหูที่สำคัญการดำเนินงานการบาดเจ็บที่ศีรษะสัมผัสกับที่ไม่ได้ประกอบอาชีพเสียงเช่นเพลงขยายการมีส่วนร่วมในการทำสงครามและการล่าสัตว์การสัมผัสเสียงในงานก่อนหน้า/ งานฝ่ายเดียวหรือสื่อกระแสไฟฟ้าสูญเสียการได้ยินหรือชนิดของการสูญเสียการได้ยินด้วยสาเหตุใดๆยกเว้นสำหรับการเปิดรับเสียง) 55 คนได้รับการยกเว้นจากการศึกษา[ตารางที่ 1] และผู้สูบบุหรี่ 252 ชายที่ทำงานในที่มีเสียงดังสถานที่ทำงานที่ประกอบด้วยประชากรเป้าหมาย(อดีตผู้สูบบุหรี่คือผู้ที่เลิกสูบบุหรี่ได้รับการยกเว้นด้วย) นอกจากนี้มี 453 คนงานชายไม่สูบบุหรี่ในส่วนที่มีเสียงดังเหล่านี้ (83 คนงานที่ได้รับการยกเว้นโดยใช้หลักเกณฑ์การยกเว้น)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาประชากรของเรา ( n = 0 ) เป็นเพศชาย ผู้ทำงาน
ในพื้นที่ดังนี้ คนงานหญิงที่ไม่ได้ถูกรวมอยู่ในการศึกษานี้เนื่องจากการเปิดรับ
เสียงต่ำ ( ผู้หญิงเกือบทั้งหมด
ทำงานสำนักงาน ) หลังจากโดยตรงโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์อาชีว
สัมภาษณ์ และพิจารณาหลักเกณฑ์การยกเว้น
( ประวัติศาสตร์ของการบริโภคยา ototoxic เบาหวาน
โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง , hypothyroidism ,รุนแรง หรือ บ่อย
หูติดเชื้อเรื้อรัง โรคหูชั้นกลางหรือสาขาหู
ปฏิบัติการ ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ การอาชีพ ไม่ใช่เสียง
เช่นเพลงขยายการมีส่วนร่วมในสงครามและการล่าสัตว์
การสัมผัสเสียงดังในงานงาน / ก่อนหน้านี้ฝ่ายเดียวหรือ conductive
การสูญเสียการได้ยินหรือชนิดใด ๆของการสูญเสียการได้ยินด้วยทราบสาเหตุ
ยกเว้นการสัมผัสเสียงดัง ) 55 คนได้รับการยกเว้นจาก
การศึกษา [ 1 ] และโต๊ะ 252 ชายสูบบุหรี่ที่ทำงานในสถานประกอบการที่มีเสียงดัง
ประกอบด้วยประชากรเป้าหมาย ( อดีตผู้สูบบุหรี่ คือผู้ที่เลิกสูบบุหรี่
ยังไม่รวม ) นอกจากนี้
มี 453 ชายสูบบุหรี่ คนงานเหล่านี้เสียงดังส่วน
( 83 คน งานแยกออกโดยใช้การยกเว้นหลักเกณฑ์ )