ConclusionThe immobilised particles

Conclusion
The immobilised particles provide a number of advantages. The individual spherical particles had a diameter of between 0.5–10 μm, but tended to form aggregates with an average particle volume distribution of 100 μm. The size could be controlled through addition of surfactant and variations in protein concentration. The particles were robust enough to be recovered by centrifugation and filtration, and to be recycled for further reactions. They present lipase enzymes with the active sites selectively orientated towards the exterior of the particle. Co-immobilisation with other enzymes, or other proteins such as albumin, was also demonstrated. Moreover, higher activity for small ester molecules could be achieved by the immobilised enzyme particles than for free enzyme, presumably because the lipase conformation required for catalysis had been locked in place during immobilisation. The immobilised enzymes also demonstrated superior activity in organic solvent compared to the original free enzyme. This type of self-immobilised enzyme particle has been named spherezymes.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สรุปอนุภาค immobilised ให้ได้เปรียบ อนุภาคทรงกลมแต่ละมีเป็นเส้นผ่านศูนย์กลางระหว่าง 0.5-10 ไมครอน แต่แนวโน้มที่จะฟอร์มผลกับการกระจายปริมาณอนุภาคเฉลี่ยของ 100 ไมครอน ขนาดที่สามารถควบคุมผ่านของสารทำความสะอาดและการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของโปรตีน อนุภาคที่แข็งแกร่งพอ ที่จะกู้คืน โดยหมุนเหวี่ยงและการกรอง และรีไซเคิลสำหรับปฏิกิริยาต่อไปได้ พวกเขามีเอนไซม์เอนไซม์ไลเปสที่ไซต์ใช้งานเลือกที่จะเน้นไปทางด้านนอกของอนุภาค Immobilisation ร่วมกับเอนไซม์อื่น ๆ หรือโปรตีนอื่น ๆ เช่น albumin ก็ยังมีการแสดงให้เห็น นอกจากนี้ กิจกรรมสูงขึ้นโมเลกุลเล็กเอสอาจทำได้ ด้วยอนุภาคเอนไซม์ immobilised กว่าสำหรับฟรีเอนไซม์ สันนิษฐานว่าเนื่องจากโครงสร้างของเอนไซม์ไลเปสที่จำเป็นสำหรับเร่งปฏิกิริยาได้ถูกล็อกในระหว่าง immobilisation เอนไซม์ immobilised ยังแสดงให้เห็นว่าเหนือกว่ากิจกรรมในตัวทำละลายอินทรีย์เปรียบเทียบกับเอนไซม์นี้ฟรีเดิม ชนิดของอนุภาคเอนไซม์ immobilised ตนเองนี้ได้รับการยกย่อง spherezymes

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สรุป
อนุภาคตรึงให้จำนวนหนึ่งได้เปรียบ อนุภาคทรงกลมของแต่ละบุคคลมีเส้นผ่าศูนย์กลางระหว่าง 0.5-10 ไมโครเมตร แต่มีแนวโน้มไปในรูปแบบมวลรวมที่มีการกระจายปริมาณอนุภาคเฉลี่ย 100 ไมครอน ขนาดสามารถควบคุมผ่านการเพิ่มลดแรงตึงผิวและรูปแบบในโปรตีนเข้มข้น อนุภาคที่มีความแข็งแกร่งพอที่จะกู้คืนโดยการหมุนเหวี่ยงและกรองและนำกลับมาใช้สำหรับปฏิกิริยาต่อไป พวกเขานำเสนอเอนไซม์ไลเปสกับเว็บไซต์ที่ใช้งานที่เน้นการคัดเลือกต่อภายนอกของอนุภาค ร่วมกับเอนไซม์ตรึงอื่น ๆ หรือโปรตีนอื่น ๆ เช่นอัลบูมิก็ยังแสดงให้เห็นถึง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่สูงขึ้นสำหรับเอสเตอร์โมเลกุลขนาดเล็กจะประสบความสำเร็จโดยอนุภาคเอนไซม์ตรึงกว่าเอนไซม์อิสระคงเพราะโครงสร้างเอนไซม์ไลเปสที่จำเป็นสำหรับการเร่งปฏิกิริยาได้รับการถูกขังอยู่ในสถานที่ในระหว่างการตรึง เอนไซม์ตรึงยังแสดงให้เห็นถึงกิจกรรมที่เหนือกว่าในตัวทำละลายอินทรีย์เมื่อเทียบกับเอนไซม์ฟรีต้นฉบับ ประเภทของตัวเองตรึงอนุภาคเอนไซม์นี้ได้รับการตั้งชื่อ spherezymes

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สรุปอนุภาคที่ตรึงให้หมายเลขของข้อได้เปรียบ แต่ละอนุภาคทรงกลม มีเส้นผ่าศูนย์กลางระหว่าง 0.5 - 10 μม. แต่มีแนวโน้มที่จะฟอร์มมวลรวมที่มีปริมาณการกระจายของอนุภาคเฉลี่ย 100 μม. ขนาดสามารถควบคุมผ่านเพิ่มสารลดแรงตึงผิวและการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของโปรตีน มีส่วนที่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะกู้คืนโดยการปั่นเหวี่ยงและการกรอง และสามารถรีไซเคิลสำหรับปฏิกิริยาต่อไป เอนไซม์ไลเปสพวกเขาปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่ใช้งาน โดยเน้นไปที่ด้านนอกของอนุภาค Co immobilisation ด้วยเอนไซม์อื่นๆหรือโปรตีนเช่นอัลบูมิน ยังแสดงให้เห็นถึง นอกจากนี้กิจกรรมสูงกว่าโมเลกุลของเอสเทอร์ขนาดเล็กได้ โดยตรึงเอนไซม์อนุภาคมากกว่าสำหรับเอนไซม์ฟรี สันนิษฐานว่า เพราะมีโครงสร้างที่จำเป็นสำหรับการเร่งปฏิกิริยาถูกล็อคไว้ในสถานที่ในระหว่าง immobilisation . ยังแสดงให้เห็นถึงกิจกรรมที่เหนือกว่าเอนไซม์ที่ตรึงในตัวทำละลายอินทรีย์เมื่อเทียบกับเอนไซม์ฟรีต้นฉบับ ของตนเองตรึงเอนไซม์อนุภาคชนิดนี้ได้รับการตั้งชื่อ spherezymes .