From the Western view, it is claime

From the Western view, it is claimed that globalization started in the West. However, people are still in conflict in determining the exact date of the existence of globalization. According to Palmisano (2001, p. 277) in his book ‘World of Sociology’, “its (globalization) origins are most properly traced to European colonial expansion in the century”. While Burbules and Torres (2000) state that the origin of globalization is still regarded as a central dilemma, that is, whether it appeared around 1971-1973 or more than a century ago. Some say that globalization happened soon after World War II and the process apparently existed starting in 1989, after the fall of the Soviet Union Communist government (Lubbers, 1996). There is also a view saying that it appeared a long time ago, together with the existence of the imperialist power. At that time, big empires like Rome and Paris tried to influence other countries through new cultures and new ways of thinking. Through their power, the empires were succeeding in spreading its culture, customs, language, and ideas in order to change other nations (Osman, 2000).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จากมุมมองตะวันตก มันจะอ้างว่า โลกาภิวัตน์นั้นเริ่มต้นในตะวันตก อย่างไรก็ตาม คนยังอยู่ในความขัดแย้งในการกำหนดวันแน่นอนของการดำรงอยู่ของโลกาภิวัตน์ ตาม Palmisano (2001, p. 277) ในหนังสือของเขา 'โลกของสังคมวิทยา" "กำเนิด (โลกาภิวัตน์) สุดถูกสืบค้นกลับการขยายอาณานิคมยุโรปในศตวรรษ" ในขณะที่ Burbules และทอร์เรส (2000) สถานะที่ต้นกำเนิดของโลกาภิวัตน์ยังคงถือเป็นลำบากใจเป็นกลาง คือ หรือไม่ปรากฏปี 1971-1973 หรือมากกว่าศตวรรษที่ผ่านมา บางคนบอกว่า โลกาภิวัตน์เกิดขึ้นหลังจากสงครามโลก และกระบวนการเห็นได้ชัดอยู่เริ่มต้นในปี 1989 หลังจากการล่มสลายของรัฐบาลคอมมิวนิสต์ของสหภาพโซเวียต (Lubbers, 1996) นอกจากนี้ยังมีมุมมองที่บอกว่า ปรากฏนานมาแล้ว พร้อมกับการดำรงอยู่ของอำนาจจักรวรรดินิยม ในขณะนั้น จักรวรรดิขนาดใหญ่เช่นโรมและปารีสพยายามมีอิทธิพลต่อประเทศอื่น ๆ วัฒนธรรมใหม่และวิธีใหม่ในการคิด ผ่านอำนาจ จักรวรรดิไม่ประสบความสำเร็จในการแพร่กระจายของวัฒนธรรม ประเพณี ภาษา และความคิดเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศอื่น ๆ (Osman, 2000)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จากมุมมองตะวันตกก็จะอ้างว่าโลกาภิวัตน์เริ่มต้นในเวสต์ แต่คนที่ยังคงอยู่ในความขัดแย้งในการกำหนดวันที่แน่นอนของการดำรงอยู่ของโลกาภิวัตน์ ตาม Palmisano (2001 พี. 277) ในหนังสือของเขา 'โลกของสังคมวิทยา', "มัน (โลกาภิวัตน์) ต้นกำเนิดมีการตรวจสอบมากที่สุดอย่างถูกต้องเพื่อขยายอาณานิคมยุโรปในศตวรรษ" ในขณะที่ Burbules และ Torres (2000) ระบุว่าที่มาของกระแสโลกาภิวัตน์ได้รับการยกย่องว่าเป็นภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกกลางนั่นคือไม่ว่าจะปรากฏตัวขึ้นรอบ 1971-1973 หรือกว่าศตวรรษที่ผ่านมา บางคนบอกว่าโลกาภิวัตน์ที่เกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองและกระบวนการที่เห็นได้ชัดว่ามีอยู่เริ่มต้นในปี 1989 หลังจากการล่มสลายของรัฐบาลคอมมิวนิสต์สหภาพโซเวียต (งุ่มง่าม, 1996) นอกจากนี้ยังมีมุมมองที่บอกว่ามันปรากฏตัวเป็นเวลานานที่ผ่านมาพร้อมกับการดำรงอยู่ของอำนาจจักรวรรดินิยม ในขณะที่จักรวรรดิใหญ่เช่นกรุงโรมและปารีสพยายามที่จะมีอิทธิพลต่อประเทศอื่น ๆ ผ่านทางวัฒนธรรมใหม่และวิธีการใหม่ของการคิด โดยผ่านอำนาจของพวกเขาถูกจักรวรรดิประสบความสำเร็จในการแพร่กระจายวัฒนธรรมประเพณีภาษาและความคิดเพื่อที่จะเปลี่ยนประเทศอื่น ๆ (ออสมัน, 2000)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากมุมมองตะวันตก จะอ้างว่าโลกาภิวัตน์เริ่มในตะวันตก อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังคงมีความขัดแย้งในการกำหนดวันที่แน่นอนของการมีอยู่ของโลกาภิวัตน์ ตามช่วง ( 2544 , หน้า 277 ) ในหนังสือของเขา ' ' โลกของสังคมวิทยา " ( โลกาภิวัตน์ ) กำเนิดส่วนใหญ่ถูกต้องติดตามการขยายอาณานิคมของยุโรปในศตวรรษ "และในขณะที่ burbules ตอร์เรส ( 2000 ) ระบุว่า ที่มาของกระแสโลกาภิวัตน์ ยังถือว่าเป็นภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก กลาง นั่นคือ ไม่ว่าจะปรากฏอยู่ 1971-1973 หรือมากกว่าศตวรรษที่ผ่านมา บางคนบอกว่าโลกาภิวัตน์เกิดขึ้นไม่นานหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองและกระบวนการที่เห็นได้ชัดมีอยู่เริ่มในปี 1989 หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตรัฐบาลคอมมิวนิสต์ ( ลับเบิร์ส , 1996 )นอกจากนี้ยังมีมุมมองว่ามันปรากฏมานานแล้ว พร้อมกับการดำรงอยู่ของจักรวรรดินิยมอำนาจ ตอนนั้น อาณาจักรใหญ่อย่างโรมและปารีส พยายามที่จะมีอิทธิพลต่อประเทศอื่นผ่านวัฒนธรรมใหม่และวิธีการใหม่ของการคิด ผ่านอำนาจของจักรวรรดิได้ประสบความสำเร็จในการแพร่กระจายของวัฒนธรรม ประเพณี ภาษา และความคิดในการเปลี่ยนแปลงประเทศอื่น ( ออสแมน , 2000 )