In 2012, several peer reviewed inde

In 2012, several peer reviewed independent studies were published showing that several neonicotinoids had previously undetected routes of exposure affecting bees including through dust, pollen, and nectar; that sub-nanogram toxicity resulted in failure to return to the hive without immediate lethality, the primary symptom of colony collapse disorder; and showing environmental persistence in agricultural irrigation channels and soil. However, not all studies have found significant effects, and the studies carried out to date have not reached a clear conclusion on the impacts of neonicotinoids.[13] These reports prompted a formal peer review by the European Food Safety Authority, which stated in January 2013 that neonicotinoids pose an unacceptably high risk to bees, and that the industry-sponsored science upon which regulatory agencies' claims of safety have relied on may be flawed and contain several data gaps not previously considered.[14] In April 2013, the European Union voted for a two-year restriction on neonicotinoid insecticides. The ban restricts the use of imidacloprid, clothianidin, and thiamethoxam on crops that attract bees.[15]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใน 2012 การศึกษาอิสระหลายสื่อสาธารณะถูกประกาศแสดงว่า neonicotinoids หลายมีก่อนหน้านี้ตรวจไม่พบเส้นทางของแสงส่งผลต่อผึ้งรวมทั้งฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ และ ว่า พิษ nanogram ย่อยส่งผลให้เกิดความล้มเหลวเพื่อกลับไปยังรังโดยทันที lethality อาการหลักของโรคยุบอาณานิคม และการแสดงมีอยู่สิ่งแวดล้อมในดินและช่องเกษตรชลประทาน อย่างไรก็ตาม การศึกษาทั้งหมดไม่พบผลที่สำคัญ และการศึกษาที่ดำเนินการกับวันได้มาถึงข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของ neonicotinoids [13] รายงานเหล่านี้ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการทบทวน โดยการยุโรปอาหารปลอดภัย ซึ่งระบุไว้ใน 2556 มกราคมว่า neonicotinoids ก่อให้เกิดความเสี่ยงสูง unacceptably ไปผึ้ง และวิทยาศาสตร์สนับสนุนอุตสาหกรรมตามที่เรียกร้องหน่วยงานกำกับดูแลความปลอดภัยพึ่งอาจมีข้อบกพร่อง และประกอบด้วยช่องว่างข้อมูลหลายที่ไม่เคย ถือว่า ภายใน 2556 เมษายน สหภาพยุโรปลงคะแนนสำหรับข้อจำกัดสองปีในยาฆ่าแมลง neonicotinoid ห้าม จำกัดการใช้ของ imidacloprid, clothianidin และ thiamethoxam บนพืชที่ดึงดูดผึ้ง [15]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี 2012 หลายทบทวนการศึกษาอิสระถูกตีพิมพ์แสดงให้เห็นว่าหลาย neonicotinoids มีเส้นทางที่ไม่สามารถตรวจพบก่อนหน้านี้มีผลกระทบต่อการสัมผัสผึ้งรวมถึงฝุ่นละอองเกสรและน้ำหวาน; ที่เป็นพิษย่อยนาโนกรัมส่งผลให้ในความล้มเหลวที่จะกลับไปที่รังโดยไม่ต้องตายทันทีอาการหลักของปรากฏการณ์รังผึ้งล่มสลาย; และการแสดงความคงทนสิ่งแวดล้อมในช่องทางการเกษตรการชลประทานและดิน แต่ไม่ศึกษาทุกคนได้พบผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญและการศึกษาดำเนินการถึงวันที่ยังไม่ถึงข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของ neonicotinoids ได้. [13] รายงานเหล่านี้ได้รับแจ้งการทบทวนอย่างเป็นทางการโดยผู้มีอำนาจความปลอดภัยด้านอาหารยุโรปซึ่งระบุไว้ในเดือนมกราคม 2013 ที่ neonicotinoids ก่อให้เกิดความเสี่ยงสูงอย่างไม่น่าผึ้งและวิทยาศาสตร์อุตสาหกรรมได้รับการสนับสนุนตามที่เรียกร้องหน่วยงานกำกับดูแลของความปลอดภัยได้อาศัยอาจจะมีข้อบกพร่อง และมีข้อมูลหลายช่องว่างไม่ได้พิจารณาก่อนหน้านี้. [14] ในเดือนเมษายนปี 2013 สหภาพยุโรปได้รับการโหวตสำหรับข้อ จำกัด สองปีในยาฆ่าแมลง neonicotinoid ห้าม จำกัด การใช้ imidacloprid, clothianidin และ thiamethoxam กับพืชที่ดึงดูดผึ้ง. [15]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2012 หลายตรวจสอบการศึกษาอิสระถูกเผยแพร่แสดงให้เห็นว่างหลายได้พบก่อนหน้านี้ เส้นทางของแสงที่มีผลต่อผึ้งรวมทั้งฝุ่นละอองเกสรและน้ำหวาน ที่พิษขัดขวางย่อยส่งผลให้เกิดความล้มเหลวในการกลับไปยังรังโดย Lethality ทันที อาการหลักของความผิดปกติยุบอาณานิคม และแสดงการสิ่งแวดล้อมในช่องเกษตรชลประทานและ ดิน อย่างไรก็ตาม การศึกษาไม่พบความสัมพันธ์ และการศึกษาดำเนินการวันที่ยังไม่ได้ข้อยุติที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของ ง . [ 13 ] รายงานนี้ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการ ทบทวนโดยหน่วยงานความปลอดภัยด้านอาหารของยุโรป ซึ่งระบุไว้ในเดือนมกราคม 2013 ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงสูงง unacceptably ผึ้ง และที่ อุตสาหกรรมสนับสนุนวิทยาศาสตร์ตามที่หน่วยงานกำกับ ' อ้างความปลอดภัยได้อาศัยอาจจะสมบูรณ์และมีช่องว่างข้อมูลต่างๆก่อนหน้านี้ไม่ถือว่า [ 14 ] ในเดือนเมษายน 2556 , สหภาพยุโรปลงมติเพื่อยับยั้งสองปีในยาฆ่าแมลงนีโอนิโคตินอยด์ . บ้านจำกัดการใช้กำจัด clothianidin , และมีในพืชที่ดึงดูดผึ้ง [ 15 ]